เช้าแล้วเมืองไทยวันพุธที่ 16 เมษายน 2557 ตรงกับวันหวยออกพอดี นายลวดหนามแห่งสำนักข่าวแซดนิวส์เข้าเวรวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองหลังสงกรานต์ในช่วงที่เมืองไทยเปราะบางที่สุด
และเขม็งเกลียวมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ หากใครจับสังเกตุพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกได้จะทราบว่ามีท่าทีเหมือน "กลืนไม่เข้า คายไม่ออก" แม้ว่าหลายท่านจะออกมาปฏิเสธข่าวเรื่องรัฐประหาร บางท่านไม่เชื่อว่าจะมีการทำ แม้กระทั่งคนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ก็วิเคราะห์ผ่านลูกน้องที่บินไปพบมาว่า ไม่น่าจะมีการรัฐประหารเพราะต่างชาติไม่ยอมรับ แต่อย่าลืมว่ากองทัพมีบทบาทสำคัญแทบทุกย่างก้าว ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะใดก็ตามโดยเฉพาะครึ่งหลังของเดือนเมษายน ไปตลอดจนถึงเดือนพฤษภาคม ที่คดีความต่างๆ จะสิ้นสุด
ดังนั้น บทบาทของกองทัพในช่วงหลังสงกรานต์จึงต้องจับตา หากผลการตัดสินออกมาตาม "แผนชั่ว" และมีผลกระทบต่อรัฐบาล หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี พ้นความเป็นรัฐมนตรีแล้ว ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้วนั้นเหตุการณ์อย่างที่บอกคือ เมืองไทยอยู่ในสภาพเปราะบางที่สุดและเขม็งเกลียวมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
เพราะสถานการณ์การเมืองจะเข้าสู่สภาวะ “สุญญากาศ” ในขณะที่มวลชนทั้งเสื้อแดง และ กลุ่มกปปส.ต่างเตรียมการขั้นตอนหลังจากนั้นเอาไว้แล้วดังจะเห็นจากการออกมาแถลงข่าวในแต่ละวัน เพราะแกนนำพรรคเพื่อไทยประกาศแล้วว่าต้องมีการอารยะขัดขืนแน่นอน ไม่ฟังการตัดสินของศาล ไม่ยอมรับองค์กรอิสระ ซึ่งมวลชน เสื้อแดงเตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้ว หากประธาน นปช.เรียกระดมพลขึ้นมาปกป้องพรรคเพื่อไทยก้คาดว่ามีจำนวนมากมายหลายแสน
ส่วน กลุ่ม กปปส.โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศไว้แล้วว่าจะต้องตั้ง “รัฏฐาธิปัตย์” ให้ได้ แม้ช่วงหลังจะโดนโจมตีอย่างหนักจากนักวิชาการ และ คนในพรรคเอง แต่การตั้ง “รัฏฐาธิปัตย์” คือธงของนายสุเทพ เทือกสุบรรณอยู่แล้ว ซึ่งรูปแบบและแนวทางของ 2 กลุ่มเป็นเส้นขนานโดยสิ้นเชิงจึงต้องระวังเหตุการณ์ปะทะที่อาจะต้องเสียเลือดเนื้อ เอาเป็นว่าสัปดาห์ต่อจากนี้นักข่าวจะโกัสไปที่ 2 คดีความใหญ่ ทั้งปมวินิจฉัยสถานภาพความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่อยู่ในมือศาลรัฐธรรมนูญ กรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี และปมถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กรณีละเว้นไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวจนก่อให้เกิดความเสียหาย ที่ป.ป.ช. กำลังเร่งไต่สวนอยู่ทุกนาที
แต่ นายลวดหนามแห่งสำนักข่าวแซดนิวส์ ขอเตือนไว้ว่า หากกระบวนการใดๆ ที่ไร้ซึ่งความยุติธรรม ไม่เป็นไปตามข้อกฏหมายและบรรทัดฐานที่นักนิติศาสตร์ได้ศึกษากันมาหลายร้อยปี กติกาไม่เป็นกติกา กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย พวกคุณต้องระวังไว้ว่า หากมนุษย์จำนวนมากสู้ชนิดหัวชนฝา และ ถอยจนสุดซอยแล้ว แต่ความไม่ยุติธรรมยังกลั่นแกล้งต่อไปอีก รับรองได้ว่าเกิดสงครามกลางเมืองแน่ๆ
