ประวัติศาสตร์ความโหดร้ายของการเข่นฆ่าผู้คิดต่างในแผ่นดินไทย ที่ใกล้เคียงกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่สุด ไม่พ้นเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ภาพความโหดร้ายทุกประเภท เท่าที่มนุษย์จะสามารถกระทำต่อกันได้ ยังคงเป็นภาพที่ไม่มีวันลืมได้ สำหรับผู้อยู่ในเหตุการณ์เสมอ
การปลุกระดมให้กำจัด มากกว่าจะใช้วิถีทางเห็นต่าง แต่อยู่ร่วมกันได้แบบประชาธิปไตย มักเป็นจุดเริ่มต้นของการสังหารหมู่ ด้วยความเชื่อว่า ความคิดของพวกเขาถูกแต่เพียงฝ่ายเดียว การถกเถียงไม่ใช่สิ่งจำเป็น และความเห็นอื่นๆ ต้องกำจัดทิ้งเท่านั้น
กรณีของผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ที่ได้ทำการจัดตั้ง "องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน" ขึ้นมาเพื่อกำจัดผู้เห็นต่างโดยเฉพาะ ทำให้เกิดความกังวลขึ้นอีกครั้ง ว่าเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 19 อาจกลับมาอีกครั้งหนึ่ง หรือร้ายแรงกว่าเดิมถึงขั้นเป็น "รวันดา-ไทยแลนด์" เมื่อพิจารณาจากระดับเป้าหมายของการกวาดล้างในครั้งนี้
ในวันที่ประชาชนกำลังเรียกร้องความเสมอภาค และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น กลับปรากฏว่ากลุ่มคนที่เห็นต่างล้าหลังในสังคมไทย กลับเลือกปิดทางอภิปรายความคิด อย่างผู้มีสติปัญญา และเลือกใช้วิธีการทำลายล้างฝั่งตรงข้ามอย่างถึงที่สุด
บางที ก่อนที่ผู้คิดต่างในสังคมไทย จะเริ่มชี้หน้าฝ่ายตรงข้ามว่าเป็น "ขยะ" และเริ่มปฏิบัติการกำจัดพวกเขาทิ้ง อย่างที่กล่าวอ้าง พวกเขาอาจจะต้องถามตัวเองก่อน ว่าพวกเขาอยากให้สยามเมืองยิ้ม ต้องมีสภาพเช่นนี้เกิดขึ้นจริงๆหรือไม่
ที่มา :
http://news.voicetv.co.th/democracycrisis/102959.html
15 เมษายน 2557
องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน - 6 ตุลาฯรีเทิร์น - รวันดาไทยแลนด์
ประวัติศาสตร์ความโหดร้ายของการเข่นฆ่าผู้คิดต่างในแผ่นดินไทย ที่ใกล้เคียงกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่สุด ไม่พ้นเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ภาพความโหดร้ายทุกประเภท เท่าที่มนุษย์จะสามารถกระทำต่อกันได้ ยังคงเป็นภาพที่ไม่มีวันลืมได้ สำหรับผู้อยู่ในเหตุการณ์เสมอ
การปลุกระดมให้กำจัด มากกว่าจะใช้วิถีทางเห็นต่าง แต่อยู่ร่วมกันได้แบบประชาธิปไตย มักเป็นจุดเริ่มต้นของการสังหารหมู่ ด้วยความเชื่อว่า ความคิดของพวกเขาถูกแต่เพียงฝ่ายเดียว การถกเถียงไม่ใช่สิ่งจำเป็น และความเห็นอื่นๆ ต้องกำจัดทิ้งเท่านั้น
กรณีของผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ที่ได้ทำการจัดตั้ง "องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน" ขึ้นมาเพื่อกำจัดผู้เห็นต่างโดยเฉพาะ ทำให้เกิดความกังวลขึ้นอีกครั้ง ว่าเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 19 อาจกลับมาอีกครั้งหนึ่ง หรือร้ายแรงกว่าเดิมถึงขั้นเป็น "รวันดา-ไทยแลนด์" เมื่อพิจารณาจากระดับเป้าหมายของการกวาดล้างในครั้งนี้
ในวันที่ประชาชนกำลังเรียกร้องความเสมอภาค และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น กลับปรากฏว่ากลุ่มคนที่เห็นต่างล้าหลังในสังคมไทย กลับเลือกปิดทางอภิปรายความคิด อย่างผู้มีสติปัญญา และเลือกใช้วิธีการทำลายล้างฝั่งตรงข้ามอย่างถึงที่สุด
บางที ก่อนที่ผู้คิดต่างในสังคมไทย จะเริ่มชี้หน้าฝ่ายตรงข้ามว่าเป็น "ขยะ" และเริ่มปฏิบัติการกำจัดพวกเขาทิ้ง อย่างที่กล่าวอ้าง พวกเขาอาจจะต้องถามตัวเองก่อน ว่าพวกเขาอยากให้สยามเมืองยิ้ม ต้องมีสภาพเช่นนี้เกิดขึ้นจริงๆหรือไม่
ที่มา : http://news.voicetv.co.th/democracycrisis/102959.html
15 เมษายน 2557