สวัสดี ญี่ปุ่น เดินทางโดยสายการบิน แอร์เอเชียเอ็กซ์ XJ600 เวลา 01.00 น วันที่ 1 เมษายน 2557 เส้นทาง
สนามบินดอนเมือง - สนามบินนาริตะ
วันที่หนึ่ง - บนเครื่องบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ บรรยากาศคึกคักไปด้วยคนไทยทุกภาคของประเทศเราเพราะเที่ยวนี้บริษัททัวร์เช่า เหมาลำไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 337 คน สายการบินนี้จะใช้เวลาบินประมาณ 7 ชั่วโมง ครับ( เสียงของกัปตัน )
อาหารจะบริการ ด้วยเครื่องดื่ม 1 รอบ และก่อนเครื่องลงที่สนามบินญี่ปุ่น 3 ชั่วโมง จะบริการอาหาร 1 รอบ มีให้เลือกเป็น
ข้าวไก่เทอริยากิ กับ ข้าวเขียวหวานไก่ ( บริการเช่าเหมาลำจะมีบริการเครื่องดื่มและอาหาร แต่ถ้าบริการปกติจะต้องเสียเงิน )
แถมเที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินแรกจึงมีการมอบของพิเศษสุด ๆ ให้กับคณะทัวร์ทุกคณะ เป็น ชุดเครื่องนอน คนละ 1 ชุด
สวัสดี นาริตะ ถึงแล้วครับ ประเทศญี่ปุ่น ลงเครื่องผ่านพิธีการเข้าเมืองที่นาริตะ รอรับกระเป๋า เพื่อจะเดินทางตามตารางนำเที่ยวของทัวร์คณะเราจุดแรกที่จะไปเที่ยวชม คือ ภูเขาไฟฟูจิ แต่เมื่อดูนาฬิกาบอกเวลาว่า ใกล้จะเที่ยงคณะเราจึงเดินทางไป รับประทานอาหารมื้อแรก บนแผ่นดินญี่ปุ่น ก่อนไปชมภูเขาไฟฟูจิ
บรรยากาศ วิว ร้านอาหาร
เดินทางต่อไปยัง ภูเขาไฟฟูจิ ตามตารางทัวร์เราจะไปชมภูเขาไฟฟูจิ ที่ชั้น 5 ในวงเล็บขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
โดย ตลอดเส้นทางยังเหลือหิมะให้เห็นตลอดทางขึ้นไป ภูเขาไฟฟูจิ และคณะเราก็โชคดี.....ได้ชมที่ชั้นสภาพอากาศ ชั้นที่ 1
First Class ครับ และเป็นทุกคณะทัวร์ในวันนี้ได้ชั้นที่ 1 ยินดีด้วยครับทุก ๆ ท่าน
เดินทางต่อไปยัง โกเทมบะ แฟคทอรี่ เอ้าท์เล็ต แหล่งรวมสินค้ามากมาย กว้างใหญ่ เสียจริง ๆ
คงต้องเดินทั้งวัน จึงจะละเมียดชมสินค้าต่าง ๆ ได้ครบทุกห้างร้าน
http://www.premiumoutlets.co.jp/en/gotemba/
สำหรับร้าน coach ท่านจะต้องเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่งนะครับ (ควรศึกษาแผนที่ให้ดีครับเพื่อจะได้มีเวลาเลือกชมซื้อ)
สิ้นสุดวันนี้ ของคณะทัวร์เราเก็บแรงพักผ่อนเพื่อวันพรุ่งนี้ มุ่งสู่ ATAMI NEW FUJIYA HOTEL
คืนนี้เราจะได้นอนหลับบนประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในชีวิต ณ โรงแรมแห่งนี้เราจะรับประทานมื้อเย็น
แบบบุฟเฟ่ต์ แถมบริการเครื่องดื่ม เบียร์ สาเก (เหล้า) น้ำอัดลมชนิดต่าง ๆ น้ำผลไม้ ( ต้องไปกดเอง ) กินไอศครีมชาเขียว
