สวัสดีครับทุกคน ที่มาตั้งกระทู้สอบถามในวันนี้เนื่องจาก อีกไม่กี่วันผมก็ต้องเข้าไปใช้ชีวิตบนท้องถนนในเมืองใหญ่ที่มีรถสันจรมากมาย
กับพาหนะคู่กายชาวสองล้อคันน้อย คือผมสงสัยในการขับขี่ของผมมากเลย ว่าการกระทำแบบนี้เรียกว่าคล่องหรือคะนองกันแน่ (ซ่าบ้าบิ่น)
คือพฤติกรรมการขับขี่ของผมเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้จับมอเตอร์ไซค์เกือบทุกวัน(เมื่อก่อนอยู่หอ)ได้กลับบ้านขับแค่อาทิตละไม่ถึงวัน
การขับขี่บนท้องถนนในย่านชานเมือง ของผมที่ผมตั้งข้อสังเกตุมันเปลี่ยนไปก็คือ ในตอนแรกๆจะเซฟเรื่องความปลอดภัยของตัวเองมาก
แบบคิดมาก ตัดสินใจช้า จนเพื่อนที่นั่งซ้อนบอกว่าขับแข็งๆไปนะ มีซอกก็ไม่ค่อยกล้ามุด มีช่องให้แทรกช่วงรถติดหรือเคลื่อนตัวช้าก็ไม่กล้า
ที่จะเสี่ยงเข้าไป กลัวเราไปขวางทางสี่ล้อเขา แบบตัดเลนอะไรแบบนี้ แต่พอมาพักหลังๆเริ่มรู้สึกสมรรถณะการขับขี่ของตัวเองเปลี่ยนไป
เช่น มุดแหลกเน้นไว ไม่ค่อยคิดเยอะ ตัดสินใจไวขึ้นแบบไม่ค่อยคำนึงถึงแง่ร้ายสักเท่าไหร่ (เคยอ่านมาว่าอยู่บนถนนให้มองให้ไกลและนึกถึง
รอบข้างในแง่ร้ายให้มากๆ) เจอฝาท่อเจอหลุม ม้วนหลบให้ไว (บางทีก็ไม่ทันกระชั้นชิด) ร่อนแซงแบบมั่นใจว่าเราเอาอยู่ แต่เมื่อเดือนก่อนมี
ครั้งหนึ่งเกือบเกิดอุบัติเหตุเพราะร่องน้ำที่ถนน ช่วงกำลังโค้ง (แซงซ้าย) รถสะบัดเกือบแถไปโดนเก๋งข้างๆ โชคดีที่กระชากกลับมาทัน ความรู้สึก
เย็นวาบไปยันกระหม่อม แต่ในความรู้สึกผมเองผมว่าผมชินกับรถมากกว่า เหมือนพวกส่งพิซซ่าที่ต้องทำความเร็วอยู่ตลอดเวลา แป๊บๆ 70 90
ไม่ได้มองไมล์เลย ขับเร็วมากกว่าเดิม เพราะเมื่อก่อนจะขับแช่กินลม เจอท่อเจอระนาด รูดให้หมด ตอนนี้พลิ้วเลยครับ ไม่มั่นใจว่าความรู้สึกของตัวเอง
กับคนที่มีทักษะมากๆเค้าจะว่ายังไง ต้องรบกวนคอมเม้นพฤติกรรมของผมทีครับ แต่ผมไปในต่างถิ่นที่ไม่ชินทางคงต้องขับความเร็วน้อยลง เสี่ยง
ต่ออุปสรรค์บนท้องถนนที่เราอาจจะยังไม่ทราบต่างๆ แต่ผมแค่อยากทราบว่า มีพฤติกรรมไหนที่ผมไม่ควรพึงกระทำบ้างไหม ที่มันจำนำไปสู่การเสี่ยง
ที่จะเกิดอุบัติเหตุ ผมจะนำไปปรับใช้และพึงระวังไว้ให้มากๆครับ ขอเป็นทริครู้หลบหลีกก็จะดีมากครับเป็นความรู้เสริม ขอบคุณพี่ๆน้าๆครับ
