ทริปญี่ปุ่นครั้งแรก โตเกียว-โยโกฮาม่า-อิวากิ-ฮอกไกโด-โอตารุ-ซัปโปโร-โอซาก้า-เกียวโต (12 วัน เหนือจดใต้) 17-26 พย. 2013

ทริปนี้ เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ แค่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นสักครั้ง....
อาจจะเรียกว่าฮันนีมูน แต่เราไปไม่ได้ไปกันแค่สองคนนี่ซิ เราจ่ายสองที่ แต่เราไปกันถึงสาม คุ้มๆ555เรียกว่าคุ้มสุดๆ
โดยเริ่มต้นจาก ขาไป Flight details BKK To HND ด้วยสนนราคารวมทุกอย่างต่อคน 5,210 บาท
ขากลับ Flight details KIX To BKKด้วยสนนราคารวมทุกอย่างต่อคน 4,528 บาท โดยจองก่อนเดินทางประมาณ 1 เดือน
วันที่ 1 ของการเดินทาง


ไฟล์ที่จองจะไปถึง สนามบิน ฮาเนดะ ประมาณ 23:00 และเราเลือกที่จะจองโรงแรมคืนแรกที่ Art Hotels Omori คืนละ 5,027 บาท รวมอาหารเช้าและ ห่างจากสนามบินประมาณ 30 นาที โดยมีบริการ รถรับส่ง รออยู่ที่สนามบิน แล้วเราก็มีหนึ่งเรื่องประทับใจตั้งแต่วันแรกที่เหยียบสนามบิน นั่นคือเรามีเวลา 10 นาทีหลังจากลงเครื่องมาที่ รถรับส่งโรงแรม ทำให้เราลืมกระเป๋าเดินทาง 1 ใบไว้ที่สนามบินกลังจากเรามาถึง รร เรียบร้อยแล้ว แฮ่ๆ ความผิด อิชั้นเองค่ะ แต่ลุงคนขับก็ใจดีมากๆพาสามีกลับไปเอากลับมาจนได้ อัธยาศัยดีมาก น่ารักจัง เลย และอีกอย่างที่ประทับใจ สำหรับโรงแรมนี้คือ เครื่องนวดอัตโนมัติ มันฟินมาก หลังจากนั่งเครื่องมา6-7 ชม แล้วมาเจอสิ่งนี้ โอ้ยมายกอด

หลังจากใช้บริการเครื่องนวดของโรงแรมเสร็จ ก็พักผ่อน  ในเช้าวันรุ่งขึ้น
หลังจากทานอาหารเช้า รสชาติ จืดๆ ให้ 6/10 คะแนน และออกเดินทางต่อ
รร อยู่ไม่ไกลจาก JR STATION เดินทาง ห้านาทีถึง สถานีโอโมริ เป้าหมายต่อไปของเราคือรร Agora Place Asakusa ย่าน อะซะกุซะ
นั่นแหละกระเป๋าที่เราลืมเมื่อคืน
วันที่ 2 ของการเดินทาง

ระหว่างทาง

บนรถไฟฟ้า
ทริปนี้เรามากัน สามคนค่ะ ดิชั้น สามี และเจ้าตัวเล็ก 3 เดือน
(ทริปนี้เกือบถูกยกเลิกหลังจาก สามีรู้ว่าเรามีน้อง แต่ทริปนี้เกินขึ้นจากความเห็นชอบของแพทย์เป็น สำคัญ 555)

และเราก็มาถึง รร Agora Place Asakusa เป็นรร เล็กตั้งอยู่ใจกลาง ย่าน Asakusa

เมื่อมาถึงสิ่งแรกที่ควรจะทำคือ หาร้านอร่อยๆกิน เราโชคดีมากแค่มองไปตรงกันข้าม รร เราก็เจอร้านนี้และไม่ทำให้เราผิดหวัง
เรากินร้านนี้สามมื้อเลยอร่อยขนาดนั้น 555 ตอบเลยว่าใช่...


