ความจริงของกลุ่มอำมาตฯ ขันที กับปัญหาบ้านเมืองเราในตอนนี้

เมื่อ 25-30 กว่าปีก่อนมีผู้นำประเทศหนึ่งที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง  วัน ๆไม่คิดจะทำงานอะไร อย่างมาก ก็อวยพรนักมวยให้ชกดี ๆ หรือไม่ก็เชิญไปเปิดงาน ของท่าน ๆ เป็นเกียรติฯ เวลาเลือกรัฐมนตรีก็เอาแต่พรรคที่เป็นคนภาคเดียวกับตน ซึ่งตอนนี้ ประชาชนรู้ความจริงไม่มีคนไหนเอาด้วยก็เป็นฝ่ายค้านโดยตลอด ...ตอนนั้นใครอยากมีตำแหน่งสูงขึ้นอยากได้สัมปทาน การค้าอะไร ก็ไปกราบไปไหว้ ทำตัวเป็น ขุนศึกขัดร้องเท้า  นักธุรกิจคอยชงกาแฟ ทำตัวเดิน 4 ขาเชื่อง ๆก็จะได้ยศ ได้สัมปทาน เวลามีคนดีคิดถึงประเทศอยากทำงานเพื่อประชาชน ...เสนอโครงการสำคัญ เช่น ขุดคลองคอดกะ  สร้างสนามบินหนองงูเห่า( สุวรรณภูมิ ) ก็จะถูกเรียกไปว่า อย่าคิด อย่าทำ เอาอย่างนี้เดี่ยวเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น เอาโค้วต้าผมไป....พวกนี้อย่าบอกว่าเกาะกินประเทศเป็นกลุ่มเลย เรียกว่า เสวยสุขบนความทุกข์ของประชาชนเป็นฝูง ถ่วงความเจริญของประเทศดีกว่า   พวกอำมาตฯ ขันที อยากได้ บ้านหรู ที่พักตากอากาศ ตรงไหนไปชี้เอาเดี่ยวมีคนจัดให้...แต่พอนายกฯทักษิณ เข้ามาบริหารประเทศ รู้สึกว่า กลุ่มคนพวกนี้ ถ่วงความเจริญ ขอตำแหน่ง แม่ทัพนายกอง ไม่รู้จักพอ กลุ่มคนพวกนี้เริ่มรู้สึกว่าตนเองเป็นเป็นกลุ่มคนแก่ไร้ประโยชน์  ไม่มีใครมากราบไหว้ดังแต่ก่อน ไม่มีนิ้วหรือปากวาจาสิทธิ์แล้ว แทนที่จะปล่อยวางเข้าวัดเข้าวา ค้นหาความไม่ยั่งยืนของยศศักดิ์ กลับไปเรียกพวกพ้อง ที่เคยแต่ตั้งไว้ โดยการทวงบุญคุณ ให้จัดการคนที่ทำงานเพื่อประเทศชาติให้เจริญ พอยึดได้ก็แต่ตั้งองค์กรอิสระ คอยรักษาอำนาจของพวกตนเอง ใส่ร้ายป้ายสี หาทางกำจัดพวกที่ทำให้ตนเองหมดอำนาจ...  แต่ตอนนี้ไม่ใช่ 30 ปีก่อน ตาสียายสา มีความรู้ไม่ยอมเชื่อกับข่าวเท็จ กระแสเรื่องราวที่กุขึ้น   จะเลือกตั้งกี่ครั้งตัวแทนประชาชนก็ชนะอยู่เสมอ...เป็นที่ยอมไม่ได้ ก็จึงส่งสุนัขที่เลี้ยงไว้ ระดมคนจากแถวบ้านมาสร้างความปั่นป่วน เพื่อรักษาอำนาจของกลุ่มตนให้อยู่อย่างเดิม....นี้คือความจริงที่บ้านเมืองเจอ ตอนนี้ ซึ่งจะจบอย่างไรก็ไม่ทราบได้  แต่ผมเชื่อว่าประชาชนเดี่ยวนี้ฉลาด รู้เท่าทัน กล เกมการเมืองเก่า ๆที่เคยใช่จัดการคู่แข่งได้