สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ
แนะนำตัวเองนิดหน่อยนะคะ มี่เป็น Admin เพจ Cosmetic Knowledge from Dr.Naphatsorn ที่อาจจะยังไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ค่ะ เป็นเพจเกี่ยวกับความรู้เครื่องสำอางต่างๆ และบทความวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ต่างๆจากส่วนผสมค่ะ
วันนี้ลองเขียนรีวิวของกันแดดตัวหนึ่ง ใช้มาได้ 3 ขวดแล้วค่ะ ชอบเนื้อมาก ไม่มัน ไม่เหนอะ ไม่วอก มีสีเนื้อ ใช้แทนเมคอัพเบสได้เลยค่ะ
ก่อนอื่น ขอแนะนำสภาพผิวของมี่ก่อนนะคะ มี่เป็นคนผิวผสมแบบแปลกๆ ค่อนข้างแห้งเกือบทั้งหน้าค่ะ แต่บริเวณคาง ยังมันอยู่ในช่วงบ่ายๆค่ะ
กันแดดตัวที่หยิบมาวันนี้คือ Solanoveil Tint pearl ของ บ.Omi จากฝั่งญี่ปุ่นค่ะ ซื้อมาจากร้าน Tsuruha ตอนนั้นมีโปรโมชั่น ลดราคาเหลือ 245 บาท แต่กลับไปซื้ออีก ก็ขึ้นไปราคาปกติแล้วค่ะ (จำไม่ได้ว่า 420 หรือ 440 บาท)
ตัวนี้มีเนื้อเหลวๆ เป็นสีเนื้อ เกลี่ยง่ายไม่มันค่ะ (สำหรับคนผิวแห้งซึมหายไปภายใน 2 นาที)
เกลี่ยแล้วก็เนียนดีค่ะ
อันนี้เป็นข้อมูลส่วนผสมนะคะ
ปกตินอกจากการลองใช้งานแล้ว มี่จะรีวิวจากส่วนผสมด้วย
ซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทุกชนิดในโลกนี้จะประกอบด้วยส่วนหลักๆ 3 ส่วน คือ Active (สารสำคัญ) Base (เนื้อผลิตภัณฑ์ บางทีอาจเรียกว่า Vehicle) และ Additive (คือสารที่ช่วยเสริมให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่ดี มีความน่าใช้)
ลองมาดูกันไปทีละส่วนเลยค่ะ
1. สารสำคัญ สำหรับผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดจะนำเอา Sunscreen มาใส่ไว้ในหมวดสารสำคัญค่ะ ซึ่ง Active ingredients ของผลิตภัณฑ์นี้มีดังนี้
- Sunscreen ได้แก่ Physical กับ Chemical sunscreen
* Physical sunscreen ได้แก่ Zinc oxide, Titanium dioxide และ Zirconium dioxide ซึ่งตัวสุดท้ายนี้เป็นวัตถุดิบ Inorganic oxide ที่ค่อนข้างใหม่ค่ะ ทาง INCI จัดเป็นวัสดุที่ทำให้ทึบแสง แต่อาจจะช่วยสะท้อนรังสี UV ได้โดยทำตัวเหมือน Physical sunscreen
* Chemical sunscreen ได้แก่ Ethylhexyl methoxycinnamate หรือ ที่รู้จักกันในนาม OMC ตัวนี้ดูดซับรังสีในช่วง UVB
- สารสำคัญที่เป็นสารสกัดจากพืช ได้แก่ สารสกัดจากราก Yellow Himalayan Raspberry (Rubs ellipticus root) ตัวนี้ทาง INCI จัดให้เป็นสารให้ความชุ่มชื้น
- สารสำคัญที่เป็นสารบริสุทธิ์ ได้แก่
- Tocopheryl acetate ที่เป็นอนุพันธ์ของวิตามินอี น่าจะมีประโยชน์ป้องกันสารในตำรับไม่ให้ถูกทำลายโดยการออกซิเดชั่นจากอากาศ มากกว่าจะเหลือถึงผิว
- Sodium hyaluronate ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- Succinoyl atelocollagen เป็นคอลลาเจนที่ได้จากหมู วัว หรือฉลาม มาจับกับ Succinic acid เพื่อเพิ่มความสามารถในการละลาย และความคงตัว (อาจจะมีประเด็นเรื่องการดูดซึมเข้ามาด้วย) แต่หน้าที่หลักๆคือการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว (ข้อมูลจากผู้จำหน่ายวัตถุดิบ)
