โครงการ รับจำนำข้าวยังหาเงินมาใช้หนี้ชาวนาที่เหลือ 8 แสนกว่าราย อีกราวๆ แสนล้านบาทไม่ได้ ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก ไม่กี่วันมานี้ กรมสรรพสามิตแพลมออกมาว่า โครงการรถคันแรกมีปัญหาเงินไม่พอจ่ายคืน เหลือเงินแค่ 9,217 ล้านบาท ใช้ได้อีกแค่ 1-2 เดือน
นั่นหมายความว่า คิวที่รอคืนหลังมิ.ย.ไม่รู้จะได้เมื่อไหร่
ล่าสุด "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เตรียมใช้ขออนุมัติเงินจากงบฯ กลางอีก 8,000 ล้านบาท มาจ่ายแทน
อัน ที่จริงทั้ง "รถคันแรก" และ "จำนำข้าว" ถูก"ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล"วิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่พรรคเพื่อไทยใช้หาเสียงเรียก ว่าเป็น "ประชานิยมโบดำ" ซึ่งไม่จำเป็นและไม่ได้ช่วยคนยากคนจนจริงๆ เป็นเพียง "กลยุทธ์หาเสียง" เกทับบลัฟแหลกคู่แข่ง
อ้าง ว่าโครงการจำนำข้าว โรงสี นักการเมืองได้ประโยชน์ชาวนาได้เพียงส่วนน้อยหากเทียบกับงบประมาณที่ถมลงไป โครงการรถคันแรกคนชั้นกลางและบริษัทรถยนต์ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนได้ประโยชน์
แต่คนที่ต้องแบกรับภาระ "จ่ายแทน" คือภาษีของคนชั้นกลางคนทำงานออฟฟิศ และภาษีสรรพสามิตที่เป็นรายได้ของรัฐ
นอก จากนี้ยังอ้างว่าทั้งโครงการรับจำนำข้าวและรถคันแรกบิดเบือนกลไกตลาดทั้งคู่ รถคันแรกเป็นการ "ดึงกำลังซื้อล่วงหน้า" มาใช้ก่อน แต่ภายหลังสิ้นสุดโครงการกลับสร้างปัญหาให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ ทำให้หนี้ครัวเรือนพุ่งกระฉูด กำลังซื้อหดหาย และอื่นๆ อีกมากมาย
เจตนา ดั้งเดิมโครงการรถคันแรกเพื่อให้คนรุ่นใหม่ที่เริ่มทำงานมีรถใช้โดยรัฐบาล อุดหนุนด้วยการคืนภาษี ตั้งเป้าไว้ 5 แสนคัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหลังน้ำท่วมใหญ่ใน ปี 2554 บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นเสียหายหนัก รัฐบาลจึงขยายเป็นไม่จำกัดเพื่อแก้ปัญหา
ปรากฏ ว่ายอดจองสูงถึง 1.2 ล้านคัน เม็ดเงินที่ต้องคืน เพิ่มกว่าเท่าตัวทำให้ต้องเอาเงินภาษีไปถม ทั้งจำนำข้าวและรถคันแรก แค่ 2 โครงการนี้ก็เกือบๆ 8 แสนล้านบาท (เท่ากับ งบฯการศึกษารวมกับสาธารณสุข)
ความ รู้สึกของคนที่ซื้อรถต้องรอเงินคืนจากรัฐบาล คงจะเหมือนกับชาวนาที่กำลังรอเงินจำนำข้าว คงต้องรอลุ้น งบฯกลาง ไม่รู้จะออกหัวหรือออกก้อย
หรือรอว่าเมื่อไหร่จะมีการเลือกตั้ง ให้ได้รัฐบาลจากประชาชนเข้ามาแก้ปัญหาเสียที
