งานประจำเงินเดือน 15,000 กับเวลา 10 เดือน = รถ 1 คัน :)

หวัดดีครับ ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ชีวิตวัยเริ่มต้นทำงานของผมให้ฟัง เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อใครซักคนหรือหลายคน

ผมอายุ 23 ปีปลาย จบการศึกษาจากคณะนิเทศฯ สาขาวิทยุและโทรทัศน์ ปัจจุบันทำงานเป็นช่างภาพอยู่ บ.โปรดักส์ชั่น แห่งหนึ่ง
ขอบอกก่อนเลยครับว่าวิชาชีพที่ผมทำงาน คือ ช่างภาพ เนี่ย ที่มหาลัยไม่ได้สอนเลยครับ สอนเน้นไปทางสายโปรดิวส์เซอร์ซะมากกว่า แต่ที่ได้วิชาช่างภาพมาเพราะเพื่อนครับ ตอนเรียนมันลากไปประกวดหนังสั้นของมหาลัย เราก็ลักจำมันเอาว่ามันทำอะไรยังไงบ้าง ตอนนี้ลักมันมาเยอะเลยครับ ทั้ง ถ่ายภาพ ตัดต่อ ฯลฯ สรุปแล้วชอบงานช่างภาพครับ เพราะผมไม่ชอบอยู่กับที่เหมือนพวกตัดต่อ ชอบออกไปนู่นนี่ เป็นคนอะเลิทครับ

เข้าเรื่องดีกว่า ผมทำงานที่นี่มาตั้งแต่เกรดยังออกไม่ครบครับ ถามว่าทำไมถึงกล้ามาสมัคร ? เพราะผมเป็นคนที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยตั้งแต่ปี 3 แล้วครับ เลยคิดว่าเรียนอย่างเดียวมันน่าเบื่อ หลักๆคืออยากมีเงินไว้ใช้น่ะครับ ตามประสาวัยรุ่น ไปเที่ยว กินเหล้า สังสรรค์ แบบที่ไม่ต้องเดือดร้อนพ่อแม่ครับ เพราะฐานะที่บ้านผมไม่ดีนักแถมยังมีน้องชายอีกตั้ง 2 คน

ขออนุญาติเล่านะครับอย่าเพิ่งเบื่อกัน ก่อนที่จะทำงานที่นี่ผมทำงานเป็นฟรีแลนซ์มาเรื่อยๆกับรุ่นพี่ครับ(ตอนนั้นปี 4) เค้าชวนไปทำ ตอนแรกดีใจมากเลยเพราะเป็นงานแรกที่เราชอบ ทำไปทำมาเริ่มไม่ใช่ครับ ได้ทำงานที่เรารักจริง แต่ไม่ได้เงินครับ รุ่นพี่แกจะมีเหตุผลว่า เดี๋ยวค่อยเอาตัง ตังยังไม่ได้บ้าง บลาๆๆ ด้วยความที่เราเป็นเด็กในตอนนั้น เค้าก็เป็นรุ่นพี่เราและชวนเรามาทำงานอีก เลย ไม่เป็นไรครับ คิดว่าเดี๋ยวก็คงได้ ... แต่มันไม่เดี๋ยวครับ โดนมาเรื่อยๆๆ จนเงินพอกพูน จากผมทำงานวันละ 1000 จนเพิ่มเป็น 6000 บาทที่เค้ายังไม่จ่าย คราวนี้เริ่มโวยครับ โวยไปโวยมา เค้าตัดหางผมเลยครับ ไม่เรียกไปทำงานอีก ไม่ติดต่อ โทรไปไม่รับ (พวกฟรีแลนซ์เค้าไม่มีออฟฟิสอยู่แล้วน่ะครับ เวลาประชุมงานก็จะไปคุยกันที่แมคฯบ้าง ร้านอาหารบ้าง เลยไม่รู้จะไปตามที่ไหนครับ) อีกทั้งเราเป็นเด็กด้วย กลัวจี้พี่แกมากๆมันจะดูไม่ดีไม่งาม เพราะเค้าชวนเรามาทำงาน คิดว่าเดี๋ยวเค้ามีเค้าคงให้(โลกสวย) ..