ก้ามปู ขาปู ก็มีครับ เป็นพันธุ์แบบหนามเล็ก และเนื้อปูจะเย็น ๆ (ถ้าจะให้อร่อยสุด ๆ ควรมีน้ำจิ้มซีฟู้ดยี่ห้อที่ท่านชอบ(หรือไกด์ชอบ)จากเมืองไทยติดไปด้วยแล้วท่านจะกินก้ามปู ขาปู เสมือนเป็นอาหารมื้อสุดท้ายในชีวิตท่าน ซึ่งมันไม่จริง เรายังกินได้อีก(เยอะ)ถ้าเวลาไม่หมดก่อน 555 บุฟเฟ่ต์บริการถึงเวลา 21.00 น. และโรงแรมแห่งนี้มีบริการแช่น้ำแร่แบบญี่ปุ่นไว้บริการ ฟรี ๆ มี wifi เฉพาะ lobby สุดท้ายห้ามลืมตารางเวลาตื่น กิน ล้อหมุน 06.00 07.00 07.45 )
วันที่สอง - บนแผ่นดินญี่ปุ่น ตื่นรับแสงอาทิตย์แรกบนแผ่นดินญี่ปุ่น เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป่า รับประทานอาหารเช้า เตรียมเดินทางไปที่อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ เพื่อไปลงเรือล่องทะเลสาบอาชิ ซึ่งเรือที่เราได้รับบริการ ไม่มีพวกโจรสลัดอยู่บนเรือ ทำให้สบายเดินทางปลอดภัย (ตั้งใจจะไปนั่งเรือโจรสลัด ดันไม่มี เฮ้อ) ใช้เวลาหายใจทิ้งไปบนเรือ ประมาณ 15 นาที หายใจ รับอากาศบริสุทธิ์ 15 นาที รวมเวลา 30 นาที เรือไม่มีโจรสลัดก็นำคณะทัวร์ วนกลับมายัง ท่าเรือเดิม เพื่อเดินทางต่อไปยัง หุบเขาโอวาคุดานิ
มุ่งหน้าสู่หุบเขาโอวาคุดานิ เพื่อไปชมบ่อน้ำแร่กำมะถัน กินไข่ดำ(เปลือกไข่ดำข้างในขาว) ที่นี่เราจะได้ชื่นชมควันและกลิ่นเหม็นของกำมะถันเมื่อเราเดินใกล้กับ บ่อแร่กำมะถัน ซึ่งก็มีหลาย ๆ บ่อ และได้ชมวิถีชีวิตของชายผู้ต้องไปต้มไข่ดำให้คณะทัวร์ต่าง ๆได้กินไข่ดำกัน ซึ่งรวมถึงตัวผมด้วยได้กินไป หนึ่งฟอง ซึ่งต้องขอบอกว่า โอ้วพระเจ้ารสชาติช่างเหมือน ไข่ไก่ต้มทั่ว ๆ ไป แต่.................ถ้าคุณไปแล้วต้องลองชิม... ต้องกินสักครั้งในชีวิต ก็กินได้ครับ ราคาที่ผมซื้อคือ 5 ฟอง 500 เยน ครับ ณ จุดจุดนั้น และที่สำคัญที่สุด ต้นทางเดินขึ้นหุบเขาต้มไข่ดำ จะมีจุดที่คณะทัวร์จะต้องหยุดซื้อขนมโมจิ อันเลื่องลือขจรไกลว่าคนไทยคนต่างชาติจะมาเหมา มาซื้อกันไปฝาก ฝาก ฝาก เพื่อนฝูง มากมาย และเป็นผมด้วยต้องหยุดซื้อขนมโมจิ งาดำ ชาเขียว ไปฝากเพื่อน ๆ ด้วยขนมโมจิ ต้องซื้อที่นี่นะครับที่อื่น ๆ เช่น ห้างอีออน สนามบิน จะไม่มีขาย ครับ (หรือมีก็ไม่รู้สินะครับ) และจะบอกว่า โชดดีที่คณะทัวร์หายใจรับอากาศบริสุทธิ์บนเรือไม่มีโจรสลัดมาแล้ว 30 นาทีทำให้ ระบบหายใจของทุกคณะทัวร์ปลอดภัย จากการสูดดมกำมะถัน เข้าไป ครับและนี้คือ กุโลบาย ให้ไปล่องเรือฯ ก่อนมาชม บ่อน้ำแร่ต้มไข่ดำ ด้วยประการเช่นนี้เอง ( ผมคิดไปเอง นะครับ )
ได้เวลารับประทานอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์ มีอาหารให้เลือกตามที่ท่าน ๆชอบครับ เมื่ออิ่มหนำสำราญท้องครบทุกคน
