ถ้า Transcendence ถูกฉายในระบบแปดมิติที่มีแผ่นแปะรับรสชาติติดลิ้นของคนดูก็จะพบว่าตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องมีแต่รสจืดสนิท
เนื้อเรื่องเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นเทคโลยีอัจฉริยะที่สามารถผสานความคิดมนุษย์เข้ากับการทำงานของคอมพิวเตอร์ได้ มันจึงเป็นคอมพ์รุ่นโคตรพ่อโคตรแม่ แต่เมียนักวิทยาศาสตร์คนประดิษฐ์ดันทะลึ่งเอาความคิดผัวลงคอมพ์แล้วปล่อยให้โปรแกรมเข้าไปอยู่ในอินเตอร์เน็ตและเริ่มแทรกซึมกิจกรรมทุกๆอย่างของมนุษย์ เริ่มจากการแอบดูเฟซบุ๊คไปจนถึงการสร้างกองทัพผีดิบ
ความจืดชืดมันเริ่มที่ฉากเปิดที่คนดูจับทางได้แน่ว่าหนังจะลงเอยอย่างไร แค่นี้ก็เพียงพอใหข้าพเจ้ารู้สึกเบื่อ ลูกเล่นต่างๆที่หนังเอามาใช้ดึงความสนใจอย่างเช่นฉากสังหารหมู่ที่ดูล้ำแต่ก็อ่อนหัดเพราะมันไม่ได้มีความน่าตื่นเต้นอะไรเลย
บทหนังดำเนินไปอย่างอ่อนหัด หลายอย่างดูง่ายจนเกินจริงและเราจะต้องมาทนดูการสร้างห้องแล็บชนิดพิเศษ(ที่กินเวลาหนังนานพอดู)
การนำเสนอทฤษฏีวิทยาศาสตร์ก็ดูไม่หนักแน่นจนไม่น่าเชื่อถือหรือก่อให้เกิดความน่าสนใจ
ความสัมพันธ์ตัวละครก็แสนจะอ่อน อย่างเช่นรู้ว่า ตัวพระเอกนางก็รู้อยู่แค่เป็นผัวเมียไม่มีฉากที่ทำให้คนดูเชื่อว่าทั้งสองคนจะยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่ตัวเองรักแม้จะอันตรายแค่ไหน
ฉากที่บิวท์กันสุดๆคือฉากนางเอกทำสวนแล้วพระเอกเกิดความคิดว่าอยากใช้ชีวิตกับผู้หญิงที่ปลูกดอกทานตะวันอย่างเก่งกล้าคนนี้จริงๆ
ตัวละครอื่นๆอย่างเพื่อนสนิทก็โผล่มาช่วยแค่ให้บทมันผ่านไปเช่นเดียวกันกับตัวละครอื่นๆที่เหลืออยู่ที่ไม่ได้มีมิติน่าสนใจอะไรเลย
ยิ่งได้นักแสดงชั้นมารวมกันแบบนี้ยิ่งเกิดความน่าเสียดาย อย่างบทหัวหน้าแฮ็กเกอร์ของ Kate Mara คือไม่ต้องเอาเธอมาเล่นก็ได้นะ เสียของ
ประเด็นที่หนังพยายามจะบอกก็ไม่มีอะไรให้สนใจ เทียบกันเรื่อง Her ที่มีประเด็นเทคโนโลยีคล้ายๆกันที่รายนั้นทำออกมาได้น่าสนใจกว่ามาก
แถมไม่ต้องลงทุนใส่ซีจีมโหฬารให้เห็นความยิ่งใหญ่ของเทคโนโลยีเราก็รู้ได้ว่ามนุษย์ปล่อยมาให้เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ฉากแอคชั่นที่แสนจะน้อยนิดก็ไม่ได้มอบอะไรดีๆให้แก่คนดูนอกจากความจืดชืด สเกลของฉากก็เล็กมากเมื่อเทียบความยิ่งใหญ่ของไอ้โคตรคอมพ์ที่ปูมา
ตอนท้ายหนังก็มาจบแบบง๊าย ง่าย เปลี่ยนจากทริลเลอร์มาเป็นดราม่าที่ไม่มีความดราม่าได้โดยฉับพลัน
Transcendence เป็นหนังที่มีความพยายามแต่ก็อ่อนหัด ถึงหนังจะมีพอมีช่วนให้จังหวะหัวใจที่เกือบจะดับสนิทเต้นขึ้นมาได้มันก็ไม่เพียงพอจะละความรู้สึกเสียดายเงินไปได้ สรุปว่าผิดหวัง เอาไป (3/10)