คิดงั้นก็เข้าทางรุ่นพี่เลยครับ หายยาว ... สุดท้ายผมก็เหลือตัวคนเดียวครับ ทีมงานที่เคยทำด้วยเค้าก็ยังทำงานกับรุ่นพี่คนนี้เหมือนเดิม แต่ไม่มีใครติดต่อผมมาเลย (โดนสั่งไว้รึเปล่าไม่รู้) จากคอนนเนคชั่นที่พอจะมีบ้าง (ทำงานสายนี้ต้องพึ่งคอนเนคชั่นเยอะครับ) ตอนนี้เหลือหัวเดียวกระเทียมเน่าครับ ...

(*******แก้ไขเพิ่มเติมครับ*******)
หลังจากเหลือหัวเดียวก็ดิ้นรนรับงานเองจนได้งานโฆษณาครับ มีงบให้ผม 2 หมื่นบาท ผมก็ทั้งเขียน สตอรี่บอร์ดให้ดูก่อนถ่ายทำว่าเสร็จแล้วจะออกมาแบบไหน เค้าก็โอเคครับ ก็เริ่มการถ่ายทำจนเสร็จทั้งหมด พอเอางานที่เสร็จแล้วไปให้ดูครับ กลับบอกว่าผมทำไม่ดี ไม่พอใจ เลยไม่ให้เงินส่วนที่เหลือครับ (ได้มัดจำมาแล้ว 1 หมื่น อีก 1 หมื่น โดนโกงครับเค้าไม่ให้) ทำให้เฟลหนักกว่าเดิมมากๆครับ *********

ทีนี้ครับ ไม่มีงานไม่มีเงิน ไม่ได้ขอแม่แล้วด้วยครับเพราะตั้งแต่เริ่มทำงานเป็นตอนปี 3 ก็ไม่ค่อยได้ขอครับถ้าไม่จำเป็น อยู่ห้องคนเดียว จะสมัครงานที่ไหนก็กลัวว่าเค้าจะไม่รับครับ เพราะตอนนั้นยังไม่จบเหลืออีก 1 เทอม จะไปทำพาร์ทไทม์ก็ไม่ใช่แนวเราอีก(รู้ตัวครับว่าเยอะ แต่เคยทำแล้วมันไม่เวิร์ค) นั่งคิดนอนคิดอยู่ในห้องคนเดียว ทำไงดีให้ได้เงินและเป็นอะไรที่เราค่อนข้างชอบ

สุดท้ายจบที่ แข่งเกมส์ครับ ผมเป็นเด็กเล่นเกมส์อยู่แล้ว เคยแข่งมาบ้างเรื่อยเปื่อย แต่ตอนนั้นเอาจริงครับ เล่นเป็นบ้าเป็นหลัง เพื่อจะเอาเงินมาเลี้ยงปากท้องตัวเองไม่อยากขอแม่ หลักๆก็จะเป็น RO ครับ หาของเทพมาขายเป็นเงินจริง และเกมส์อื่นๆอีก ก็พออยู่รอดครับ แต่ก็ไม่มากมายพอที่จะเอาเงินไปเที่ยวเล่นได้อยู่ดี

ทีนี้ปัญหามาครับ แม่ ผู้เคยเห็นว่าเราทำงานแล้ว กลับมาเห็นเราอยู่บ้าน เล่นแต่เกมส์ ถามสิครับว่าทำไม เกิดอะไรขึ้น พอเล่าให้ฟังแทนที่จะเห็นใจ โดนซ้ำเลยครับ "เห็นมั้ยบอกแล้ว ฟรีแลนซ์มันจะไปรอดอะไร งานมีก็มีเงิน งานไม่มีก็ไม่มีเงิน" ครับ จุกเลย พูดไม่ออก ก็จริงของเค้า แต่ผมก็บอกท่านว่า ผมกำลังหางานอยู่เรื่อยๆแต่ตอนนี้มันยังหาไม่ได้มากเท่าไหร่ เพราะยังไม่จบรอจบก่อนเดี๋ยวจะไปทำจริงจัง แต่แม่ก็ยังไม่เข้าใจครับ จะให้ผมไปทำพวกเด็กเสริ์ฟ อะไรพวกนี้ไปก่อน ถามว่าอยากทำมั้ย ไม่อยากครับ แต่ทำได้ แต่ที่ไม่ทำเพราะอีกประมาณ 2 เดือนผมก็จะจบแล้ว ถ้าเข้าไปทำจริง อีก2 เดือนผมก็ต้องลาออกมาทำงานที่ผมชอบอยู่ดี เครดิตการทำงานของผมมันก็จะดูแย่(รึเปล่า?) ผมคิดงี้ครับ เลยบอกแม่ไปว่า รอก่อนอีกแปปเดียว ตอนนี้ก็ไม่ได้ขอเงินใช้แล้ว เห็นใจบ้าง ...