เดินทางต่อเพื่อไปชม พระพุทธรูปไดบุทสึ ( ระยะเดินทางไกลมาก หลับตลอด ข้างทางวิวทะเลแต่ทรายสีดำ ๆ )
ได้เวลาอันควรก็ถึงจุดหมายภายในบริเวณวัดไม่ใหญ่มาก ส่วนตัวชอบพระพุทธรูปไดบุทสึ ครับเห็นแต่ในรูป จึงปรารถนาจะเดินทางมาชมองค์จริงด้วยตนเองเพื่อเก็บความทรงจำความประทับใจไว้ในหัวใจ ( ..... ) เมื่อคณะทัวร์กราบไหว้ขอพรเรียบร้อยสบายใจ การเดินทางไปต่อเพื่อ ชมพิพิธภัณฑ์ราเมง เพื่อชิมสุดยอดราเมง TV CHAMPION
http://www.raumen.co.jp/thailand ต้องขอบอกว่าถ้าคุณไปแล้วต้องลองชิม......... ต้องกิน....สักครั้งในชีวิต ก็กินได้ครับเพราะวันนี้ทัวร์ไม่เลี้ยงต้องจ่ายเองแต่ราคาจะสูงกว่า ราเมงที่อื่น ๆ เพราะว่าจะตั้งเพื่อให้เหมาะสมกับสถานที่ที่รวมสุดยอดแห่งราเมง กุ๊กระดับแชมเปี้ยน นะเว้ยเฮ้ย ขอบอก ณ ที่นี้ มี wifi ฟรีบริการ ครับ
เมื่อเสร็จภาระกินเรียบร้อย เดินทางไปหาที่หลับที่นอน คืนนี้คณะทัวร์นอนที่ IIDABASHI METROPOLITAN EDMONT HOTEL
ในกรุงโตเกียว ราตรีสวัสดิ์ ครับสำหรับคืนที่สองในประเทศญี่ปุ่น ( นึกได้ขณะเดินทางไปที่โรงแรมไกด์อ่านพยากรณ์อากาศ
ว่าพรุ่งนี้มีโอกาสฝนตก 80 เปอร์เซ็น จึงจะเปลี่ยนตารางไปชมดอกซากุระช่วงเช้า ถ้าฝนตกจริง ตามเทพธิดาพยากรณ์ )
สุดท้ายห้ามลืมตารางเวลาตื่น กิน ล้อหมุน 06.00 07.00 07.45 )
วันที่สาม -มหานครโตเกียว ตื่นเช้าขึ้นมาก็เปิดผ้าม่านหน้าต่างเพื่อพิสูจน์คำทำนายเทพธิดาพยากรณ์ ว่าแม่นหรือมั่ว
สุดท้าย...........................แม่นครับ ฝนตกโปรยปรายลงมา แต่ไม่หนักมากมายที่จะทำร้ายความรู้สึก
ที่ไปชมดอกซากุระ หรือชิม ช้อป เที่ยว อย่างคณะทัวร์เราได้ ดังนั้นภาระกิจแรกของวันนี้หลังจากรับประทานอาหารเช้า
คือคณะทัวร์เราและคณะทัวร์อื่น ๆ ต้องส่งกระแสจิตไป หยุดฝน ให้จงได้ โอม ๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยาว ๆ
ระหว่างเดินทางไปชมดอกซากุระที่ สวนชินจูกุ ฝนก็ยังตกโปรยปรายเหมือนเดิม ( โอม ไม่ได้ผล ) เช่นนี้แล้วที่พึ่งสุดท้าย
ของคณะทัวร์เราและคณะทัวร์อื่น ๆ คือ " ร่ม " ครับ บรรยากาศทั่วไปในสวนชินจูกุ ผู้คนไปชมความสวยงามเยอะมากครับ
ทั้งคนญี่ปุ่นเอง และคนนานาชาติ ครับ ฉากต่อไปเชิญรับชมฝีมือถ่ายภาพของผมครับ มีภาพชัดและภาพไม่ชัดครับ ขอบคุณที่รับชม
