เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาได้ไปโตเกียวอีกครั้ง และได้ไปที่วัด Sensō-ji หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อวัด Asakusa ซึ่งเนื่องจากเป็นการไปเป็นครั้งที่สอง จึงไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมามากนัก แต่สิ่งที่นำมาฝากกันในครั้งนี้คือภาพจากสวน Denpō-in ในบริเวณวัดที่เปิดให้เข้าชมเป็นพิเศษครับ ซึ่งโดยปกติสวนนี้จะไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม ต้องเป็นช่วงที่เปิดเป็นพิเศษในแต่ละปีเท่านั้น
ตอนนั้นประตู Kaminari-Mon กำลังบูรณะด้านหน้าอยู่ เลยเก็บรูปด้านหลังมาแทน
จากนั้นให้เดินเข้ามาข้างในเรื่อย ๆ จนถึงวิหารเจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้ (พอดีถ่ายรูปตอนที่ปิดวิหารแล้ว) แล้วไปทางซ้ายครับ
เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ เผื่อหลายคนจะยังไม่ทราบเกี่ยวกับเจ้าแม่กวนอิมของวัดแห่งนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลายคนคงพอจะทราบแล้วว่าพระประธานของวัดนี้คือเจ้าแม่กวนอิมที่ชาวประมงสองคนเก็บมาจากแม่น้ำเมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่อาจยังไม่ทราบว่าหลังจากการสถาปนาวัดแห่งนี้ เจ้าแม่กวนอิมองค์ดังกล่าวก็ถูกเก็บรักษาไว้อย่างมิดชิดโดยไม่เปิดให้สาธารณชนได้ชม ซึ่งวัดหลายแห่งในญี่ปุ่นก็มีลักษณะแบบนี้ คือจะมีพระพุทธรูปที่เก็บรักษาไว้ไม่ให้คนทั่วไปได้เห็นของจริง โดยบางแห่งก็จะเปิดให้ประชาชนสักการะพระพุทธรูปดังกล่าวตามช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งอาจเป็นช่วงใดช่วงหนึ่งของแต่ละปี ในรอบหลายปีหรือหลายสิบปี หรืออาจไม่เคยมีใครมีโอกาสได้เห็นเลยก็ได้ ดังเช่นที่วัด Sensō-ji แห่งนี้เป็นต้นครับ
ฉะนั้นใครที่เข้าใจว่าวัดญี่ปุ่นไม่มีพระพุทธรูปหรือพระประธานนั้น ขอให้เข้าใจใหม่ด้วยนะครับ ทุกวัดมีพระประธานแน่ เพียงแต่จะเปิดให้คนทั่วไปสักการะหรือไม่เท่านั้น ที่ไม่มีรูปเคารพคือศาลเจ้าชินโตซึ่งเป็นคนละอย่างกันกับวัดพุทธครับ
ทางเข้าสวนจะอยู่ในมุมที่เห็นทิวทัศน์ประมาณนี้
โดยเปิดให้เข้าชมร่วมกับนิทรรศการพิเศษในราคา 300 เยนครับ ซึ่งสำหรับนิทรรศการในปีนี้จะนำรายได้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปี 2011 ครับ แต่ในส่วนของนิทรรศการพิเศษนั้นห้ามถ่ายรูป จึงไม่มีรูปมาฝาก ใครสนใจก็ลองไปดูเองนะครับ
เมื่อออกจากส่วนจัดแสดงนิทรรศการมาแล้วก็จะเห็นทางออก ซึ่งเราจะยังไม่ออกครับ แต่ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าไปในสวนก่อน
ตอนนั้นแปลกใจมากว่าทำไมถึงมีใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเพื่อนชาวญี่ปุ่นของผมว่าถ้าอากาศหนาว ๆ ก็มีโอกาสที่ใบไม้จะเปลี่ยนสีได้เหมือนกัน แต่ไม่ได้เยอะมากเหมือนในฤดูใบไม้ร่วงครับ
มาถึงข้างในสวนแล้ว มีสระน้ำขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกสงบ
เรือนไม้ในสวน เข้าไปข้างในไม่ได้นะครับ แต่บริเวณรอบ ๆ มีที่นั่งพัก
ช่วงนั้นโชคดีมากที่ยังพอมีซากุระอยู่บ้าง โดยเฉพาะบริเวณลานหน้าพระราชวัง Imperial ถ้าใครไปที่นั่นช่วงนั้นคงทราบดีนะครับ