แต่ถึงกระนั้นผมก็ไม่ได้นิ่งเฉยนะครับ ผมก็สมัครงานที่ชอบคือสายช่างภาพ ไปตามบ.ต่างๆ จากทางเว็ปสมัครงาน ผมก็บอกนะครับว่ายังไม่จบ เหลืออีก 1 ตัว แต่เผื่อเค้าจะรับครับ ลองส่งไปไม่ได้เสียหายอะไร พอผมบอกแม่ แม่ก็เลิกด่าไปซักพักครับ พอเวลาผ่านไปซัก2-3วัน เห็นผมเล่นคอม ก็กลับมาด่าผมเหมือนเดิม ว่าเอาแต่เล่นเกมส์ไม่หาสมัครงาน ผมก็บอกว่า ส่งไปแล้วมันก็ต้องมีกระบวนการตรวจสอบ ไหนจะเรียกสัมภาษณ์ ฟังผล บลาๆ มันต้องใช้เวลา แต่แม่ไม่เข้าใจครับ จะเอาเดี๋ยวนี้ตอนนี้ สมัครวันนี้พรุ่งนี้ต้องได้เลย ผมท้อมากครับตอนนั้น งานก็ไม่มี แม่ก็กดดัน ถึงกับเคยคิดฆ่าตัวตายเลยครับบอกตรงๆ เพราะไม่ได้มีแค่เรื่องนี้ครับ เรื่องหนี้ของที่บ้านด้วย ถึงกับขายรถแทกซี่ของพ่อเผื่อใช้หนี้ ตอนนั้นมืดมากครับ พ่อหรือแม่เวลามีเรื่องอะไรก็จะโทรมาปรึกษาผมทุกอย่าง เหมือนผมกลายเป็นหัวหน้าครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อยอะครับ เครียดมาก เข้าใจว่าที่แม่อยากให้มีงานทำไวๆเพราะอยากให้มาช่วยที่บ้าน แต่ผมก็พยายามอยู่ครับ แต่บางทีก็ต้องใช้เวลา

แต่เหตุที่ไม่ทำเพราะมองไปเห็นคนที่เค้าลำบากกว่าเราครับ เค้ายังสู้เลย เรามีครบทุกอย่าง เราก็ต้องสู้สิ

ผมก็ส่งสมัครงานมาเรื่อยๆครับ จนมาได้ที่นี่ ก่อนที่จะได้ที่นี่ก็มีอีกที่ครับ แต่ไม่อยากเล่าเดี๋ยวจะยาว มีเหตุเหมือนกัน แหะๆ
เริ่มทำงานวันแรกผมก็คิดถึงความฝันของผมก่อนเลยครับ ว่าผมอยากมีรถเป็นของตัวเองนานแล้ว แล้ว+กับที่บ้าน ขายรถไปแล้วจึงไม่มีรถใช้ครับ เวลาไปไหนมาไหนแต่ละทีลำบากมาก เพราะครอบครัวผม 5 คน จะหิ้วกันไปกับคนอื่นซะหมดก็เกรงใจเขา แม่ก็เป็นโรคคนแก่ครับ นั่งรถทัวร์นานๆไม่ได้ เจ็บหลัง บ้านยายอยู่ ร้อยเอ็ดครับ จะไปหายายทีก็ต้องรอน้าว่าง ไปเองก็ไม่ได้เจ็บร่างกาย เป็นห่วงแม่ครับ เลยอยากมีรถไว้ใช้ที่บ้านไวๆ

ผมจึงไม่คิดอะไรเลยครับ ผมต้องมีรถให้ได้เร็วที่สุด มันเป็นแรงผลักดันในการเก็บเงินของผมครับ
เดือนแรกผมทำบัญชี 2 เล่มครับ
1.ออมทรัพย์ธรรมดา + ATM (ไว้รับเงินเดือนกับกดมาใช้)
2.ฝากไม่ประจำ (ถอนได้ฟรีเดือนละ 2 ครั้งไม่ทำ ATM)