2. เนื้อผลิตภัณฑ์ ดูแล้วน่าจะเป็นอิมัลชั่นชนิดซิลิโคนในน้ำ เพราะจากส่วนประกอบ เดาได้ว่า เนื้อจะเป็นส่วนของน้ำ กับสารไขมันสังเคราะห์อีก 1 ตัว คือ Cetyl ethylhexanoate ตัวนี้ทำหน้าที่เคลือบคลุมผิว รักษาความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี ทำงานร่วมกับซิลิโคน
* ส่วนของน้ำประกอบด้วย น้ำ Butylene glycol และ Dipropylene glycol ซึ่งดูดน้ำให้ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีกว่าพวก Glycol พื้นฐาน
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ได้แก่
3.1 อนุพันธ์ของซิลิโคน หลายๆชนิด ได้แก่ Cyclopentasiloxane, Dimethicone, Methicone, Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone, Dimethicone/Methicone copolymer, Dimethicone/vinyl dimethicone crosspolymer พวกนี้ทำหน้าที่หลายๆอย่างกันไปทั้งให้ความรู้สึกดีตอนทา รักษาความชุ่มชื้น เป็น Emulsifier และเพิ่มความคงตัว/เพิ่มความหนืด
3.2 Emulsifier คือ Polyglyceryl-3 diisostearate ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ด้วย
3.3 Preservatives ได้แก่ Methyl paraben, Propyl paraben และ Phenoxyethanol ซึ่งสารกันเสียในกลุ่ม paraben เคยมีรายงานถึงการเพิ่มความเสี่ยงที่เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ทำให้กลุ่มประเทศแถบ EU ห้ามใช้ แต่เนื่องจากหลักฐานยังไม่เพียงพอทำให้ประเทศอื่นๆยังใช้ได้อยู่
3.4 Synthetic antioxidant คือ BHT ป้องกันสารในตำรับไม่ให้ถูกทำลายโดยการออกซิเดชั่นจากอากาศ
3.5 Pigment/Mineral ได้แก่ Silica, Aluminium hydroxide, Mica, Iron oxide (CI 77491)
3.6 Buffer ได้แก่ Disodium phosphate คู่กับ Potassium phosphate เพื่อรักษาความคงตัวของผลิตภัณฑ์ (ตัวนี้บังเอิญพบในวัตถุดิบ Atelocollagen ของบริษัท Koken ประเทศญี่ปุ่น ก็เลยคาดว่าน่าจะใช้วัตถุดิบนี้เป็นส่วนประกอบด้วย)
3.7 Fragrance
ถึงเวลาให้คะแนน
1. สารสำคัญ กลไกในการป้องกันแสงแดดมาจากทั้ง Physical และ Chemical sunscreen ซึ่งจะทำให้ผลอยู่ยาวกว่าแบบที่มีแต่ Chemical sunscreen แม้ว่า Chemical จะเน้นแค่ตัว OMC ที่กัน UVB แต่การใช้ Physical เสริมกัน 2 ตัว ทำให้น่าจะได้ผลกันแดดที่สูงขึ้น (สำหรับ Zirconium dioxide ยังไม่แน่ใจว่าเป็น Physical sunscreen ด้วยไหม หรือเป็นแค่ Pigment เพราะทาง INCI ไม่ได้อนุญาตให้เป็น Sunscreen และไม่มีข้อมูลจากผู้จำหน่ายวัตถุดิบเลย) ผลิตภัณฑ์กันแดดตัวนี้เน้นไปที่การให้ความชุ่มชื้น ทั้งจาก Hyaluron และ คอลลาเจน โดยที่ไม่มีน้ำมันที่เหนอะหนะผิว ถ้าให้สมบูรณ์ต้องมี Antioxidant ดีๆอีกซักตัว จึงขอให้ 8/10
