บ้าซีรี่ย์ญี่ปุ่น ดูไปไม่หลับไม่นอน รู้สึกดีกว่าละครไทยมากๆ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกท่าน
          ตอนนี้ปิดเทอมอยู่บ้าน ไม่รู้จะทำอะไร หลังจากอ่านนิยายจีนและนิยายคุณโสภาค สุวรรณไปจนหมดกรุ สาวใสวัยรุ่นอย่างเราก็ได้โอกาสขอตังแม่สั่งซื้อDVDหนังญี่ปุ่นมาดูให้ตาแฉะ จุดเริ่มต้นเนื่องจากความอยากดูหนังของทาคุยะ คิมุระ ที่มีคนแนะนำว่าดีสะสมไว้นานแแสนนาน มีทั้งเวลา +เงิน +อารม  จึงได้นั่งดูหนังจริงๆจังๆเสียที เก็บความประทับใจไว้ไม่ไหวขอตั้งกระทู้พูดคุยสักหน่อยนะคะ
          ความประทับใจเริ่มจาก
          1. Change

          ดูซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกหลังจากไม่ได้ดูไปเกือบสิบปี(ตั้งแต่สมัย GTO Takashi Sorimachi เฟื่องฟู) กลับมาดูอีกครั้งรู้สึกเหมือนสัมผัสพลังบางอย่าง เรื่องนี้สร้างตั้งแต่ปี 2007 แต่ภาพ มุมกล้องการถ่ายทำ บท แซงหน้าประเทศไทยไปหลายปีแสง ดูเพลินมาก ซ้ำยังเข้าได้ดีกับการเมืองไทย ดูละครได้ย้อนดูตัวเหมือนที่มึคนเคยว่าไว้ ประทับใจการแสดงของทาคุยะมาก แสดงได้เข้าถึงตัวละครจริงๆ ตอนแรกดูไม่เข้าใจในการเมืองสกปรก อึนๆมึนๆ มองการเมืองแบบมุมมองประชาชนได้เข้าถึงมากๆ ดูแล้วรู้สึกว่าทำไมนักการเมืองไม่คิดแบบนี้นะ จะมีคนแบบนี้ในวงการการเมื่องหรือเปล่า เป็นสุภาพบุรุษตัวจริงทั้งต่อหน้าและลับหลัง คิดว่าเรื่องนี้เป็นละครชิ้นโบว์แดงเรื่องหนึ่งของทาคุยะเลย ฉากสุดท้ายที่มีข้อมูลว่าเทคเดียวผ่านมันเป็นอะไรที่สุดยอดของการแสดงมากๆบทพูดคนเดียวกับกล้องยาวยี่สิบกว่านาที ต้องพูดไปร้องไห้ไป เอาเป็นว่ายอมแล้ว พี่เค้าเทพจริงๆ

          2.Hero
    

          อัยการสุดเพี้ยน  เรื่องนี้แสดงบทเพี้ยนได้น่ารักมาก คือทั้งเรื่องไม่ใส่สูททำงาน สั่งซื้อของทางทีวี นั่งกินข้าวร้านเดิมๆ มีวิธีการสืบแปลกแหวกแนวแต่น่ารัก แสดงได้ถึงความอยากช่วยเหลือคนและมีคุณธรรมตรงไปตรงมา  เรื่องนี้เราขัดใจเล็กน้อยตรงเรื่องของระบบ ดูแล้วรู้สึกว่าดียังไงก็มีระบบที่ขึ้นอยู่กับผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นคนตงฉินบางทีก็อยู่ยาก  เรื่องนี้ทาคุยะหล่อมาก โดยเฉพาะภาค special สงสัยพักยกไปกินอาหารเสริมที่สั่งทางTV shoppingเลยหล่อเด้งเฟี้ยวเงาะ เป็นอีกเรื่องที่เก่าแล้วแต่ถ่ายทำดี ภาพสวย บทดีมากๆ

          3.Pride
          

          เรื่องนี้เป็นอะไรที่แบบว่า...แอร๊ยยยยย พี่มันเท่จริงๆ เท่โดยไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เดินเคี้ยวหมากฝรั่งเฉยๆรัศมีความเท่มันก็แผ่พุ่งไป 360 องศา เรื่องนี้เป็นกัปตันทีมฮอกกี้ มีภาระหน้าที่แรงกดดันหลายทาง ทั้งทางบ้าน ทีมฮอกกี้ เพื่อน โค้ช คนรัก ชอบชื่อไทยเรื่องนี้มาก'เกมรักและศักดิ์ศรี' มันใช่มากๆ ทาคุยะแสดงเรื่องนี้ได้เข้าถึงตัวละครสุดๆ แสดงออกถึงภาวะกดดัน คิดมาก ไม่ยอมแพ้ สู้ชีวิตคิดบวกจริงๆ เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่เก่า ดูจากภาพและมุมกล้องน่าจะเก่ากว่า ChangeและHero สร้างประมาณ 2003-2004 แต่ถึงสิบปีผ่านไปไม่ได้ทำให้มุมมองความคิดแก่ไปเลย เรื่องนี้ฉากหลังๆตอนชิงแชมป์ได้เกณฑ์เอาFCทาคุยะกว่า2000 คนมาร่วมแสดงซึ่งทาคุยะก็เล่นไอซ์ฮอกกี้อยู่ถึง 12 ชั่วโมง นอกจากนั้นเพลงยังไพเราะและปลุกเร้าอารมนักสู้ฮึกเหิมสุดๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่