ตรงกลางระหว่าง กลิ่นปาก กับ ปากร้าย

ขออนุญาตระบายนิดนึงนะคะ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนรถตู้ค่ะ เริ่มเลยละกันนะคะ

ปกติเราจะนั่งรถตู้เวลากลับบ้านต่างจังหวัด ซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากกท. ใช้เวลาราว 1 ชม. โดยปกติ
แต่บังเอิญว่าวันนั้นรถติดค่ะ (ช่วงสงกรานต์) จาก 1 ชม.นิดๆ ก็ปาเข้าไปเกือบ 3 ชม.
และถ้าวันนั้น เราไม่ได้นั่งด้านหน้า ติดคนขับ... 3 ชม.ของเราก็คงเป็นแค่ 3 ชม.ธรรมดาๆ แต่มันกลับไม่ธรรมดา เพราะว่า...

ผู้โดยสารที่นั่งทางฝั่งซ้ายมือเรา "ปากเหม็นมากกกกกก"...
ส่วนคนขับทางฝั่งขวามือเราก็ "ปากร้ายมากกกกก"...

คือตอนที่เรามาถึงที่รถ ทางด้านหลังก็เหลือแต่เบาะสุดท้าย ซึ่งเราว่าถ้าเลือกได้ คนทั่วไปก็คงไม่อยากนั่ง
เราก็เลยเลือกที่จะนั่งทางด้านหน้า ซึ่งคนขับบอกว่า ตรงกลางนะน้อง ตรงประตูมีคนจองแล้ว เราก็บอก ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา (ยังไงก็ดีกว่านั่งหลังสุดแหละ)
เราก็นั่งรอจนรถเต็ม ไม่นานค่ะ เพราะคนก็กลับบ้านกันเยอะ คนขับก็นั่งประจำที่ คนนั่งฝั่งซ้ายมือเราก็ขึ้นรถมา
รถออกสักแป๊บ คนขับก็พูดกับผดส.ที่นั่งข้างเราสักอย่าง (จำไม่ได้ค่ะ)
แต่พอพี่ผดส.คนนั้นตอบพี่คนขับปุ๊บ เรางี้ผงะ !! เลยค่ะ เพราะพี่เค้าปากเหม็นมากกกกกกกกก >.< เรายกมือขึ้นมาปิดจมูกโดยอัตโนมัติเลยค่ะ
ตอนนั้นเรารู้สึกถึงลางร้ายละค่ะ เพราะเรามั่นใจว่า เค้าสองคน รู้จักกันแน่นอน และเราก็มั่นใจอีกว่า การสนทนา จะไม่จบลงแค่นี้แน่ !!

พอรถขึ้นโทลล์เวย์อะไรเรียบร้อย พี่คนปากเหม็น เค้าก็เริ่มหยิบมือถือขึ้นมาคุยและรายการการจราจรค่ะ
คือกลิ่นปากพี่เค้าแรงมากจริงๆค่ะ แรงจนเราเห็นใจเลยค่ะ (แต่ตอนนั้นสงสารตัวเองมากกว่า)
เราไม่ได้หันหน้าไปทางพี่เค้าเลยนะคะ แต่มันโชยมาแบบ เฮ้ย คนอะไรจะปากเหม็นได้ขนาดนี้อะ (คิดในใจ)
และพอรถลงโทลล์เวย์ตรงรังสิตเท่านั้นแหละค่ะ เริ่มมองเห็นการจรจรที่คับคั่ง รถไหลไปได้ช้าๆ มีอุบัติเหตุเบาๆระหว่างทาง
พี่คนขับก็เริ่มพ่นละค่ะ ด่าคันหลังที่เปิดไฟสูงบ้าง ด่าคันที่ปาดคันอื่นบ้าง อะไรบ้าง โดยมีพี่ปากเหม็นร่วมสนทนาด้วย และโดยที่มีเรา นั่งอยู่ตรงกลาง !!