2. เนื้อผลิตภัณฑ์ ถ้ามองในแง่มุมความเป็น Moisturizer ยังขาดน้ำมันจากธรรมชาติที่ดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ แต่ว่าสารกลุ่มน้ำที่ใช้ กับสารกลุ่มน้ำมันที่ใช้ ค่อนข้างจะดีกว่าสารพื้นฐานทั่วๆไป จึงขอให้ 8/10
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ตำรับนี้ใช้สารที่ดูๆแล้วคล้ายเคาน์เตอร์แบรนด์ราคาแพง มีทั้งการใช้ Emulsifier ที่มีคุณสมบัติเสริมความชุ่มชื้นให้ผิว การเลือกใช้ซิลิโคนให้ดู Matt และเนียน มีการใช้บัฟเฟอร์เพื่อรักษาความคงตัวของสารสำคัญ กับยังเสริม BHT เข้ามาเพื่อช่วยให้วิตามินอี ไม่สลายไปก่อนเวลาอันควร ทำให้อาจจะมีวิตามินอีเหลือถึงผิวตอนทา แต่มาติดตรง Paraben ซึ่งแม้ว่าหลักฐานเกี่ยวกับ Paraben ยังไม่เพียงพอ แต่ถ้าเราเลี่ยงได้ก็ควรจะเลี่ยงไว้ก่อน จึงขอให้ 9/10
4. สรุปความคุ้มค่า ผลิตภัณฑ์นี้มีราคาอยู่ที่ 11 บาท/มล. ก็ถือว่าไม่สูงมากนัก ถ้ามองที่คุณสมบัติและความสามารถในการป้องกันแสงแดดน่าจะค่อนข้างคุ้มค่ะ ถ้ามองข้ามเรื่องความเสี่ยงระยะยาวจาก Paraben เหมือน FDA ต่างๆ เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ก็ไม่มีเหตุอะไรที่จะหักคะแนน 10/10
ถ้าชื่นชอบรีวิวแนวนี้ อ่านตัวอื่นๆได้ที่เฟสบุค Cosmetic Knowledge from Dr.Naphatsorn นะคะ
มี่จะทะยอยๆทำมาลงเรื่อยๆค่ะ
ขอบคุณค่ะที่ติดตามอ่านจนจบ
[CR] [CR]~ Review กันแดด Solanoveil Tint pearl สุดยอดกันแดดใช้แทนเมคอัพเบสได้
แนะนำตัวเองนิดหน่อยนะคะ มี่เป็น Admin เพจ Cosmetic Knowledge from Dr.Naphatsorn ที่อาจจะยังไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ค่ะ เป็นเพจเกี่ยวกับความรู้เครื่องสำอางต่างๆ และบทความวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ต่างๆจากส่วนผสมค่ะ
วันนี้ลองเขียนรีวิวของกันแดดตัวหนึ่ง ใช้มาได้ 3 ขวดแล้วค่ะ ชอบเนื้อมาก ไม่มัน ไม่เหนอะ ไม่วอก มีสีเนื้อ ใช้แทนเมคอัพเบสได้เลยค่ะ
ก่อนอื่น ขอแนะนำสภาพผิวของมี่ก่อนนะคะ มี่เป็นคนผิวผสมแบบแปลกๆ ค่อนข้างแห้งเกือบทั้งหน้าค่ะ แต่บริเวณคาง ยังมันอยู่ในช่วงบ่ายๆค่ะ
กันแดดตัวที่หยิบมาวันนี้คือ Solanoveil Tint pearl ของ บ.Omi จากฝั่งญี่ปุ่นค่ะ ซื้อมาจากร้าน Tsuruha ตอนนั้นมีโปรโมชั่น ลดราคาเหลือ 245 บาท แต่กลับไปซื้ออีก ก็ขึ้นไปราคาปกติแล้วค่ะ (จำไม่ได้ว่า 420 หรือ 440 บาท)
ตัวนี้มีเนื้อเหลวๆ เป็นสีเนื้อ เกลี่ยง่ายไม่มันค่ะ (สำหรับคนผิวแห้งซึมหายไปภายใน 2 นาที)
เกลี่ยแล้วก็เนียนดีค่ะ
อันนี้เป็นข้อมูลส่วนผสมนะคะ
ปกตินอกจากการลองใช้งานแล้ว มี่จะรีวิวจากส่วนผสมด้วย
ซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทุกชนิดในโลกนี้จะประกอบด้วยส่วนหลักๆ 3 ส่วน คือ Active (สารสำคัญ) Base (เนื้อผลิตภัณฑ์ บางทีอาจเรียกว่า Vehicle) และ Additive (คือสารที่ช่วยเสริมให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่ดี มีความน่าใช้)
