เรื่องนี้เกิดขึ้นกับป้าของเราค่ะ มีนายหน้าที่รู้จักกันมาแนะนำให้ป้าปล่อยกู้กับเจ้าของโครงการหมู่บ้านรายหนึ่ง ที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน เจ้าของโครงการให้ทาวน์เฮ้าส์หลังหนึ่งกับป้า ป้าเราก็ให้เงินไป 8 แสนบาทเพื่อเป็นเงินกู้ มีการโอนฉโนดที่ดิน และทะเบียนบ้านก็จะมีชื่อของป้าเราเป็นเจ้าของบ้านค่ะ นอกจากนั้นยังมีการจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มด้วย ซึ่งเจ้าของโครงการก็ได้จ่ายดอกเบี้ยตามปกติเรื่อยมา จนวันหนึ่งนายหน้ามาแจ้งข่าวกับป้าเราว่า บ้านหลังดังกล่าวมีคนเข้าไปอยู่ หลังจากไปพูดคุยกับผู้อาศัยได้ความว่า เจ้าของโครงการขายบ้านให้กับเธอ โดยจ่ายเงินดาวน์ไปแล้ว และปัจจุบันผ่อนอยู่ มาถึงตอนนี้ก็เงิบเลยค่ะ รู้ตัวว่าโดนโกงแล้ว คนที่อาศัยอยู่ก็ไม่ยอมออกค่ะ เพราะเค้าถือว่าเค้าจ่ายเงินแล้ว โดนโกงทั้งคู่ เวลาป้าเราไปหาผู้อาศัยคนนี้ก็จะหนีหาย หลบหน้า ไม่ค่อยอยู่บ้าน เจ้าของโครงการก็หายไปเลยเหมือนกัน ติดต่อไม่ได้ หนักกว่าเสียอีกตรงที่ ทั้งชื่อ ที่อยู่เจ้าของโครงการป้าเราก็ไม่รู้เลยค่ะ (แต่เราคาดว่านายหน้าน่าจะรู้ค่ะ) และป้าเราไม่ต้องการติดต่อเจ้าของโครงการแล้วค่ะ ป้าเราพุ่งเป้าไปที่ผู้อาศัยอย่างเดียวเลย ว่าต้องออกไปหรือจะไปเคลียร์กะเจ้าของโครงการเอาเองก็เรื่องของเค้าค่ะ
ป้าเราเคยเอากุญแจไปล็อคประตูบ้านไว้ก็โดนผู้อาศัยทุบออก และเข้าไปอยู่ตามปกติ พอลองไปที่กรมที่ดินและอำเภอ เพื่อเช็คว่าฉโนดที่ดินและทะเบียนบ้านยังเป็นของป้าเราและมีเพียงฉบับเดียวหรือไม่ ผลก็ปรากฏว่าเป็นของป้าเราจริงๆ และมีเพียงฉบับเดียวทั้งฉโนดทั้งทะเบียนบ้าน พนักงานในกรมที่ดินได้ฟังป้าเราปรับทุกข์ก็เห็นใจค่ะ บอกมาว่าไม่นานมานี้เคยมีผู้ชายคนหนึ่งมาสอบถามว่า บ้านหลังดังกล่าวมีฉโนดเป็นชื่อของใคร พอผู้ชายคนนี้เห็นว่าเป็นชื่อป้าเราก็ไม่ได้ทำอะไรแล้วก็กลับไป เราสันนิษฐานว่าอาจเป็นลูกชายของผู้อาศัยคนนั้นไปตรวจสอบเหมือนกันค่ะ
เคยไปแจ้งความ ตำรวจก็บอกว่าไม่มีคู่กรณี ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ (คือตอนนี้ชื่อผู้อาศัยคนนั้นป้าเรายังไม่รู้เลยค่ะ) ตอนนี้ป้าเราโทรไปปรึกษาทนาย แต่ยังไม่ได้จ้างนะคะ ทนายบอกว่าคิด 3 หมื่นบาทแล้วจะจัดการทุกอย่างให้เสร็จภายใน 3 เดือน ถ้าผู้อาศัยหัวหมอหน่อยก็อาจจะ 6 เดือน วิธีการคร่าวๆที่ป้าฟังจากทนายคือจะเอาหมายศาลไปแปะหน้าบ้านก่อน จากนั้นจะสืบชื่อของผู้อาศัยคนนั้นค่ะ ถ้าหากเค้าไม่ยอมออกดีๆก็จะใช้ไม้แข็งค่ะ
ที่เล่ามานี้อยากปรึกษาค่ะ ว่าควรทำอย่างไรดี ทางเลือกของป้าเราตอนนี้ที่คิดออกมีดังนี้ค่ะ
1. จ้างทนาย 3 หมื่นบาท เพื่อจัดการเรื่องทั้งหมด ซึ่งทุกขั้นตอนดำเนินการภายใต้กฏหมาย มีการแปะหมายศาล แต่ป้าเราก็ระแวงกลัวทนายจะไปเข้าข้างฝ่ายนั้นถ้าเค้าเกิดให้เยอะกว่าเราขึ้นมา
2. จ้างทนายที่เป็นคนรู้จัก 6 หมื่นบาท แต่ทนายคนนี้ป้าเราว่าเค้าค่อนข้างถือตัวค่ะ กลัวว่าเพราะการที่รู้จักกัน จะทำให้การตามงานหรือพูดอะไรยากรึป่าว แต่ป้าอีกคนก็เชียร์ทนายคนนี้เพราะเห็นว่ารู้จักกันค่ะ