เราจริงๆ คนปากร้ายนี่เรารับได้นะคะ ยิ่งปากร้ายจากการขับรถ เราเห็นมีคนเป็นแบบนี้หลายคนค่ะ
แต่อาจเป็นเพราะบังเอิญว่าวันนั้น เราอึดอัดจากพี่ผดส.ปากเหม็นเป็นทุนเดิม พอเจอพี่คนขับปากร้าย เราเลยยิ่งรู้สึกแย่ค่ะ

ต่อค่ะ... พี่สองคนเค้าก็คุยกันออกรสออกชาติในอารมณ์มาก ส่วนเรานี่ นั่งเอามือปิดจมูกแทบตลอดทาง จนกระทั่ง...
พี่ผดส.ปากเหม็น เค้าหันมาพูดกับเราค่ะ โอ้วววววว ก้อชชชชช... เรากลั้นหายใจแบบอัตโนมัติอีกแล้วค่ะ
เค้าพูดกับเราว่า น้องนั่งถนัดมั้ย เขยิบมาอีกก็ได้นะ
จำได้ว่า เราหันหน้าไปพูดแบบยิ้มๆว่า ไม่เป็นไรค่ะ พร้อมกับกลั้นหายใจไปด้วย
และพอพูดจบ เราถึงได้รู้ตัวเองว่า ตัวเราเนี่ย เอียงไปจนแทบจะชนพี่คนขับ คือช่องว่างระหว่างเราก็พี่ผดส.ปากเหม็นกว้างจนเห็นได้ชัด

จากนั้นบทสนทนาระหว่างพี่ทั้งสองก็ดำเนินต่อไป เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การขับรถในช่วงชีวิตที่ผ่านมา
ทั้งแบบช่วงปกติ และแบบที่เป็นช่วงเทศกาล ฝั่งซ้ายมือก็ปากเหม็นเข้าไป ส่วนฝั่งขวาก็ด่าไป...

จริงๆเรามีลูกอมแบบดับกลิ่นปากอะไรพวกนี้นะคะ เราพกไว้ตลอด เผื่อเวลาที่ไม่มั่นใจ
แต่เราไม่กล้าให้พี่เค้าค่ะ สุดท้าย เราเลยแกะกินเอง -.-"
ผ่านไปสัก 2 ชม. พี่เค้าหันมาคุยกับเราอีกแล้วค่ะ คราวนี้ถามเราว่า หนาวเหรอ? แล้วเค้าก็หันช่องแอร์ไปทางอื่น
เราก็กลั้นหายใจอัตโนมัติอีก หันไปยิ้มๆ แล้วพูดว่า อ๋อ เปล่าค่ะ แค่ง่วง เค้าก็ อ๋อเหรอ แล้วก็หัวเราะยิ้มๆค่ะ
และที่พี่เค้าถามเราแบบนั้น ก็เพราะว่า เราเอามือปิดหน้าบ้าง ถูจมูกบ้าง แกล้งทำเป็นถูแก้มบ้าง เพื่อไม่ให้พี่เค้ารู้ว่าเราเหม็นปากเค้าอะค่ะ
และช่วงที่ไม่ได้สนทนากับพี่คนขับ พี่เค้าก็คุยมือถือรายงานการจราจรแทบตลอดเลยค่ะ เรานี่แบบ... ทำอะไรไม่ได้ค่ะ

จนรถตู้ถึงจังหวัดที่เราอยู่ พี่เค้าลงรถก่อนเราสัก 5 นาทีได้ค่ะ เรารู้สึกโล่งมาก ทั้งกายและใจ ไม่รู้จะบรรยายยังไงเลยค่ะ
มันเป็น 3 ชม.ที่ยาวนานสุดๆสำหรับเรา นั่งเมื่อยๆ ยังไม่ทรมานเท่าต้องมานั่งได้กลิ่นปากของคนอื่นอะค่ะ
เราไม่เคยอยู่ใกล้คนที่มีกลิ่นปากแรงมากขนาดนี้มาก่อน มันเหมือนมีกลิ่นที่มาจากปากไม่สะอาด และปากเหม็นจากการสูบบุหรี่ด้วยค่ะ

กลิ่นปากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนนะคะ เราว่า เพราะฉะนั้น ดูแลสุขภาพช่องปากของเราให้ดีเสมอๆ ก่อนที่จะมีคนเตือนหรือแสดงท่าทีแบบเราดีกว่าค่ะ
ส่วนคนขับรถ เราว่าก็ควรจะสงบอารมณ์กว่านี้นิดนึงค่ะ ยิ่งมีผู้ร่วมสนทนาด้วยแล้วเนี่ย ต้องเกรงใจผดส.ท่านอื่นด้วยนะคะ

ขอบคุณที่อ่านเรื่องที่เราระบายจนจบค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่