ใบไม้เปลี่ยนสีอีกต้นในสวน (มีต้นนี้ต้นเดียว) กำลังแดงสวยได้ที่เลยครับ
ข้ามสะพานมาอีกฝั่งของสระ
มองย้อนกลับไปจากอีกฝั่ง เรือนในภาพนั่นที่จริงสามารถเห็นได้ตั้งแต่เข้ามาในสวนแล้วครับ เพียงแต่ไม่สามารถเก็บภาพได้ทั่ว ต้องข้ามมาอีกฝั่ง
สามารถรับน้ำชาฟรีจากเรือนหลังนี้ได้ด้วยนะครับ แต่เข้าไปไม่ได้นะ
ปิดท้ายด้วยเรือนอีกหลังในบริเวณสวนครับ (จำไม่ได้แล้วว่าเป็นเรือนอะไร)
สำหรับช่วงเวลาที่เปิดสวนให้เข้าชมเป็นพิเศษนี้จะมีไปจนถึงวันที่พุธ 7 พฤษภาคมนี้ครับ โดยจะเปิดตั้งแต่เวลา 10:00 ถึง 16:30 น. (ต้องเข้าก่อน 16:00 น.) ใครกำลังจะไปวัด Sensō-ji ก็ลองแวะไปดูกันได้ครับ อย่างน้อยก็ถือว่าทำบุญ
[CR] รีวิวเล็ก ๆ กับการเปิดสวน Denpō-in ในวัด Sensō-ji (Asakusa) ให้เข้าชมเป็นพิเศษ
ตอนนั้นประตู Kaminari-Mon กำลังบูรณะด้านหน้าอยู่ เลยเก็บรูปด้านหลังมาแทน
จากนั้นให้เดินเข้ามาข้างในเรื่อย ๆ จนถึงวิหารเจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้ (พอดีถ่ายรูปตอนที่ปิดวิหารแล้ว) แล้วไปทางซ้ายครับ
เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ เผื่อหลายคนจะยังไม่ทราบเกี่ยวกับเจ้าแม่กวนอิมของวัดแห่งนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทางเข้าสวนจะอยู่ในมุมที่เห็นทิวทัศน์ประมาณนี้
โดยเปิดให้เข้าชมร่วมกับนิทรรศการพิเศษในราคา 300 เยนครับ ซึ่งสำหรับนิทรรศการในปีนี้จะนำรายได้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปี 2011 ครับ แต่ในส่วนของนิทรรศการพิเศษนั้นห้ามถ่ายรูป จึงไม่มีรูปมาฝาก ใครสนใจก็ลองไปดูเองนะครับ
เมื่อออกจากส่วนจัดแสดงนิทรรศการมาแล้วก็จะเห็นทางออก ซึ่งเราจะยังไม่ออกครับ แต่ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าไปในสวนก่อน
ตอนนั้นแปลกใจมากว่าทำไมถึงมีใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเพื่อนชาวญี่ปุ่นของผมว่าถ้าอากาศหนาว ๆ ก็มีโอกาสที่ใบไม้จะเปลี่ยนสีได้เหมือนกัน แต่ไม่ได้เยอะมากเหมือนในฤดูใบไม้ร่วงครับ
มาถึงข้างในสวนแล้ว มีสระน้ำขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกสงบ
เรือนไม้ในสวน เข้าไปข้างในไม่ได้นะครับ แต่บริเวณรอบ ๆ มีที่นั่งพัก
ช่วงนั้นโชคดีมากที่ยังพอมีซากุระอยู่บ้าง โดยเฉพาะบริเวณลานหน้าพระราชวัง Imperial ถ้าใครไปที่นั่นช่วงนั้นคงทราบดีนะครับ
ใบไม้เปลี่ยนสีอีกต้นในสวน (มีต้นนี้ต้นเดียว) กำลังแดงสวยได้ที่เลยครับ
ข้ามสะพานมาอีกฝั่งของสระ
มองย้อนกลับไปจากอีกฝั่ง เรือนในภาพนั่นที่จริงสามารถเห็นได้ตั้งแต่เข้ามาในสวนแล้วครับ เพียงแต่ไม่สามารถเก็บภาพได้ทั่ว ต้องข้ามมาอีกฝั่ง
สามารถรับน้ำชาฟรีจากเรือนหลังนี้ได้ด้วยนะครับ แต่เข้าไปไม่ได้นะ
ปิดท้ายด้วยเรือนอีกหลังในบริเวณสวนครับ (จำไม่ได้แล้วว่าเป็นเรือนอะไร)
สำหรับช่วงเวลาที่เปิดสวนให้เข้าชมเป็นพิเศษนี้จะมีไปจนถึงวันที่พุธ 7 พฤษภาคมนี้ครับ โดยจะเปิดตั้งแต่เวลา 10:00 ถึง 16:30 น. (ต้องเข้าก่อน 16:00 น.) ใครกำลังจะไปวัด Sensō-ji ก็ลองแวะไปดูกันได้ครับ อย่างน้อยก็ถือว่าทำบุญ