ชมความงามของดอกซากุระ เสร็จสิ้น (จนไกด์ต้องเดินมาตาม อิอิ ผิดเวลานัดสิเออ) คิวต่อไป เที่ยวชมและขอพรเจ้าแม่กวนอิมที่วัดอาซะกุซ่า ชมโคมไฟสีแดงยักษ์ใหญ่ มีแหล่งช้อปปิ้งตลอดสองข้างทางเดิน ซึ่งคนเข้ามาเที่ยวฯเยอะมากมาย ก็บอกแล้วว่าฟ้าฝนไม่สามารถทำร้ายบรรยากาศ ช้อป ชิ้ม เที่ยว ของคณะเราและคณะอื่น ๆ ได้ จากนั้นเข้าสู่โหมดช้อปปิ้งที่ ย่านถนนชินจูกุ ไกด์แจกแผนที่นำทางบอกสถานที่ซื้อสินค้า 1 รอบ พร้อมบอกจุดนัดหมายขึ้นรถฯ จากนั้นได้เวลาใช้เงินเยน เริ่มเดินช้อปปิ้งท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายเป็นพยานแห่งการจ่ายเงิน ของพวกคณะทัวร์เรา ๆ ท่าน ๆ ที่ท่านต้องจ่ายเงินแน่นอน ร้านขายยา เครื่องสำอาง ร้านรองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านเสื้อผ้า ร้านของเล่นผู้ชาย ร้าน 100 เยน ร้านอื่น ๆ อีกเยอะครับ เดินดูบ้างจ่ายเงินบ้างชมฟรีบ้าง จนหมดเวลา ลืมกินข้าวเที่ยง จึงรู้สัจธรรมเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง การช้อปปิ้งเวลาจะหมดไปโดยไม่รู้ตัว เพราะคณะทัวร์ไปถึงถนนชินจูกุก็เที่ยงพอดี จึงต้องรับบริการแฮมเบอร์เกอร์กินในรถ
ต่อครับ มีสถานที่ให้เล่นแร่แปรธาตุอีก ห้างจัสโก้อิออน ที่ห้างแห่งนี้ คณะทัวร์ต่าง ๆ จะต้องมาเปลี่ยน เงินเยน ที่ยังเหลือในกระเป๋าให้เป็นสินค้าประเภท kitkat pocky collon สายพันธ์ชาเขียว ร้านยา เครื่องสำอาง มีครับ สำหรับอาหารมื้อค้ำก็รับประทานที่นี่ครับ อาหารมีให้เลือกมากมาย
[CR] เที่ยวญี่ปุ่นบริการทัวร์ วันที่ 1 มีนาคม – 04 เมษายน 2557
สนามบินดอนเมือง - สนามบินนาริตะ
วันที่หนึ่ง - บนเครื่องบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ บรรยากาศคึกคักไปด้วยคนไทยทุกภาคของประเทศเราเพราะเที่ยวนี้บริษัททัวร์เช่า เหมาลำไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 337 คน สายการบินนี้จะใช้เวลาบินประมาณ 7 ชั่วโมง ครับ( เสียงของกัปตัน )
อาหารจะบริการ ด้วยเครื่องดื่ม 1 รอบ และก่อนเครื่องลงที่สนามบินญี่ปุ่น 3 ชั่วโมง จะบริการอาหาร 1 รอบ มีให้เลือกเป็น
ข้าวไก่เทอริยากิ กับ ข้าวเขียวหวานไก่ ( บริการเช่าเหมาลำจะมีบริการเครื่องดื่มและอาหาร แต่ถ้าบริการปกติจะต้องเสียเงิน )
แถมเที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินแรกจึงมีการมอบของพิเศษสุด ๆ ให้กับคณะทัวร์ทุกคณะ เป็น ชุดเครื่องนอน คนละ 1 ชุด
สวัสดี นาริตะ ถึงแล้วครับ ประเทศญี่ปุ่น ลงเครื่องผ่านพิธีการเข้าเมืองที่นาริตะ รอรับกระเป๋า เพื่อจะเดินทางตามตารางนำเที่ยวของทัวร์คณะเราจุดแรกที่จะไปเที่ยวชม คือ ภูเขาไฟฟูจิ แต่เมื่อดูนาฬิกาบอกเวลาว่า ใกล้จะเที่ยงคณะเราจึงเดินทางไป รับประทานอาหารมื้อแรก บนแผ่นดินญี่ปุ่น ก่อนไปชมภูเขาไฟฟูจิ