ลองมาดูกันไปทีละส่วนเลยค่ะ
1. สารสำคัญ สำหรับผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดจะนำเอา Sunscreen มาใส่ไว้ในหมวดสารสำคัญค่ะ ซึ่ง Active ingredients ของผลิตภัณฑ์นี้มีดังนี้
- Sunscreen ได้แก่ Physical กับ Chemical sunscreen
* Physical sunscreen ได้แก่ Zinc oxide, Titanium dioxide และ Zirconium dioxide ซึ่งตัวสุดท้ายนี้เป็นวัตถุดิบ Inorganic oxide ที่ค่อนข้างใหม่ค่ะ ทาง INCI จัดเป็นวัสดุที่ทำให้ทึบแสง แต่อาจจะช่วยสะท้อนรังสี UV ได้โดยทำตัวเหมือน Physical sunscreen
* Chemical sunscreen ได้แก่ Ethylhexyl methoxycinnamate หรือ ที่รู้จักกันในนาม OMC ตัวนี้ดูดซับรังสีในช่วง UVB
- สารสำคัญที่เป็นสารสกัดจากพืช ได้แก่ สารสกัดจากราก Yellow Himalayan Raspberry (Rubs ellipticus root) ตัวนี้ทาง INCI จัดให้เป็นสารให้ความชุ่มชื้น
- สารสำคัญที่เป็นสารบริสุทธิ์ ได้แก่
- Tocopheryl acetate ที่เป็นอนุพันธ์ของวิตามินอี น่าจะมีประโยชน์ป้องกันสารในตำรับไม่ให้ถูกทำลายโดยการออกซิเดชั่นจากอากาศ มากกว่าจะเหลือถึงผิว
- Sodium hyaluronate ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- Succinoyl atelocollagen เป็นคอลลาเจนที่ได้จากหมู วัว หรือฉลาม มาจับกับ Succinic acid เพื่อเพิ่มความสามารถในการละลาย และความคงตัว (อาจจะมีประเด็นเรื่องการดูดซึมเข้ามาด้วย) แต่หน้าที่หลักๆคือการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว (ข้อมูลจากผู้จำหน่ายวัตถุดิบ)
2. เนื้อผลิตภัณฑ์ ดูแล้วน่าจะเป็นอิมัลชั่นชนิดซิลิโคนในน้ำ เพราะจากส่วนประกอบ เดาได้ว่า เนื้อจะเป็นส่วนของน้ำ กับสารไขมันสังเคราะห์อีก 1 ตัว คือ Cetyl ethylhexanoate ตัวนี้ทำหน้าที่เคลือบคลุมผิว รักษาความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี ทำงานร่วมกับซิลิโคน
* ส่วนของน้ำประกอบด้วย น้ำ Butylene glycol และ Dipropylene glycol ซึ่งดูดน้ำให้ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีกว่าพวก Glycol พื้นฐาน
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ได้แก่
3.1 อนุพันธ์ของซิลิโคน หลายๆชนิด ได้แก่ Cyclopentasiloxane, Dimethicone, Methicone, Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone, Dimethicone/Methicone copolymer, Dimethicone/vinyl dimethicone crosspolymer พวกนี้ทำหน้าที่หลายๆอย่างกันไปทั้งให้ความรู้สึกดีตอนทา รักษาความชุ่มชื้น เป็น Emulsifier และเพิ่มความคงตัว/เพิ่มความหนืด
3.2 Emulsifier คือ Polyglyceryl-3 diisostearate ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ด้วย