การขับขี่แบบนี้เรียกว่า"เห้า"หรือ"คล่อง"กันแน่
กับพาหนะคู่กายชาวสองล้อคันน้อย คือผมสงสัยในการขับขี่ของผมมากเลย ว่าการกระทำแบบนี้เรียกว่าคล่องหรือคะนองกันแน่ (ซ่าบ้าบิ่น)
คือพฤติกรรมการขับขี่ของผมเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้จับมอเตอร์ไซค์เกือบทุกวัน(เมื่อก่อนอยู่หอ)ได้กลับบ้านขับแค่อาทิตละไม่ถึงวัน
การขับขี่บนท้องถนนในย่านชานเมือง ของผมที่ผมตั้งข้อสังเกตุมันเปลี่ยนไปก็คือ ในตอนแรกๆจะเซฟเรื่องความปลอดภัยของตัวเองมาก
แบบคิดมาก ตัดสินใจช้า จนเพื่อนที่นั่งซ้อนบอกว่าขับแข็งๆไปนะ มีซอกก็ไม่ค่อยกล้ามุด มีช่องให้แทรกช่วงรถติดหรือเคลื่อนตัวช้าก็ไม่กล้า
ที่จะเสี่ยงเข้าไป กลัวเราไปขวางทางสี่ล้อเขา แบบตัดเลนอะไรแบบนี้ แต่พอมาพักหลังๆเริ่มรู้สึกสมรรถณะการขับขี่ของตัวเองเปลี่ยนไป
เช่น มุดแหลกเน้นไว ไม่ค่อยคิดเยอะ ตัดสินใจไวขึ้นแบบไม่ค่อยคำนึงถึงแง่ร้ายสักเท่าไหร่ (เคยอ่านมาว่าอยู่บนถนนให้มองให้ไกลและนึกถึง
รอบข้างในแง่ร้ายให้มากๆ) เจอฝาท่อเจอหลุม ม้วนหลบให้ไว (บางทีก็ไม่ทันกระชั้นชิด) ร่อนแซงแบบมั่นใจว่าเราเอาอยู่ แต่เมื่อเดือนก่อนมี
ครั้งหนึ่งเกือบเกิดอุบัติเหตุเพราะร่องน้ำที่ถนน ช่วงกำลังโค้ง (แซงซ้าย) รถสะบัดเกือบแถไปโดนเก๋งข้างๆ โชคดีที่กระชากกลับมาทัน ความรู้สึก
เย็นวาบไปยันกระหม่อม แต่ในความรู้สึกผมเองผมว่าผมชินกับรถมากกว่า เหมือนพวกส่งพิซซ่าที่ต้องทำความเร็วอยู่ตลอดเวลา แป๊บๆ 70 90
ไม่ได้มองไมล์เลย ขับเร็วมากกว่าเดิม เพราะเมื่อก่อนจะขับแช่กินลม เจอท่อเจอระนาด รูดให้หมด ตอนนี้พลิ้วเลยครับ ไม่มั่นใจว่าความรู้สึกของตัวเอง
กับคนที่มีทักษะมากๆเค้าจะว่ายังไง ต้องรบกวนคอมเม้นพฤติกรรมของผมทีครับ แต่ผมไปในต่างถิ่นที่ไม่ชินทางคงต้องขับความเร็วน้อยลง เสี่ยง
ต่ออุปสรรค์บนท้องถนนที่เราอาจจะยังไม่ทราบต่างๆ แต่ผมแค่อยากทราบว่า มีพฤติกรรมไหนที่ผมไม่ควรพึงกระทำบ้างไหม ที่มันจำนำไปสู่การเสี่ยง
ที่จะเกิดอุบัติเหตุ ผมจะนำไปปรับใช้และพึงระวังไว้ให้มากๆครับ ขอเป็นทริครู้หลบหลีกก็จะดีมากครับเป็นความรู้เสริม ขอบคุณพี่ๆน้าๆครับ