บรรยากาศ วิว ร้านอาหาร
เดินทางต่อไปยัง ภูเขาไฟฟูจิ ตามตารางทัวร์เราจะไปชมภูเขาไฟฟูจิ ที่ชั้น 5 ในวงเล็บขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
โดย ตลอดเส้นทางยังเหลือหิมะให้เห็นตลอดทางขึ้นไป ภูเขาไฟฟูจิ และคณะเราก็โชคดี.....ได้ชมที่ชั้นสภาพอากาศ ชั้นที่ 1
First Class ครับ และเป็นทุกคณะทัวร์ในวันนี้ได้ชั้นที่ 1 ยินดีด้วยครับทุก ๆ ท่าน
เดินทางต่อไปยัง โกเทมบะ แฟคทอรี่ เอ้าท์เล็ต แหล่งรวมสินค้ามากมาย กว้างใหญ่ เสียจริง ๆ
คงต้องเดินทั้งวัน จึงจะละเมียดชมสินค้าต่าง ๆ ได้ครบทุกห้างร้าน http://www.premiumoutlets.co.jp/en/gotemba/
สำหรับร้าน coach ท่านจะต้องเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่งนะครับ (ควรศึกษาแผนที่ให้ดีครับเพื่อจะได้มีเวลาเลือกชมซื้อ)
สิ้นสุดวันนี้ ของคณะทัวร์เราเก็บแรงพักผ่อนเพื่อวันพรุ่งนี้ มุ่งสู่ ATAMI NEW FUJIYA HOTEL
คืนนี้เราจะได้นอนหลับบนประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในชีวิต ณ โรงแรมแห่งนี้เราจะรับประทานมื้อเย็น
แบบบุฟเฟ่ต์ แถมบริการเครื่องดื่ม เบียร์ สาเก (เหล้า) น้ำอัดลมชนิดต่าง ๆ น้ำผลไม้ ( ต้องไปกดเอง ) กินไอศครีมชาเขียว
ก้ามปู ขาปู ก็มีครับ เป็นพันธุ์แบบหนามเล็ก และเนื้อปูจะเย็น ๆ (ถ้าจะให้อร่อยสุด ๆ ควรมีน้ำจิ้มซีฟู้ดยี่ห้อที่ท่านชอบ(หรือไกด์ชอบ)จากเมืองไทยติดไปด้วยแล้วท่านจะกินก้ามปู ขาปู เสมือนเป็นอาหารมื้อสุดท้ายในชีวิตท่าน ซึ่งมันไม่จริง เรายังกินได้อีก(เยอะ)ถ้าเวลาไม่หมดก่อน 555 บุฟเฟ่ต์บริการถึงเวลา 21.00 น. และโรงแรมแห่งนี้มีบริการแช่น้ำแร่แบบญี่ปุ่นไว้บริการ ฟรี ๆ มี wifi เฉพาะ lobby สุดท้ายห้ามลืมตารางเวลาตื่น กิน ล้อหมุน 06.00 07.00 07.45 )
วันที่สอง - บนแผ่นดินญี่ปุ่น ตื่นรับแสงอาทิตย์แรกบนแผ่นดินญี่ปุ่น เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป่า รับประทานอาหารเช้า เตรียมเดินทางไปที่อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ เพื่อไปลงเรือล่องทะเลสาบอาชิ ซึ่งเรือที่เราได้รับบริการ ไม่มีพวกโจรสลัดอยู่บนเรือ ทำให้สบายเดินทางปลอดภัย (ตั้งใจจะไปนั่งเรือโจรสลัด ดันไม่มี เฮ้อ) ใช้เวลาหายใจทิ้งไปบนเรือ ประมาณ 15 นาที หายใจ รับอากาศบริสุทธิ์ 15 นาที รวมเวลา 30 นาที เรือไม่มีโจรสลัดก็นำคณะทัวร์ วนกลับมายัง ท่าเรือเดิม เพื่อเดินทางต่อไปยัง หุบเขาโอวาคุดานิ