Transcendence น่าเบื่อมากถึงมากที่สุด
เนื้อเรื่องเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นเทคโลยีอัจฉริยะที่สามารถผสานความคิดมนุษย์เข้ากับการทำงานของคอมพิวเตอร์ได้ มันจึงเป็นคอมพ์รุ่นโคตรพ่อโคตรแม่ แต่เมียนักวิทยาศาสตร์คนประดิษฐ์ดันทะลึ่งเอาความคิดผัวลงคอมพ์แล้วปล่อยให้โปรแกรมเข้าไปอยู่ในอินเตอร์เน็ตและเริ่มแทรกซึมกิจกรรมทุกๆอย่างของมนุษย์ เริ่มจากการแอบดูเฟซบุ๊คไปจนถึงการสร้างกองทัพผีดิบ
ความจืดชืดมันเริ่มที่ฉากเปิดที่คนดูจับทางได้แน่ว่าหนังจะลงเอยอย่างไร แค่นี้ก็เพียงพอใหข้าพเจ้ารู้สึกเบื่อ ลูกเล่นต่างๆที่หนังเอามาใช้ดึงความสนใจอย่างเช่นฉากสังหารหมู่ที่ดูล้ำแต่ก็อ่อนหัดเพราะมันไม่ได้มีความน่าตื่นเต้นอะไรเลย
บทหนังดำเนินไปอย่างอ่อนหัด หลายอย่างดูง่ายจนเกินจริงและเราจะต้องมาทนดูการสร้างห้องแล็บชนิดพิเศษ(ที่กินเวลาหนังนานพอดู)
การนำเสนอทฤษฏีวิทยาศาสตร์ก็ดูไม่หนักแน่นจนไม่น่าเชื่อถือหรือก่อให้เกิดความน่าสนใจ
ความสัมพันธ์ตัวละครก็แสนจะอ่อน อย่างเช่นรู้ว่า ตัวพระเอกนางก็รู้อยู่แค่เป็นผัวเมียไม่มีฉากที่ทำให้คนดูเชื่อว่าทั้งสองคนจะยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่ตัวเองรักแม้จะอันตรายแค่ไหน
ฉากที่บิวท์กันสุดๆคือฉากนางเอกทำสวนแล้วพระเอกเกิดความคิดว่าอยากใช้ชีวิตกับผู้หญิงที่ปลูกดอกทานตะวันอย่างเก่งกล้าคนนี้จริงๆ
ตัวละครอื่นๆอย่างเพื่อนสนิทก็โผล่มาช่วยแค่ให้บทมันผ่านไปเช่นเดียวกันกับตัวละครอื่นๆที่เหลืออยู่ที่ไม่ได้มีมิติน่าสนใจอะไรเลย
ยิ่งได้นักแสดงชั้นมารวมกันแบบนี้ยิ่งเกิดความน่าเสียดาย อย่างบทหัวหน้าแฮ็กเกอร์ของ Kate Mara คือไม่ต้องเอาเธอมาเล่นก็ได้นะ เสียของ
ประเด็นที่หนังพยายามจะบอกก็ไม่มีอะไรให้สนใจ เทียบกันเรื่อง Her ที่มีประเด็นเทคโนโลยีคล้ายๆกันที่รายนั้นทำออกมาได้น่าสนใจกว่ามาก
แถมไม่ต้องลงทุนใส่ซีจีมโหฬารให้เห็นความยิ่งใหญ่ของเทคโนโลยีเราก็รู้ได้ว่ามนุษย์ปล่อยมาให้เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ฉากแอคชั่นที่แสนจะน้อยนิดก็ไม่ได้มอบอะไรดีๆให้แก่คนดูนอกจากความจืดชืด สเกลของฉากก็เล็กมากเมื่อเทียบความยิ่งใหญ่ของไอ้โคตรคอมพ์ที่ปูมา
ตอนท้ายหนังก็มาจบแบบง๊าย ง่าย เปลี่ยนจากทริลเลอร์มาเป็นดราม่าที่ไม่มีความดราม่าได้โดยฉับพลัน
Transcendence เป็นหนังที่มีความพยายามแต่ก็อ่อนหัด ถึงหนังจะมีพอมีช่วนให้จังหวะหัวใจที่เกือบจะดับสนิทเต้นขึ้นมาได้มันก็ไม่เพียงพอจะละความรู้สึกเสียดายเงินไปได้ สรุปว่าผิดหวัง เอาไป (3/10)