คำสาปแห่งสยาม นารีขี่ม้าขาว เป็นสิ่งที่ไม่สามารถถูกทำลายลงได้ มีแต่คนคิดร้ายที่จะกลายเป็นทำลายตัวเอง

ผ่านไปแล้วกว่า 2 ปี รวมกับอีก 6 เดือน นารีขี่ม้าขาว ของผมยังยิ้มสวยและเยือกเย็นอยู่เสมอ
ฝ่ายศัตรูได้พุ่งกระหน่ำอาวุธ หอก ดาบ มีด คาถาอาคม มนตร์ดำ ต่างๆ นาๆ
ถาโถมเข้าใจ นารี ที่กำลังแล่นทะยานไปบนหลังม้าอย่างสง่างาม

ฝ่ายศัตรูของนารีขี่ม้าขาว ล้วนเป็นนักรบที่ไม่มีวันที่พวกเราจะเอาชนะได้ ไม่มีวันเลยทั้งสิ้น
และพวกนักรบเหล่านั้น ก็ต่างรบด้วยความมั่นใจและหยิ่งผยองว่า พวกตนไม่มีวันจะรบแพ้ และไม่เคยรบแพ้
แม้นารีขี่ม้าขาวจะตระกรานตาอยู่เบื้องหน้า พวกนักรบเหล่านั้น ก็เต็มไปด้วยเมฆหมอกบังตา
ดวงตาที่พร่ามัว ไม่อาจจะมองเห็นได้ว่า สิ่งใดคือธรรม และสิ่งใดคืออธรรม แม้ว่านารีขี่ม้าขาว จะเจิดจรัสอยู่ตรงนั้นก็ตาม

ตลอด 2 ปีรวมกับอีก 6 เดือนที่ผ่านมา นารีขี่ม้าขาว เพียงขี่ม้าโลดแล่นไป ไม่ปัดป้อง ไม่ตอบโต้กลับด้วยอาวุธ
แต่สิ่งที่ผมเห็นคือ นารีขี่ม้าขาว ของผมยังยิ้มสวยและเจิดจำรัส
ม้าขาวทะยานโลดแล่นไป ตามรายทางเต็มไปด้วยซากศพของนักรบฝ่ายอธรรม ที่ต้องดับสูญไปด้วยคมอาวุธ
เป็นคมอาวุธของตัวเองทั้งนั้นที่พุ่งเข้าใส่หมายสังหารนารีขี่ม้าขาว

แต่ด้วยพลานุภาพของธรรม ความดี และบารมี อาวุธเหล่านั้น ไม่สามารถแม้แต่จะสกิดแม้ปลายเส้นผมของนารีขี่ม้าขาว
หนำซ้ำ อาวุธเหล่านั้นต่างก็ล้วนย้อนกลับไป สังหารเหล่านักรบผู้หยิ่งผยอง ดับสูญจนหมดสิ้น

กี่ศพแล้วก็ลองนับกันดู ล้วนเป็นนักรบที่พวกเราไม่มีวันรบชนะ มีแต่ต้องให้พวกเขาฆ่าตัวเอง
และอีกไม่นาน ก็คาดว่าน่าจะมีอีก 2 ศพสำคัญ
ที่ยังลังเล ละล้าละลัง ว่าจะซัดคมหอกเข้าใส่นารีขี่ม้าขาวดีหรือไม่

ผมท้าทายเลยว่า เชิญซัดเลย แล้วก็จะรู้เองว่า
นารีขี่ม้าขาว เป็นสิ่งที่ไม่สามารถถูกทำลายลงได้ มีแต่คนคิดร้ายนั่นแหละที่จะกลับกลายเป็นทำลายตัวเอง
เพราะนี่คือ คำสาปแห่งสยามประเทศ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่