3. บุกเคลียร์บ้านเอง เข้าไปยกของออกให้หมด แล้วล็อกประตูทิ้ง มีหลายคนแนะนำวิธีนี้ โดยให้เหตุผลว่าก็เป็นบ้านของเรา กลัวอะไร แต่มีบางคนกลัวว่าถ้าในบ้านมีของมีค่าเราจะเดือดร้อนทีหลังรึป่าว
อยากถามความคิดเห็นว่าควรใช้วิธีไหนจัดการดีค่ะ หรือถ้ามีทางเลือกอื่นๆที่ดีกว่าเสนอแนะเข้ามาได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้ามากๆเลยค่ะ
ปล. ป้าเราแก่แล้ว และพยายามหารายได้ด้วยวิธีพวกนี้ค่ะ แต่ด้วยที่ไม่ค่อยทันคนก็จะโดนโกงแบบนี้ คนที่บ้านก็ไม่ค่อยอยากให้ยุ่งเรื่องพวกนี้แต่ก็ห้ามไม่ได้ค่ะ
ปรึกษาเรื่องบ้าน โดนเจ้าของโครงการขายซ้ำซ้อนค่ะ
ป้าเราเคยเอากุญแจไปล็อคประตูบ้านไว้ก็โดนผู้อาศัยทุบออก และเข้าไปอยู่ตามปกติ พอลองไปที่กรมที่ดินและอำเภอ เพื่อเช็คว่าฉโนดที่ดินและทะเบียนบ้านยังเป็นของป้าเราและมีเพียงฉบับเดียวหรือไม่ ผลก็ปรากฏว่าเป็นของป้าเราจริงๆ และมีเพียงฉบับเดียวทั้งฉโนดทั้งทะเบียนบ้าน พนักงานในกรมที่ดินได้ฟังป้าเราปรับทุกข์ก็เห็นใจค่ะ บอกมาว่าไม่นานมานี้เคยมีผู้ชายคนหนึ่งมาสอบถามว่า บ้านหลังดังกล่าวมีฉโนดเป็นชื่อของใคร พอผู้ชายคนนี้เห็นว่าเป็นชื่อป้าเราก็ไม่ได้ทำอะไรแล้วก็กลับไป เราสันนิษฐานว่าอาจเป็นลูกชายของผู้อาศัยคนนั้นไปตรวจสอบเหมือนกันค่ะ
เคยไปแจ้งความ ตำรวจก็บอกว่าไม่มีคู่กรณี ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ (คือตอนนี้ชื่อผู้อาศัยคนนั้นป้าเรายังไม่รู้เลยค่ะ) ตอนนี้ป้าเราโทรไปปรึกษาทนาย แต่ยังไม่ได้จ้างนะคะ ทนายบอกว่าคิด 3 หมื่นบาทแล้วจะจัดการทุกอย่างให้เสร็จภายใน 3 เดือน ถ้าผู้อาศัยหัวหมอหน่อยก็อาจจะ 6 เดือน วิธีการคร่าวๆที่ป้าฟังจากทนายคือจะเอาหมายศาลไปแปะหน้าบ้านก่อน จากนั้นจะสืบชื่อของผู้อาศัยคนนั้นค่ะ ถ้าหากเค้าไม่ยอมออกดีๆก็จะใช้ไม้แข็งค่ะ
ที่เล่ามานี้อยากปรึกษาค่ะ ว่าควรทำอย่างไรดี ทางเลือกของป้าเราตอนนี้ที่คิดออกมีดังนี้ค่ะ
1. จ้างทนาย 3 หมื่นบาท เพื่อจัดการเรื่องทั้งหมด ซึ่งทุกขั้นตอนดำเนินการภายใต้กฏหมาย มีการแปะหมายศาล แต่ป้าเราก็ระแวงกลัวทนายจะไปเข้าข้างฝ่ายนั้นถ้าเค้าเกิดให้เยอะกว่าเราขึ้นมา
2. จ้างทนายที่เป็นคนรู้จัก 6 หมื่นบาท แต่ทนายคนนี้ป้าเราว่าเค้าค่อนข้างถือตัวค่ะ กลัวว่าเพราะการที่รู้จักกัน จะทำให้การตามงานหรือพูดอะไรยากรึป่าว แต่ป้าอีกคนก็เชียร์ทนายคนนี้เพราะเห็นว่ารู้จักกันค่ะ
3. บุกเคลียร์บ้านเอง เข้าไปยกของออกให้หมด แล้วล็อกประตูทิ้ง มีหลายคนแนะนำวิธีนี้ โดยให้เหตุผลว่าก็เป็นบ้านของเรา กลัวอะไร แต่มีบางคนกลัวว่าถ้าในบ้านมีของมีค่าเราจะเดือดร้อนทีหลังรึป่าว
อยากถามความคิดเห็นว่าควรใช้วิธีไหนจัดการดีค่ะ หรือถ้ามีทางเลือกอื่นๆที่ดีกว่าเสนอแนะเข้ามาได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้ามากๆเลยค่ะ
ปล. ป้าเราแก่แล้ว และพยายามหารายได้ด้วยวิธีพวกนี้ค่ะ แต่ด้วยที่ไม่ค่อยทันคนก็จะโดนโกงแบบนี้ คนที่บ้านก็ไม่ค่อยอยากให้ยุ่งเรื่องพวกนี้แต่ก็ห้ามไม่ได้ค่ะ