ขอบคุณทวี มีเงิน ข่าวสด-----------------จาก มองก็รู้ นสพ.ไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก ของหมู่เฮาชาวควายแดง
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU56VTRNek01TVE9PQ==§ionid=
อีชั้นกำลังเดินทางกลับกทม. เข้าหา คนว่ายาก(ห้ามย่อนะเจ๊า) บอกตั้งหลายหน โครงการจำนำข้าว ก็ดี โครงการรถคันแรก ก็ดี ร่ำรวยเฉพาะโรงสี ร่ำรวยเฉพาะผู้ประกอบการผลิตรถ-อะไหล่... เอ๊ย ม่ายช่าย...ชาวนาปลูกข้าว และชาวออฟฟิศผู้กินเงินเดือนน้อย…
เรื่องรถคันแรกบ่จี๊ ต้องโทษบักโต้ง ขี้ฮกสีขาว ซีคร้า มอบนโยบายไปแล้ว แล้วก็แล้วกัน เดี๊ยนจะไปรู้ได้ไง เพราะมัวหนีไปเที่ยวตปท. แต่งตัวพริตตี้เปิดงานอีเว้นท์.... ส่วนโครงการจำนำข้าว ชาวนาผูกคอตายจิ๊บๆ12ราย ไม่ถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์ของชาวนาทั้งหมด บ่จี๊เช่นกัน ต้องโทษบักโต้ง... ยันพวง... รับผิดชอบเอง อีชั้นตอบได้เพียง หนูไม่รู้...
เพื่อประโยชน์ส่วนรวม โทษคนอื่นไปหมดแหละคร้า นอกจากตัวเอง... ก็ขี้ข้าห้อมล้อมมีเยอะนี่คะ แต่ถ้าตกกระป๋องจะดูซิเหลือสักกี่ตัว...สิ่งสำคัญนายแบ๊งก์ธนาคาร ขี้เหนียวชมัดยาดไม่ยอมให้กู้เงินใช้หนี้ ...จีทูจีก็แหกตาไม่มีจริง ซื้อราคาข้าวเน่าถูกๆ แล้วเอาข้าวดีใส่ถุงขาย ยักย้ายถ่ายเทกันในประเทศ กินกันอิ่มแปร้สบายพุง ทอดทิ้งอีชั้นแก้ตัวปปช.ศาลตามลำพัง แต่ไม่แน่อาจโดนยกพวงก็ได้ ใครจะไปรู้ เจ๊า..................
"รถคันแรก" ซ้ำรอย”จำนำข้าว” ต้องโทษรมต.นายแบ๊งก์ทั้งหมด นอกจากตัวเอง เจ๊า
นั่นหมายความว่า คิวที่รอคืนหลังมิ.ย.ไม่รู้จะได้เมื่อไหร่
ล่าสุด "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เตรียมใช้ขออนุมัติเงินจากงบฯ กลางอีก 8,000 ล้านบาท มาจ่ายแทน
อัน ที่จริงทั้ง "รถคันแรก" และ "จำนำข้าว" ถูก"ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล"วิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่พรรคเพื่อไทยใช้หาเสียงเรียก ว่าเป็น "ประชานิยมโบดำ" ซึ่งไม่จำเป็นและไม่ได้ช่วยคนยากคนจนจริงๆ เป็นเพียง "กลยุทธ์หาเสียง" เกทับบลัฟแหลกคู่แข่ง
อ้าง ว่าโครงการจำนำข้าว โรงสี นักการเมืองได้ประโยชน์ชาวนาได้เพียงส่วนน้อยหากเทียบกับงบประมาณที่ถมลงไป โครงการรถคันแรกคนชั้นกลางและบริษัทรถยนต์ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนได้ประโยชน์
แต่คนที่ต้องแบกรับภาระ "จ่ายแทน" คือภาษีของคนชั้นกลางคนทำงานออฟฟิศ และภาษีสรรพสามิตที่เป็นรายได้ของรัฐ