เงินเดือนสุทธิ ของผมจะอยู่ประมาณ 13500 +- ครับ (หักค่าประกัน บ. 500 , ค่าประกันสังคม 730 กว่าบาท (แพงชิบ) , ค่ามาสาย)

เงินเดือนออกผมโอนเข้าบัญชีฝากไม่ประจำเลยครับ
เดือนละ 5,000 บาท (ต้องมีวินัยครับ เดือนไหนใช้จ่ายไม่พอผมก็เบิกมาใช้ครับ แต่เดือนถัดไปค่อยเอามาโปะ)

ส่วนเงินที่เหลือ 8,500 +- นี่ก็ค่าดำรงชีพครับ
ค่าห้อง (แฟลต) รวมน้ำไฟ 2,000
ค่ากิน + เดือนทาง เฉพาะที่ทำงาน 3,500-4,000
ค่าเน็ต 650
ค่าโทรศัพท์ 500

ที่เหลือก็เป็นค่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายของวัยรุ่นครับ

ผมทำแบบนี้มา 10 เดือนเต็มๆ มีเงินเก็บในบัญชี 50,000 บาทถ้วน
ตอนนี้เอาไปซื้อ(ผ่อน)รถมือ 2 แล้วครับ Civic EK 99 สีเหลือง ราคา 170,000 บาท ผ่อน 4,740 บาท 4 ปี

ดาวน์ 5,000 บาท
ค่าจัดไฟแนนซ์นู่นนี่ ค่าประกัน ค่าตรวจเช็คต่างๆ โดนไป เกือบ 20,000 บาท
ติดแก๊ส LPG เองอีก 20,000 บาท

ตอนนี้หมดตูดครับ แหะๆ แต่ไม่เป็นไรครับเก็บใหม่ได้

เห็นมั้ยครับ จากที่ผมไม่มีงานทำ ไม่มีอะไรเลย บางวัน(หรือหลายวัน)ต้องกินมาม่าด้วยซ้ำ มีแค่ห้องเล็กๆกับคอม 1 ตัว ผมยังดิ้นรนมาได้ถึงขนาดนี้
ความคิดผมอาจจะไม่เหมือนเด็กอายุ 23-24 ปี บางคน ที่วันๆเอาแต่เที่ยวเล่น ใช้เงินพ่อแม่ไปวันๆ ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ เพราะบ้านเค้ามีฐานะ
แต่ผมคิดว่าถ้าเค้าประสบเหตุแบบเดียวกับผม ความคิดที่จะเที่ยวเล่นใช้เงินไปวันๆนี่จะหายไปจากหัวพวกเค้าเลย

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากทำตามความฝันของตัวเองครับ
"ถึงแม้ว่าความฝันของคุณในสายตาคนอื่นอาจดูเล็กน้อย แต่สำหรับตัวคุณเองมันยิ่งใหญ่มากครับ"  

หลายคนถามผมทำไมไม่ซื้อรถมือ 1 ผมก็ตอบไปตรงๆครับ ผมไม่มีเงินขนาดนั้น วันนี้ผมมีแค่นี้ จะดิ้นรนให้เกินตัวทำไมครับ ?
ทุกคนอยากได้ครับ รถใหม่ ป้ายแดง แต่การที่เราดิ้นรนจนเกินตัว มันอาจทำให้เราเดือดร้อนในวันข้างหน้า วันนี้เอาเท่าที่มี วันหน้าเรามีมากขึ้น เราก็ซื้อในสิ่งที่แพงขึ้นก็ได้ครับ


ขอบคุณท่านที่เสียสละเวลามาอ่านบทความของวัยรุ่นธรรมดาๆคนหนึ่งที่อยากให้ครอบครัวสบาย ครับ อาจมีข้อความใดตกหล่นหรืออธิบายไม่ครบท้วงติงได้นะครับ ผมพิมพ์รวดเดียวบางทีอาจข้ามไปยังไง ขออภัยด้วยครับ

(*******มีแก้ไขเพิ่มเติมนิดหน่อยด้านบนนะครับ*******)
เพิ่มเติม 2 ครับ ผมจบ ม.รามคำแหง ครับ พอดีหลายคนถามเข้ามา

พาพันขอบคุณพาพันขอบคุณพาพันขอบคุณพาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่