ไปติดต่อเช่าจักรยาน ในราคา 300 เยน ต่อวัน แล้วเราก็ตรงไปที่วัดอาซากุซะ ซึ่งเป็นเหมือนกับ สิ่งที่ต้องทำ

มีของขายมากมายและคนก็เยอะมากมายเช่นกัน เพราะวันนี้เป็นวัน อาทิตย์


มุมกว้างๆ ภายในวัด

เราไปกันเองแบบ แบคแพคเกอร์ดั้งนัน ด้วยตัวเองทุกอย่าง จึงขออภัยที่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่าเจ้านี่มีไว้ทำอะไร
ใครรู้ช่วยบอกที

อันนี้ขาดไม่ได้เลย สำหรับที่นี่ โคมแดง อยู่ด้านหน้าของวัด

หลังจากไหว้พระเสร็จเดินออกมาด้านนอกมีของขายมากมาย ทั้งชุด กิโมโน หน้ากาก กระบี่ และของกินอีกมากมาย


หลังจากเที่ยว ภายในและนอกวัด จนเหนื่อยและเริ่มหิว ก็กลับมาที่เดิมแต่เปลี่ยนเมนู อาจจะฟังดูน่าเบื่อแต่ถ้า
ท่านผู้ชมเจอร้านที่อร่อยมากๆ ก็คงคิดเหมือนเราคืออยากลองทุกเมนูที่มีในร้านเลย ยังไม่อยากเปลี่ยนใจไปที่ร้านอื่น
หลักฐาน สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 600 เยน ต่อมื้อ ต่อเซต

หลังจากมื้อบ่ายๆเราก็ปั่นจักรยานไปสะพานแดง เพื่อชมความสวยงามยามคำ่คืนที่นี่

และเมื่อมองออกไปตรงข้ามก็จะเห็น โตเกียว ทาวเวอร์

แอบแชะรูป เราสามคน ด้วย

และเห็นว่า ยังไม่ดึกจนเกินไปเรา จึงตัดสินใจจะไปย่าน ชินจุกุ แหล่งแฟชั่นชื่อดังของญี่ปุ่น

มาถึงแล้ว คนเยอะมากกกก หามุมถ่ายรูป

ไปดูกันคนเยอะแค่ไหน

หลังจากเดินเล่นรอบๆ ก็เจอเด็กวัยรุ่ยนิสัยดีสองคน ดูท่าทางน่าจะพูดภาษาอังกฤษได้ก็เลยถามเค้าว่า
อยากกิน กิวด้ง ร้านไหนอร่อยๆบ้าง แถวนี้ สองคนนั้นก็เดินจูงมือเราสองสองมาจอดหน้าร้านนี้
ทั้งๆที่ เค้าต้องเดินย้อนมาทางที่เค้าเพิ่งจะผ่านมา นี่แหละคือน้ำใจของญี่ปุ่น ที่เรามักจะเจอแบบนี้เสมอๆ
แล้วเราก็กลับมาที่เมนู กินอะไรดีน้าาาา

เอาล่ะ ลองข้าวหน้าแกงกระหรี่หมูดูดีกว่า หน้าตาดี อร่อยด้วย

บรรยากาศภายในร้านเล็กๆแต่อบอุ่นดี

แล้วก็สิ้นสุดการเดินทางของวันที่สองแต่เพียงเท่านี้ ขึ้นรถไฟกลับบ้าน

วันที่ 3 ของการเดินทาง (UENO PARK AND MARKET)
ออกจากโรงแรม ไปสถานี UENO

ตั้งใจจะไปเดินเล่นที่ตลาดก่อนไปหาซื้อถุงมือเพื่อเตรียมไปฟูจิซัง

แล้วเราก็มาถึง

ตลาดที่นี่มีทั้งของสด และของแห้ง ให้เลือกซื้อมากมาย อีกทั้งราคาไม่แพงด้วย

ปูน่ากินมาก แต่ จขกทไม่ได้ลองที่นี่แต่ไปลองที่อื่น ติดตามต่อไปนะคะ เดี๋ยวเล่าให้ฟังค่ะ

หลังจากเดินเล่นในสวนของตลาด ก็เดินข้ามถนนมาก็จะเป็นในสวนของสาธารณะ อุเอโนะ
ตรงข้ามเข้ามีใบไม้แดง ยืนต้องรับเราอยู่ นี่ไงหลักฐาน...