เครดิต :
http://www.znewsthailand.com/home/index.php/politics/item/549-16
เช้าแล้วเมืองไทย พุธ 16 เม.ย."จับสัญญาณอันตราย"
และเขม็งเกลียวมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ หากใครจับสังเกตุพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกได้จะทราบว่ามีท่าทีเหมือน "กลืนไม่เข้า คายไม่ออก" แม้ว่าหลายท่านจะออกมาปฏิเสธข่าวเรื่องรัฐประหาร บางท่านไม่เชื่อว่าจะมีการทำ แม้กระทั่งคนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ก็วิเคราะห์ผ่านลูกน้องที่บินไปพบมาว่า ไม่น่าจะมีการรัฐประหารเพราะต่างชาติไม่ยอมรับ แต่อย่าลืมว่ากองทัพมีบทบาทสำคัญแทบทุกย่างก้าว ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะใดก็ตามโดยเฉพาะครึ่งหลังของเดือนเมษายน ไปตลอดจนถึงเดือนพฤษภาคม ที่คดีความต่างๆ จะสิ้นสุด
ดังนั้น บทบาทของกองทัพในช่วงหลังสงกรานต์จึงต้องจับตา หากผลการตัดสินออกมาตาม "แผนชั่ว" และมีผลกระทบต่อรัฐบาล หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี พ้นความเป็นรัฐมนตรีแล้ว ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้วนั้นเหตุการณ์อย่างที่บอกคือ เมืองไทยอยู่ในสภาพเปราะบางที่สุดและเขม็งเกลียวมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
เพราะสถานการณ์การเมืองจะเข้าสู่สภาวะ “สุญญากาศ” ในขณะที่มวลชนทั้งเสื้อแดง และ กลุ่มกปปส.ต่างเตรียมการขั้นตอนหลังจากนั้นเอาไว้แล้วดังจะเห็นจากการออกมาแถลงข่าวในแต่ละวัน เพราะแกนนำพรรคเพื่อไทยประกาศแล้วว่าต้องมีการอารยะขัดขืนแน่นอน ไม่ฟังการตัดสินของศาล ไม่ยอมรับองค์กรอิสระ ซึ่งมวลชน เสื้อแดงเตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้ว หากประธาน นปช.เรียกระดมพลขึ้นมาปกป้องพรรคเพื่อไทยก้คาดว่ามีจำนวนมากมายหลายแสน
ส่วน กลุ่ม กปปส.โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศไว้แล้วว่าจะต้องตั้ง “รัฏฐาธิปัตย์” ให้ได้ แม้ช่วงหลังจะโดนโจมตีอย่างหนักจากนักวิชาการ และ คนในพรรคเอง แต่การตั้ง “รัฏฐาธิปัตย์” คือธงของนายสุเทพ เทือกสุบรรณอยู่แล้ว ซึ่งรูปแบบและแนวทางของ 2 กลุ่มเป็นเส้นขนานโดยสิ้นเชิงจึงต้องระวังเหตุการณ์ปะทะที่อาจะต้องเสียเลือดเนื้อ เอาเป็นว่าสัปดาห์ต่อจากนี้นักข่าวจะโกัสไปที่ 2 คดีความใหญ่ ทั้งปมวินิจฉัยสถานภาพความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่อยู่ในมือศาลรัฐธรรมนูญ กรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี และปมถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กรณีละเว้นไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวจนก่อให้เกิดความเสียหาย ที่ป.ป.ช. กำลังเร่งไต่สวนอยู่ทุกนาที
แต่ นายลวดหนามแห่งสำนักข่าวแซดนิวส์ ขอเตือนไว้ว่า หากกระบวนการใดๆ ที่ไร้ซึ่งความยุติธรรม ไม่เป็นไปตามข้อกฏหมายและบรรทัดฐานที่นักนิติศาสตร์ได้ศึกษากันมาหลายร้อยปี กติกาไม่เป็นกติกา กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย พวกคุณต้องระวังไว้ว่า หากมนุษย์จำนวนมากสู้ชนิดหัวชนฝา และ ถอยจนสุดซอยแล้ว แต่ความไม่ยุติธรรมยังกลั่นแกล้งต่อไปอีก รับรองได้ว่าเกิดสงครามกลางเมืองแน่ๆ
เครดิต : http://www.znewsthailand.com/home/index.php/politics/item/549-16