มุ่งหน้าสู่หุบเขาโอวาคุดานิ เพื่อไปชมบ่อน้ำแร่กำมะถัน กินไข่ดำ(เปลือกไข่ดำข้างในขาว) ที่นี่เราจะได้ชื่นชมควันและกลิ่นเหม็นของกำมะถันเมื่อเราเดินใกล้กับ บ่อแร่กำมะถัน ซึ่งก็มีหลาย ๆ บ่อ และได้ชมวิถีชีวิตของชายผู้ต้องไปต้มไข่ดำให้คณะทัวร์ต่าง ๆได้กินไข่ดำกัน ซึ่งรวมถึงตัวผมด้วยได้กินไป หนึ่งฟอง ซึ่งต้องขอบอกว่า โอ้วพระเจ้ารสชาติช่างเหมือน ไข่ไก่ต้มทั่ว ๆ ไป แต่.................ถ้าคุณไปแล้วต้องลองชิม... ต้องกินสักครั้งในชีวิต ก็กินได้ครับ ราคาที่ผมซื้อคือ 5 ฟอง 500 เยน ครับ ณ จุดจุดนั้น และที่สำคัญที่สุด ต้นทางเดินขึ้นหุบเขาต้มไข่ดำ จะมีจุดที่คณะทัวร์จะต้องหยุดซื้อขนมโมจิ อันเลื่องลือขจรไกลว่าคนไทยคนต่างชาติจะมาเหมา มาซื้อกันไปฝาก ฝาก ฝาก เพื่อนฝูง มากมาย และเป็นผมด้วยต้องหยุดซื้อขนมโมจิ งาดำ ชาเขียว ไปฝากเพื่อน ๆ ด้วยขนมโมจิ ต้องซื้อที่นี่นะครับที่อื่น ๆ เช่น ห้างอีออน สนามบิน จะไม่มีขาย ครับ (หรือมีก็ไม่รู้สินะครับ) และจะบอกว่า โชดดีที่คณะทัวร์หายใจรับอากาศบริสุทธิ์บนเรือไม่มีโจรสลัดมาแล้ว 30 นาทีทำให้ ระบบหายใจของทุกคณะทัวร์ปลอดภัย จากการสูดดมกำมะถัน เข้าไป ครับและนี้คือ กุโลบาย ให้ไปล่องเรือฯ ก่อนมาชม บ่อน้ำแร่ต้มไข่ดำ ด้วยประการเช่นนี้เอง ( ผมคิดไปเอง นะครับ )
ได้เวลารับประทานอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์ มีอาหารให้เลือกตามที่ท่าน ๆชอบครับ เมื่ออิ่มหนำสำราญท้องครบทุกคน
เดินทางต่อเพื่อไปชม พระพุทธรูปไดบุทสึ ( ระยะเดินทางไกลมาก หลับตลอด ข้างทางวิวทะเลแต่ทรายสีดำ ๆ )
ได้เวลาอันควรก็ถึงจุดหมายภายในบริเวณวัดไม่ใหญ่มาก ส่วนตัวชอบพระพุทธรูปไดบุทสึ ครับเห็นแต่ในรูป จึงปรารถนาจะเดินทางมาชมองค์จริงด้วยตนเองเพื่อเก็บความทรงจำความประทับใจไว้ในหัวใจ ( ..... ) เมื่อคณะทัวร์กราบไหว้ขอพรเรียบร้อยสบายใจ การเดินทางไปต่อเพื่อ ชมพิพิธภัณฑ์ราเมง เพื่อชิมสุดยอดราเมง TV CHAMPION http://www.raumen.co.jp/thailand ต้องขอบอกว่าถ้าคุณไปแล้วต้องลองชิม......... ต้องกิน....สักครั้งในชีวิต ก็กินได้ครับเพราะวันนี้ทัวร์ไม่เลี้ยงต้องจ่ายเองแต่ราคาจะสูงกว่า ราเมงที่อื่น ๆ เพราะว่าจะตั้งเพื่อให้เหมาะสมกับสถานที่ที่รวมสุดยอดแห่งราเมง กุ๊กระดับแชมเปี้ยน นะเว้ยเฮ้ย ขอบอก ณ ที่นี้ มี wifi ฟรีบริการ ครับ
เมื่อเสร็จภาระกินเรียบร้อย เดินทางไปหาที่หลับที่นอน คืนนี้คณะทัวร์นอนที่ IIDABASHI METROPOLITAN EDMONT HOTEL
ในกรุงโตเกียว ราตรีสวัสดิ์ ครับสำหรับคืนที่สองในประเทศญี่ปุ่น ( นึกได้ขณะเดินทางไปที่โรงแรมไกด์อ่านพยากรณ์อากาศ
ว่าพรุ่งนี้มีโอกาสฝนตก 80 เปอร์เซ็น จึงจะเปลี่ยนตารางไปชมดอกซากุระช่วงเช้า ถ้าฝนตกจริง ตามเทพธิดาพยากรณ์ )
