ต่อจาก http://pantip.com/topic/31926830
Galaxy Note 3
ต้องยอมรับว่า Galaxy Note 3 นั้นจุดเด่นอยู่ที่ปากกา ดังนั้นข้อดีทั้งหลายก็จะไปอยู่ที่ปากกาหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น Air Command (มีแยกย่อยห้าอย่าง ได้แก่ Action Memo, Scrapbook, Screen Write, S Finder, Pen Windows) คงต้องยอมรับว่าไม่มีฟีเจอร์อื่นที่โดดเด่นเลยนอกจากปากกา
Galaxy S5
สำหรับ Galaxy S5 นั้นแตกต่างกับ Galaxy Note 3 อย่างเห็นได้ชัด มีฟีเจอร์ด้านฮาร์ดแวร์ ที่เกิดจากการพัฒนาร่วมกับซอฟท์แวร์อย่างใกล้ชิดหลายๆ ตัวด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบประหยัดพลังงานแบบ Extreme หรือการถ่ายรูปต่างๆ บางทีนี่อาจจะเป็นสัญญาณว่า Galaxy S5 นั้นฮาร์ดแวร์ไม่โดดเด่น จึงต้องอุดด้วย Software ก็ได้ และการอุดด้วย Software นี้โดยปกติแล้วถ้าผู้ผลิตไม่กั๊ก มักจะหมายถึงโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ (รวมไปถึง Galaxy Note 3) ควรจะได้รับการอัพเดทให้เท่าเทียมกันในภายหลังด้วย
Super Dimming – ทำให้หน้าจอมืดในที่มืด และสว่างสุดๆ สู้แดด แม้ว่าจะดูเหมือนฟีเจอร์ทางด้านฮาร์ดแวร์ แต่ก็เป็นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างสองทีม ในการควบคุมระบบ
กล้อง – Hardware ของ Galaxy S5 นั้นเปลี่ยนไป (ISOCELL) แล้วยังมีฟีเจอร์ที่ควบคุมผ่านซอฟท์แวร์ใหม่ๆ เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น HDR (ทำงานแบบ Realtime HDR คือไม่ต้องถ่ายก็รู้ว่าจะออกมาได้ภาพแบบไหน), Selective Focus ที่เลือกภาพหน้าชัดหลังเบลอได้
Ultra Power Saving – การทำงาน Power Saving นั้นเป็นเรื่องของ Software ที่จะไปควบคุมการทำงานของ Hardware อยู่แล้วครับ เช่นควบคุมหน่วยประมวลผลให้ทำงานน้อยลง จะได้ประหยัดไฟมากขึ้น แต่ที่เจ๋งก็ตรงที่ Samsung นั้นผลิตและพัฒนาฮาร์ดแวร์เอง ทำให้เข้าใจในระบบการทำงานมากขึ้น โดยเจ้า Ultrasaving นี้จะบีบให้เราใช้งานได้แค่แอพไม่กี่ตัว และหน้าจอขาวดำ ซึ่งเป็นโหมดการประหยัดพลังงานของจอประเภท SuperAMOLED อยู่แล้วด้วย โดยทำให้แบตเตอรี 10% สามารถอยู่ต่อได้ถึง 24% ในโหมดสแตนด์บายเลยทีเดียว
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mxphone.net/110414-editor-letter-should-i-get-note-3-or-s5/
[กระทู้ต่อ] ความต่างด้าน software note3 / s5
Galaxy Note 3
ต้องยอมรับว่า Galaxy Note 3 นั้นจุดเด่นอยู่ที่ปากกา ดังนั้นข้อดีทั้งหลายก็จะไปอยู่ที่ปากกาหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น Air Command (มีแยกย่อยห้าอย่าง ได้แก่ Action Memo, Scrapbook, Screen Write, S Finder, Pen Windows) คงต้องยอมรับว่าไม่มีฟีเจอร์อื่นที่โดดเด่นเลยนอกจากปากกา
Galaxy S5
สำหรับ Galaxy S5 นั้นแตกต่างกับ Galaxy Note 3 อย่างเห็นได้ชัด มีฟีเจอร์ด้านฮาร์ดแวร์ ที่เกิดจากการพัฒนาร่วมกับซอฟท์แวร์อย่างใกล้ชิดหลายๆ ตัวด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบประหยัดพลังงานแบบ Extreme หรือการถ่ายรูปต่างๆ บางทีนี่อาจจะเป็นสัญญาณว่า Galaxy S5 นั้นฮาร์ดแวร์ไม่โดดเด่น จึงต้องอุดด้วย Software ก็ได้ และการอุดด้วย Software นี้โดยปกติแล้วถ้าผู้ผลิตไม่กั๊ก มักจะหมายถึงโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ (รวมไปถึง Galaxy Note 3) ควรจะได้รับการอัพเดทให้เท่าเทียมกันในภายหลังด้วย
Super Dimming – ทำให้หน้าจอมืดในที่มืด และสว่างสุดๆ สู้แดด แม้ว่าจะดูเหมือนฟีเจอร์ทางด้านฮาร์ดแวร์ แต่ก็เป็นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างสองทีม ในการควบคุมระบบ
กล้อง – Hardware ของ Galaxy S5 นั้นเปลี่ยนไป (ISOCELL) แล้วยังมีฟีเจอร์ที่ควบคุมผ่านซอฟท์แวร์ใหม่ๆ เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น HDR (ทำงานแบบ Realtime HDR คือไม่ต้องถ่ายก็รู้ว่าจะออกมาได้ภาพแบบไหน), Selective Focus ที่เลือกภาพหน้าชัดหลังเบลอได้
Ultra Power Saving – การทำงาน Power Saving นั้นเป็นเรื่องของ Software ที่จะไปควบคุมการทำงานของ Hardware อยู่แล้วครับ เช่นควบคุมหน่วยประมวลผลให้ทำงานน้อยลง จะได้ประหยัดไฟมากขึ้น แต่ที่เจ๋งก็ตรงที่ Samsung นั้นผลิตและพัฒนาฮาร์ดแวร์เอง ทำให้เข้าใจในระบบการทำงานมากขึ้น โดยเจ้า Ultrasaving นี้จะบีบให้เราใช้งานได้แค่แอพไม่กี่ตัว และหน้าจอขาวดำ ซึ่งเป็นโหมดการประหยัดพลังงานของจอประเภท SuperAMOLED อยู่แล้วด้วย โดยทำให้แบตเตอรี 10% สามารถอยู่ต่อได้ถึง 24% ในโหมดสแตนด์บายเลยทีเดียว
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mxphone.net/110414-editor-letter-should-i-get-note-3-or-s5/