บันทึกความทรงจำ จากรอยเท้าที่ยังก้าวเดิน ตอนที่ 3

สวัสดีครับหญิงอ้อ,

(ตอมอที่รัก อย่าทำอะไรมูมมามแบบนั้นสิ)
วันนี้เราพักเรื่องเมืองจีนไว้ก่อนชั่วคราว มาพบกับประสบการณ์สนุกเกิดขึ้นที่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้ไทยเข้ามาหน่อย คือประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเป็นการสลับฉากเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 ผมได้มีโอกาสไปทำงานที่ประเทศอินโดนีเซีย ใช้ชีวิตผจญภัยอยู่ที่นี่กันหนึ่งปีเต็ม เมืองที่ผมอยู่ชื่อว่า เมืองสุราบายา (Surabaya) เป็นเมืองหลักมีความสำคัญทางเศรษฐกิจรองจากจาการ์ตา (Jakarta) ที่เป็นเมืองหลวง

นั่นไม่ใช่การเดินทางมาอินโดนีเซียเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านั้นผมได้เคยมาเยี่ยมเยือนประเทศนี้เมื่อปี 2000 เพื่อมาร่วม work shop ประจำปีของทางบริษัท ปีนั้นสำนักงานสาขาทางอินโดนีเซียรับเป็นเจ้าภาพ

ในครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน Jakarta เมืองหลวง ก็ได้สร้างประสบการณ์ความประทับใจรักแรกพบให้ผมอย่างไม่มีวันลืมเลือนด้วยการรีดไถเงินที่ตรงหน้าเค้าเตอร์อย่างไร้ยางอาย ด้วยข้อกล่าวหาที่ฟังดูสุดแสนจะทุเรศว่าผมมีหน้าตาเหมือนคนสิงคโปร์เข้ามาทำธุรกิจที่บ้านเค้า

ใช่ครับใบหน้าเกาหลีอินเทรนด์อย่างผม ดูจะเป็นอาหารจานโปรดสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประเทศนี้มาก ทั้งที่ผมได้แสดงหลักฐานยืนยันชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบินระบุการเดินทางไปกลับของการบินไทย เอกสารหนังสือเดินทาง
ผลสุดท้ายเจ้าหน้าที่เองต้องยอมรับตามตรง เค้าเลยขอกันแบบง่ายๆ พูดแบบไม่อ้อมค้อมว่า
"give him money" แปลเป็นภาษาไทยก็คือ เอาเงินมา เป็นการรีดไถอย่างไร้ยางอายเป็นที่สุด



ปรกติในสังคมไทย ถ้าเราโดนตำรวจจราจรเรียก โดนตำรวจเขียนใบสั่ง ส่วนใหญ่เราก็มักใช้วิธีการจ่ายเงินใต้โต๊ะ ขอความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกกันไป ถึงแม้ว่ามันจะไม่ถูกต้อง แต่นั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปรกติธรรมดา และเป็นภาพที่พบเห็นได้ทั่วไปในสังคมเมืองไทย

แต่ครั้งนี้ผมยังไม่ได้ทำความผิดอะไร เจ้าหน้าที่พวกนั้นยังมารีดไถเงินอย่างหน้าด้านไร้ยางอายกันแบบนี้อีก หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่โดนเจ้าหน้าที่รีดไถเงินในครั้งนั้น ผมสบถสาบานบอกกับตัวเองว่า จะไม่ขอกลับมาเหยียบประเทศนี้อีก
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่