ไม่ใช่แค่แดงอีกทั้งยังมีเหลืองสวยๆด้วย เป็นสวนที่สวยจริงๆ

หินอะไรไม่รู้ตั้งอยู่หน้าวัด ภายในสวนสวยดีค่ะ อากาศตอนนั้นประมาณ 4-5 องศากำลังดีนะคะ

หลังจากเดินเล่นรอบๆสวนก็ถึงเวลาที่เราต้อง ขึ้นรถไฟไปที่พัก ในคืนนี้ ที่ทะเลสาบ ยามานากาโกะ
Yamanakako Yama no uchi เพื่อ ฟูจิซังของเรา
เราเดินทางโดย เจอาร์ ไปสุดสายที่ fuji sta และ เราไปถึงประมาณ สองทุ่มทำให้ต้องนั่งแท็กซี่ต่อเข้าไปในโรงแรม

ค่าใช้จ่ายประมาณ 3000 กว่าเยน ระยะทางประมาณ15 กิโลได้ หนาวมากกกก
และเราก็มาถึงที่พักเป็นเวลาประมาณ สามทุ่ม(แต่รูปถ่ายในตอนเช้า)

เจ้าของบ้าน อยู่คนเดียวต้อนรับเราอย่างอบอุ่น ด้วยชาร้อนๆ

และพามาห้องพักที่น่าจะดีที่สุดของบ้าน ทั้งๆที่เราจองมาด้วยราคา
สองพันต้นๆ แต่อาจจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นคนเลยไม่เยอะ

ทั้งโรงแรม มีเราห้องเดียว เหมาออนเซน น้ำร้อนมากกก 555 ไม่ชิน


และมีฮีทเตอร์ ให้ใช้เพราะอากาศข้างนอกหนาวมากน่าจะ 1-2 องศาน่าจะได้ จะบอกว่าเราชอบมากแต่สามีไม่นะ555

วันที่ 4 ของการเดินทาง สวัสดี ฟูจิซัง อยุ่ตรงหน้าต่างห้องนอนเรานี่เอง สุดยอดดดด


ประทับใจสุดๆ ขออนุญาติ ลงรูป ฟูจิซัง ให้จขกท หายคิดถึง หน่อยนะคะ

อาหารเช้าจากโรงแรม

ทานข้าวเช้ากันก่อนนะคะ เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวทะเลสาป และไปซูมดูฟูจิซังกัน

ทะเลสาบ ยามานากาโกะ

ขอบคุณตากล้องกิตติมศักดิ์สำหรับภาพ ฟูจิซังสวยๆ


เดินเล่น รอบๆ โรงแรม

ขอหวานนิดนึง

จากหน้าต่างห้องนอน ก็เห็นฟูจิซังแล้วววว

เหนื่อยแล้ว เลยเดินกลับมาหาของกิน เจ้าของรร เปิดร้านเบเกอรี่ด้วย ขนนที่เห็นในรูปคือ ขนมฟูจิซัง

น่าเสียดายต้องเก็บกระเป๋า เช็คเอาท์ซะแล้ว ความประทับใจที่มีมากมายเหลือเกิน บรรยายไม่ได้
ฝากไว้ด้วยรูปละกันนะคะ ขอบคุณที่ดูแลกันมาตลอด 2 วันกับอีก 1 คืนที่นี่ รัก มาม่า

บังบัง(สามี)ไม่ได้โกนหนวด สงสารมาม่า จักกะจี้น่าดู555

มาม่าโดนลวนลาม

ฝากรีสอร์ทดีๆ ในดวงใจด้วยนะคะ มากกว่าความประทับใจ...

ขอจบวันที่ 4 ไว้แค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ถ้ามีเวลาจะมาต่อวันที่เหลือนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่