สุดท้ายห้ามลืมตารางเวลาตื่น กิน ล้อหมุน 06.00 07.00 07.45 )
วันที่สาม -มหานครโตเกียว ตื่นเช้าขึ้นมาก็เปิดผ้าม่านหน้าต่างเพื่อพิสูจน์คำทำนายเทพธิดาพยากรณ์ ว่าแม่นหรือมั่ว
สุดท้าย...........................แม่นครับ ฝนตกโปรยปรายลงมา แต่ไม่หนักมากมายที่จะทำร้ายความรู้สึก
ที่ไปชมดอกซากุระ หรือชิม ช้อป เที่ยว อย่างคณะทัวร์เราได้ ดังนั้นภาระกิจแรกของวันนี้หลังจากรับประทานอาหารเช้า
คือคณะทัวร์เราและคณะทัวร์อื่น ๆ ต้องส่งกระแสจิตไป หยุดฝน ให้จงได้ โอม ๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยาว ๆ
ระหว่างเดินทางไปชมดอกซากุระที่ สวนชินจูกุ ฝนก็ยังตกโปรยปรายเหมือนเดิม ( โอม ไม่ได้ผล ) เช่นนี้แล้วที่พึ่งสุดท้าย
ของคณะทัวร์เราและคณะทัวร์อื่น ๆ คือ " ร่ม " ครับ บรรยากาศทั่วไปในสวนชินจูกุ ผู้คนไปชมความสวยงามเยอะมากครับ
ทั้งคนญี่ปุ่นเอง และคนนานาชาติ ครับ ฉากต่อไปเชิญรับชมฝีมือถ่ายภาพของผมครับ มีภาพชัดและภาพไม่ชัดครับ ขอบคุณที่รับชม
ชมความงามของดอกซากุระ เสร็จสิ้น (จนไกด์ต้องเดินมาตาม อิอิ ผิดเวลานัดสิเออ) คิวต่อไป เที่ยวชมและขอพรเจ้าแม่กวนอิมที่วัดอาซะกุซ่า ชมโคมไฟสีแดงยักษ์ใหญ่ มีแหล่งช้อปปิ้งตลอดสองข้างทางเดิน ซึ่งคนเข้ามาเที่ยวฯเยอะมากมาย ก็บอกแล้วว่าฟ้าฝนไม่สามารถทำร้ายบรรยากาศ ช้อป ชิ้ม เที่ยว ของคณะเราและคณะอื่น ๆ ได้ จากนั้นเข้าสู่โหมดช้อปปิ้งที่ ย่านถนนชินจูกุ ไกด์แจกแผนที่นำทางบอกสถานที่ซื้อสินค้า 1 รอบ พร้อมบอกจุดนัดหมายขึ้นรถฯ จากนั้นได้เวลาใช้เงินเยน เริ่มเดินช้อปปิ้งท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายเป็นพยานแห่งการจ่ายเงิน ของพวกคณะทัวร์เรา ๆ ท่าน ๆ ที่ท่านต้องจ่ายเงินแน่นอน ร้านขายยา เครื่องสำอาง ร้านรองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านเสื้อผ้า ร้านของเล่นผู้ชาย ร้าน 100 เยน ร้านอื่น ๆ อีกเยอะครับ เดินดูบ้างจ่ายเงินบ้างชมฟรีบ้าง จนหมดเวลา ลืมกินข้าวเที่ยง จึงรู้สัจธรรมเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง การช้อปปิ้งเวลาจะหมดไปโดยไม่รู้ตัว เพราะคณะทัวร์ไปถึงถนนชินจูกุก็เที่ยงพอดี จึงต้องรับบริการแฮมเบอร์เกอร์กินในรถ
ต่อครับ มีสถานที่ให้เล่นแร่แปรธาตุอีก ห้างจัสโก้อิออน ที่ห้างแห่งนี้ คณะทัวร์ต่าง ๆ จะต้องมาเปลี่ยน เงินเยน ที่ยังเหลือในกระเป๋าให้เป็นสินค้าประเภท kitkat pocky collon สายพันธ์ชาเขียว ร้านยา เครื่องสำอาง มีครับ สำหรับอาหารมื้อค้ำก็รับประทานที่นี่ครับ อาหารมีให้เลือกมากมาย