สุชาติ ศรีสุวรรณ: รู้ทั้งรู้แต่กู่ไม่กลับ คอลัมน์ ที่เห็นและเป็นไป มติชนรายวัน 13 เมษายน 2555
เป้าหมายของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ยังชัดเจนว่าจะต้องทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิรูปการเมือง"
ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งให้ได้
จะต้องมีการจัดตั้งรัฐบาล และสภาที่มีความเข้าใจในสิ่งที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องการเข้ามา
จัดการให้บรรลุเป้าหมาย
ซึ่งว่ากันให้ตรงไปตรงมาคือการ "แก้ไขกติกาการเลือกตั้งที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์
ไม่สามารถชนะได้"
การจัดการนี้จะต้องเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไป
เริ่มต้นจากการระดมมวลชนเข้าชุมนุมต่อต้าน ด้วยความหวังว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น
กับประเทศจะทำให้ "กองทัพ" ใช้เป็นเหตุผลเข้ายึดอำนาจทำรัฐประหาร จัดตั้งรัฐบาล
และสภาที่ต้องการขึ้นมาปฏิบัติภารกิจที่วางไว้
แต่จนแล้วจนรอด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ไม่เอาด้วย
พลิกกลยุทธ์มาเป็นจะใช้ "องค์กรอิสระทั้งหลาย" จัดการปลดคณะรัฐมนตรีออกจาก
อำนาจ ด้วยความเชื่อว่าจะทำให้เกิด "สุญญากาศทางอำนาจ" และใช้บางมาตราใน
รัฐธรรมนูญ ตั้งรัฐบาลและสภาตามที่ประสงค์ขึ้นมา
แต่นั่นก็เป็นหนทางที่ไม่เนียนขึ้นมาอีก เพราะตราบใดที่รัฐธรรมนูญยังบังคับใช้
"สุญญากาศทางอำนาจ" จะเกิดขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่จะต้องถกเถียงกันอีกยาวนาน
และอ่อนไหวเกินกว่าที่แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นมาได้ โดยเสี่ยงที่จะถูกตีความว่า
ละเมิดรัฐธรรมนูญ
จึงมาถึงการเสนอแนวทางใหม่คือ สุเทพ เทือกสุบรรณ ยึดครองความเป็น "รัฏฐาธิปัตย์"
เสียเอง ตัดคนอื่นที่ไม่กล้าทำออกหมด ใช้ความกล้าหาญส่วนตัวจัดการให้เกิด "รัฐบาล"
และ "สภา" ที่จะมาปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายให้ได้ คือ "แก้กติกาการ
เลือกตั้งให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องจมอยู่กับความพ่ายแพ้"
เกมใกล้เข้ามาแล้วทุกองคาพยพแห่งอำนาจเคลื่อนไปในทิศทางที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ
กำหนด
องค์กรอิสระเตรียมจัดการเขี่ย "รัฐบาลพรรคเพื่อไทย" ลงจากเวที
สุเทพ เทือกสุบรรณ ประสบความสำเร็จในการเดินสายเรียกปลัดกระทรวงต่างๆ
เข้ามารับนโยบาย กำหนดท่าทีที่จะต้องปฏิบัติการร่วมกันหลังจากที่
"รัฐบาลรักษาการถูกจัดการ"
คณะกรรมการการเลือกตั้ง หาทางที่จะไม่ให้การเลือกตั้งเกิดขึ้น เพื่อเป็นช่องทาง
ให้พรรคเพื่อไทย หรือพรรคอื่นมีความชอบธรรมในการเข้าสู่อำนาจในนามของ
ผู้ชนะการเลือกตั้ง
กองทัพคุมสภาพไม่ให้ฝ่ายต่อต้านมาแสดงพลังอะไรในระดับที่จะเกิดความ
เบี่ยงเบนไปจากเป้าหมายได้ ทำให้การต่อต้านแม้จะมีแต่ต้องอยู่ในความสงบ
ไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการนี้
องค์ประกอบทุกอย่างพร้อมแล้ว และเคลื่อนไปในทิศทางที่วางแผนไว้
นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ผู้รักประชาธิปไตยรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
มวลชนที่ให้การสนับสนุนรัฐบาล และที่ให้การสนับสนุนประชาธิปไตยรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
กลุ่มนี้ไม่มีใครเห็นด้วย และทำใจยอมรับไม่ได้ ที่การเมืองการปกครองไทย
จะแก้กติกาการเลือกตั้ง โดยละเมิดต่อหลักการเบื้องต้นของประชาธิปไตย
คือ "สิทธิที่เท่าเทียมกันของประชาชน"
แต่แม้จะรู้ดีอย่างไร เหมือนกับว่าไม่มีใครทำอะไรได้ ที่จะไม่ให้คนส่วนน้อยของ
ประเทศเหล่านั้น แก้กติกาการเลือกตั้งโดย "ลดทอนสิทธิของคนส่วนใหญ่
เพิ่มสิทธิให้คนส่วนน้อย"
ด้วยความคิดที่ว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเป็น "พวกโง่" ไม่พร้อมที่จะใช้
"สิทธิที่เท่าเทียม" เพราะจะทำให้การปกครองของประเทศเสียหาย ได้คนเลวมา
ปกครองประเทศ
รู้ดีการปกครองประเทศกำลังถูกบังคับให้ถอยไปสู่สำนึกแบบเผด็จการ คนส่วนน้อย
หมิ่นแคลนคนส่วนใหญ่ ไม่ยอมรับการเป็นเจ้าของประเทศอย่างเท่าเทียมกัน
รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1397385754&grpid=&catid=02&subcatid=0200
"อนาคตเราไม่รู้ ถีงไม่รู้ก็ต้องเดินไป" เหมือนไหม กับ "รู้ทั้งรู้แต่กู่ไม่กลับ"
เมื่อเสียงข้างน้อย เป็นใหญ่ในแผ่นดิน เพิ่งดูคลิป หาก กำนันได้ รัฏฐาธิปัตย์
จะเกิดอะไร ในแผ่นดิน เห็นว่า เพื่อนๆที่เป็นกองเชียร์ ต้องปรบมือให้คนทำคลิปนี้ค่ะ
คุณข้างบูรพา เองก็น่าจะพอใจ เพราะกำจัด "ระบบแม้ว" ได้จริงๆค่ะ
นี่คือ "เผด็จการคนส่วนน้อย หมิ่นแคลนคนส่วนใหญ่" ใช่หรือไม่ !!!!!!!!!!
เป้าหมายของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ยังชัดเจนว่าจะต้องทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิรูปการเมือง"
ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งให้ได้
จะต้องมีการจัดตั้งรัฐบาล และสภาที่มีความเข้าใจในสิ่งที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องการเข้ามา
จัดการให้บรรลุเป้าหมาย
ซึ่งว่ากันให้ตรงไปตรงมาคือการ "แก้ไขกติกาการเลือกตั้งที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์
ไม่สามารถชนะได้"
การจัดการนี้จะต้องเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไป
เริ่มต้นจากการระดมมวลชนเข้าชุมนุมต่อต้าน ด้วยความหวังว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น
กับประเทศจะทำให้ "กองทัพ" ใช้เป็นเหตุผลเข้ายึดอำนาจทำรัฐประหาร จัดตั้งรัฐบาล
และสภาที่ต้องการขึ้นมาปฏิบัติภารกิจที่วางไว้
แต่จนแล้วจนรอด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ไม่เอาด้วย
พลิกกลยุทธ์มาเป็นจะใช้ "องค์กรอิสระทั้งหลาย" จัดการปลดคณะรัฐมนตรีออกจาก
อำนาจ ด้วยความเชื่อว่าจะทำให้เกิด "สุญญากาศทางอำนาจ" และใช้บางมาตราใน
รัฐธรรมนูญ ตั้งรัฐบาลและสภาตามที่ประสงค์ขึ้นมา
แต่นั่นก็เป็นหนทางที่ไม่เนียนขึ้นมาอีก เพราะตราบใดที่รัฐธรรมนูญยังบังคับใช้
"สุญญากาศทางอำนาจ" จะเกิดขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่จะต้องถกเถียงกันอีกยาวนาน