นอก จากนี้ยังอ้างว่าทั้งโครงการรับจำนำข้าวและรถคันแรกบิดเบือนกลไกตลาดทั้งคู่ รถคันแรกเป็นการ "ดึงกำลังซื้อล่วงหน้า" มาใช้ก่อน แต่ภายหลังสิ้นสุดโครงการกลับสร้างปัญหาให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ ทำให้หนี้ครัวเรือนพุ่งกระฉูด กำลังซื้อหดหาย และอื่นๆ อีกมากมาย
เจตนา ดั้งเดิมโครงการรถคันแรกเพื่อให้คนรุ่นใหม่ที่เริ่มทำงานมีรถใช้โดยรัฐบาล อุดหนุนด้วยการคืนภาษี ตั้งเป้าไว้ 5 แสนคัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหลังน้ำท่วมใหญ่ใน ปี 2554 บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นเสียหายหนัก รัฐบาลจึงขยายเป็นไม่จำกัดเพื่อแก้ปัญหา
ปรากฏ ว่ายอดจองสูงถึง 1.2 ล้านคัน เม็ดเงินที่ต้องคืน เพิ่มกว่าเท่าตัวทำให้ต้องเอาเงินภาษีไปถม ทั้งจำนำข้าวและรถคันแรก แค่ 2 โครงการนี้ก็เกือบๆ 8 แสนล้านบาท (เท่ากับ งบฯการศึกษารวมกับสาธารณสุข)
ความ รู้สึกของคนที่ซื้อรถต้องรอเงินคืนจากรัฐบาล คงจะเหมือนกับชาวนาที่กำลังรอเงินจำนำข้าว คงต้องรอลุ้น งบฯกลาง ไม่รู้จะออกหัวหรือออกก้อย
หรือรอว่าเมื่อไหร่จะมีการเลือกตั้ง ให้ได้รัฐบาลจากประชาชนเข้ามาแก้ปัญหาเสียที
ขอบคุณทวี มีเงิน ข่าวสด-----------------จาก มองก็รู้ นสพ.ไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก ของหมู่เฮาชาวควายแดง
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU56VTRNek01TVE9PQ==§ionid=
อีชั้นกำลังเดินทางกลับกทม. เข้าหา คนว่ายาก(ห้ามย่อนะเจ๊า) บอกตั้งหลายหน โครงการจำนำข้าว ก็ดี โครงการรถคันแรก ก็ดี ร่ำรวยเฉพาะโรงสี ร่ำรวยเฉพาะผู้ประกอบการผลิตรถ-อะไหล่... เอ๊ย ม่ายช่าย...ชาวนาปลูกข้าว และชาวออฟฟิศผู้กินเงินเดือนน้อย…
เรื่องรถคันแรกบ่จี๊ ต้องโทษบักโต้ง ขี้ฮกสีขาว ซีคร้า มอบนโยบายไปแล้ว แล้วก็แล้วกัน เดี๊ยนจะไปรู้ได้ไง เพราะมัวหนีไปเที่ยวตปท. แต่งตัวพริตตี้เปิดงานอีเว้นท์.... ส่วนโครงการจำนำข้าว ชาวนาผูกคอตายจิ๊บๆ12ราย ไม่ถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์ของชาวนาทั้งหมด บ่จี๊เช่นกัน ต้องโทษบักโต้ง... ยันพวง... รับผิดชอบเอง อีชั้นตอบได้เพียง หนูไม่รู้...
เพื่อประโยชน์ส่วนรวม โทษคนอื่นไปหมดแหละคร้า นอกจากตัวเอง... ก็ขี้ข้าห้อมล้อมมีเยอะนี่คะ แต่ถ้าตกกระป๋องจะดูซิเหลือสักกี่ตัว...สิ่งสำคัญนายแบ๊งก์ธนาคาร ขี้เหนียวชมัดยาดไม่ยอมให้กู้เงินใช้หนี้ ...จีทูจีก็แหกตาไม่มีจริง ซื้อราคาข้าวเน่าถูกๆ แล้วเอาข้าวดีใส่ถุงขาย ยักย้ายถ่ายเทกันในประเทศ กินกันอิ่มแปร้สบายพุง ทอดทิ้งอีชั้นแก้ตัวปปช.ศาลตามลำพัง แต่ไม่แน่อาจโดนยกพวงก็ได้ ใครจะไปรู้ เจ๊า..................