3.3 Preservatives ได้แก่ Methyl paraben, Propyl paraben และ Phenoxyethanol ซึ่งสารกันเสียในกลุ่ม paraben เคยมีรายงานถึงการเพิ่มความเสี่ยงที่เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ทำให้กลุ่มประเทศแถบ EU ห้ามใช้ แต่เนื่องจากหลักฐานยังไม่เพียงพอทำให้ประเทศอื่นๆยังใช้ได้อยู่
3.4 Synthetic antioxidant คือ BHT ป้องกันสารในตำรับไม่ให้ถูกทำลายโดยการออกซิเดชั่นจากอากาศ
3.5 Pigment/Mineral ได้แก่ Silica, Aluminium hydroxide, Mica, Iron oxide (CI 77491)
3.6 Buffer ได้แก่ Disodium phosphate คู่กับ Potassium phosphate เพื่อรักษาความคงตัวของผลิตภัณฑ์ (ตัวนี้บังเอิญพบในวัตถุดิบ Atelocollagen ของบริษัท Koken ประเทศญี่ปุ่น ก็เลยคาดว่าน่าจะใช้วัตถุดิบนี้เป็นส่วนประกอบด้วย)
3.7 Fragrance
ถึงเวลาให้คะแนน
1. สารสำคัญ กลไกในการป้องกันแสงแดดมาจากทั้ง Physical และ Chemical sunscreen ซึ่งจะทำให้ผลอยู่ยาวกว่าแบบที่มีแต่ Chemical sunscreen แม้ว่า Chemical จะเน้นแค่ตัว OMC ที่กัน UVB แต่การใช้ Physical เสริมกัน 2 ตัว ทำให้น่าจะได้ผลกันแดดที่สูงขึ้น (สำหรับ Zirconium dioxide ยังไม่แน่ใจว่าเป็น Physical sunscreen ด้วยไหม หรือเป็นแค่ Pigment เพราะทาง INCI ไม่ได้อนุญาตให้เป็น Sunscreen และไม่มีข้อมูลจากผู้จำหน่ายวัตถุดิบเลย) ผลิตภัณฑ์กันแดดตัวนี้เน้นไปที่การให้ความชุ่มชื้น ทั้งจาก Hyaluron และ คอลลาเจน โดยที่ไม่มีน้ำมันที่เหนอะหนะผิว ถ้าให้สมบูรณ์ต้องมี Antioxidant ดีๆอีกซักตัว จึงขอให้ 8/10
2. เนื้อผลิตภัณฑ์ ถ้ามองในแง่มุมความเป็น Moisturizer ยังขาดน้ำมันจากธรรมชาติที่ดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ แต่ว่าสารกลุ่มน้ำที่ใช้ กับสารกลุ่มน้ำมันที่ใช้ ค่อนข้างจะดีกว่าสารพื้นฐานทั่วๆไป จึงขอให้ 8/10
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ตำรับนี้ใช้สารที่ดูๆแล้วคล้ายเคาน์เตอร์แบรนด์ราคาแพง มีทั้งการใช้ Emulsifier ที่มีคุณสมบัติเสริมความชุ่มชื้นให้ผิว การเลือกใช้ซิลิโคนให้ดู Matt และเนียน มีการใช้บัฟเฟอร์เพื่อรักษาความคงตัวของสารสำคัญ กับยังเสริม BHT เข้ามาเพื่อช่วยให้วิตามินอี ไม่สลายไปก่อนเวลาอันควร ทำให้อาจจะมีวิตามินอีเหลือถึงผิวตอนทา แต่มาติดตรง Paraben ซึ่งแม้ว่าหลักฐานเกี่ยวกับ Paraben ยังไม่เพียงพอ แต่ถ้าเราเลี่ยงได้ก็ควรจะเลี่ยงไว้ก่อน จึงขอให้ 9/10
4. สรุปความคุ้มค่า ผลิตภัณฑ์นี้มีราคาอยู่ที่ 11 บาท/มล. ก็ถือว่าไม่สูงมากนัก ถ้ามองที่คุณสมบัติและความสามารถในการป้องกันแสงแดดน่าจะค่อนข้างคุ้มค่ะ ถ้ามองข้ามเรื่องความเสี่ยงระยะยาวจาก Paraben เหมือน FDA ต่างๆ เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ก็ไม่มีเหตุอะไรที่จะหักคะแนน 10/10
ถ้าชื่นชอบรีวิวแนวนี้ อ่านตัวอื่นๆได้ที่เฟสบุค Cosmetic Knowledge from Dr.Naphatsorn นะคะ
มี่จะทะยอยๆทำมาลงเรื่อยๆค่ะ
ขอบคุณค่ะที่ติดตามอ่านจนจบ