และอ่อนไหวเกินกว่าที่แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นมาได้ โดยเสี่ยงที่จะถูกตีความว่า
ละเมิดรัฐธรรมนูญ
จึงมาถึงการเสนอแนวทางใหม่คือ สุเทพ เทือกสุบรรณ ยึดครองความเป็น "รัฏฐาธิปัตย์"
เสียเอง ตัดคนอื่นที่ไม่กล้าทำออกหมด ใช้ความกล้าหาญส่วนตัวจัดการให้เกิด "รัฐบาล"
และ "สภา" ที่จะมาปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายให้ได้ คือ "แก้กติกาการ
เลือกตั้งให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องจมอยู่กับความพ่ายแพ้"
เกมใกล้เข้ามาแล้วทุกองคาพยพแห่งอำนาจเคลื่อนไปในทิศทางที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ
กำหนด
องค์กรอิสระเตรียมจัดการเขี่ย "รัฐบาลพรรคเพื่อไทย" ลงจากเวที
สุเทพ เทือกสุบรรณ ประสบความสำเร็จในการเดินสายเรียกปลัดกระทรวงต่างๆ
เข้ามารับนโยบาย กำหนดท่าทีที่จะต้องปฏิบัติการร่วมกันหลังจากที่
"รัฐบาลรักษาการถูกจัดการ"
คณะกรรมการการเลือกตั้ง หาทางที่จะไม่ให้การเลือกตั้งเกิดขึ้น เพื่อเป็นช่องทาง
ให้พรรคเพื่อไทย หรือพรรคอื่นมีความชอบธรรมในการเข้าสู่อำนาจในนามของ
ผู้ชนะการเลือกตั้ง
กองทัพคุมสภาพไม่ให้ฝ่ายต่อต้านมาแสดงพลังอะไรในระดับที่จะเกิดความ
เบี่ยงเบนไปจากเป้าหมายได้ ทำให้การต่อต้านแม้จะมีแต่ต้องอยู่ในความสงบ
ไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการนี้
องค์ประกอบทุกอย่างพร้อมแล้ว และเคลื่อนไปในทิศทางที่วางแผนไว้
นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ผู้รักประชาธิปไตยรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
มวลชนที่ให้การสนับสนุนรัฐบาล และที่ให้การสนับสนุนประชาธิปไตยรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
กลุ่มนี้ไม่มีใครเห็นด้วย และทำใจยอมรับไม่ได้ ที่การเมืองการปกครองไทย
จะแก้กติกาการเลือกตั้ง โดยละเมิดต่อหลักการเบื้องต้นของประชาธิปไตย
คือ "สิทธิที่เท่าเทียมกันของประชาชน"
แต่แม้จะรู้ดีอย่างไร เหมือนกับว่าไม่มีใครทำอะไรได้ ที่จะไม่ให้คนส่วนน้อยของ
ประเทศเหล่านั้น แก้กติกาการเลือกตั้งโดย "ลดทอนสิทธิของคนส่วนใหญ่
เพิ่มสิทธิให้คนส่วนน้อย"
ด้วยความคิดที่ว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเป็น "พวกโง่" ไม่พร้อมที่จะใช้
"สิทธิที่เท่าเทียม" เพราะจะทำให้การปกครองของประเทศเสียหาย ได้คนเลวมา
ปกครองประเทศ
รู้ดีการปกครองประเทศกำลังถูกบังคับให้ถอยไปสู่สำนึกแบบเผด็จการ คนส่วนน้อย
หมิ่นแคลนคนส่วนใหญ่ ไม่ยอมรับการเป็นเจ้าของประเทศอย่างเท่าเทียมกัน
รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1397385754&grpid=&catid=02&subcatid=0200
"อนาคตเราไม่รู้ ถีงไม่รู้ก็ต้องเดินไป" เหมือนไหม กับ "รู้ทั้งรู้แต่กู่ไม่กลับ"
เมื่อเสียงข้างน้อย เป็นใหญ่ในแผ่นดิน เพิ่งดูคลิป หาก กำนันได้ รัฏฐาธิปัตย์
จะเกิดอะไร ในแผ่นดิน เห็นว่า เพื่อนๆที่เป็นกองเชียร์ ต้องปรบมือให้คนทำคลิปนี้ค่ะ
คุณข้างบูรพา เองก็น่าจะพอใจ เพราะกำจัด "ระบบแม้ว" ได้จริงๆค่ะ