สวัสดีครับ วันนี้ขอมารีวิวเป็นครั้งแรกในห้องโต๊ะเครื่องแป้งครับ หลังจากที่ผมได้สอบถามพี่ๆในห้องนี้ และก็ได้อ่านรีวิวจากบล๊อกเกอร์ที่ต่างๆ แล้วเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของการคุมความมัน ซึ่งผมก็สรุปแล้วว่าผลิตภัณฑ์จาก Benefit ถูกใจผมมาก ปกติผมเป็นคนผิวผสมครับ มันเฉพาะช่วง T-zone แล้วก็ไม่แต่งหน้าครับ ผมจะลงสกินแคร์ บวกกับ กันแดด แล้วก็ออกจากบ้านเลยครับ ซึ่งก็ทำให้หน้าดูมันๆ แบบรำคาญมากอะ แล้วยิ่งช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ยิ่งมันไปกันใหญ่ เลยตัดสินใจซื้อ Benefit มาใช้ดีกว่า ฮี่ๆ
ผลิตภัณฑ์จาก Benefit ที่ผมใช้อยู่มีตามนี้นะครับ
1. The PoreFessional
2. Big Easy
3. Agent Zero Shine
4. Fake Up
เพื่อไม่ให้เสียเวลามาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยดีกว่ากับ The PoreFessional
วิธีใช้ ก็บีบลงที่มือไม่ต้องเยอะมาก แล้วก็ไปกดๆทาๆ ให้ทั่วหน้า หรือตรงที่มีรูขุมขนกว้างอะครับ
ตัวนี้ผมใช้หลังจากที่ผมลงครีมบำรุง และ กันแดดเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ข้อดีของเค้าก็คือ จะปกปิดรูขุมขนได้ดีมาก
แล้วก็ควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม อีกอย่างหลังจากที่ใช้ตัวนี้แล้ว มันทำให้ผมลงบีบี ครีมง่ายด้วยแฮะ
มาต่อกันที่ตัวที่สอง ซึ่งก็เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Benefit ผเค้าอะครับที่ไทยเพิ่งเข้ามาเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว
นั่นคือ BIG EASY ผมใช้ตัวนี้หลังจากลง Primer The Porefessional ครับ
ตัวนี้ทาง Benefit เค้าบอกว่ามันเป็นมากกว่าบีบีครีม เพราะว่า มันช่วยในเรื่องของการควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม ปรับสภาพสีผิวให้เข้ากับหน้าเราที่สุด ยังมีส่วนที่ให้ความชุ่มชื้น และ มี SPF 35 ด้วยครับ นอกจากนี้พอเราทาเสร็จแล้ว ทิ้งไปแป๊ปๆ มันก็จะเปลี่ยนเนื้อจากครีมเป็นแป้งอะครับ ให้ความรู้สึกเหมือนทาแป้งนะ สีที่ทาง Benefit มีให้เลือกก็มีอยู่ 6 เฉดสี ครับ
1) Fair
2) Light
3) Light/ Medium
4) Medium
5) Beige
6) Deep Beige
สำหรับผมผมใช้สี Beige เบอร์ 5 ครับ ซึ่งตอนแรกคิดว่ามันจะทำให้หน้าวอกไปมั้ย คือไม่อยากให้หน้าขาววอกเกิน อยากให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด
สรุปแล้วเจ้าตัวนี้ชนะขาดลอยครับ เพราะหลังจากที่ทาแล้ว มันปรับสีให้เข้ากับสีผิวผมเลยครับ (ตอนซื้อควรลองเลือกสีที่ตรงกับสีผิวตัวเองด้วยจะดีมากครับ) ส่วนในเรื่องของการควบคุมความมัน โอเคมากเลยครับ เพราะผมไม่มีความรู้สึกว่าหน้ามันโดยเฉพาะตรงทีโซนเลย แทบจะไม่ต้องซับหน้า หรือ เติมแป้งฝุ่นเพิ่มใดๆเลยครับ มันอยู่ได้นานพอสมควรนะครับ (ตอนสมัยที่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้ สอง สามชั่วโมง ก็เริ่มมันละ) สรุปโดยรวมแล้วโอเคมากๆครับสำหรับเพื่อนๆ ที่อยากได้บีบี ที่ควบคุมความมัน และ สีไม่วอกจนเกินไป ขอแนะนำเลยครับ
หลังจากทาเจ้าบีบี The Big Easy เสร็จแล้วผมก็มาจบที่ตัวแป้งฝุ่นครับ ไหนๆก็ซื้อของ Benefit ก็เลยขอซื้อแป้งเค้ามาด้วยเลยละกัน
ตัวนี้ก็เป็นตัวใหม่เหมือนกันครับ มาในไลน์เดียวกันกับ PoreFessional แน่นอนครับ มันช่วยในเรื่องของการปกปิดรูขุมขนเหมือนกัน
และที่สำคัญ ควบคุมความมันด้วยครับ
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาในรูปแบบที่พกพาสะดวกมากครับ (คือไม่หนักกระเป๋าแฮะ) พกติดตัวไปได้ตลอด ตอนไหนที่รู้สึกว่าหน้าเริ่มมัน ก็หยิบมาปัดๆได้เลย
คือตัวนี้นอกจากมันจะมีแป้งมาให้แล้ว ยังมีแปรงปัดแก้มมาให้ด้วยครับ (ไม่ต้องไปซื้อแปรงเพิ่ม ผมก็เลือกไม่เป็นด้วยสิ ฮี่ๆ) วิธีใช้ก็ง่ายๆ เปิดกระป๋องแป้ง เคาะๆแป้งลงบนฝา แนะนำว่า เคาะออกมาทีละน้อยๆนะครับ อย่าเยอะ เพราะเยอะแล้วใช้ไม่หมด จะเสียดายของ ใส่กลับก็ไม่ได้ด้วยฮิ
ส่วนตัวแปรงก็หมุนๆตรงตูดมันอะครับ มันจะมีแปรงให้มา ส่วนตัวแล้วแรกๆแปรงก็โอเคนะ แต่ใช้ไปนานๆแล้วมันเริ่มปาดนิดๆหน่อยๆ แต่ก็โอเคดี สะดวกที่จะพกพาดีมากครับ
หลังจากใช้ตัวนี้รู้สึกว่าระหว่างวันหน้ามันน้อยกว่าแต่ก่อน ถือว่าดีมากสำหรับการควบคุมความมันของแป้งตัวนี้ ผมชอบครับแต่เสียดายมีขนาดเดียว (ส่วนตัวคิดว่าแอบน้อยไปหน่อยอ่ะ ฮาๆ)
แถมๆตัวสุดท้ายครับ คือผมปกติเป็นคนที่ค่อนข้างจะนอนดึกนะ แล้วก็ขอบตาดำเป็นแพนด้านิดนึงงง ครีมบำรุงก็ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะใช้แล้วก็ไม่ค่อยได้ช่วยอะไรซักเท่าไหร่ เลยขอหันมาพึ่งตัว Cosmetic ปกปิดกันหน่อยดีกว่า ตัวนี้คือ Concealer ของ Benefit ชื่อว่า Fake UP ครับ
Concealer ตัวนี้นอกจากจะปกปิดรอยดำ รอยแดงแล้ว มันยังมีตัวที่เป็นแบบให้ความชุ่มชื้นด้วยนะ
วิธีใช้ก็ ใช้นิ้วมือวนๆ ตรงตัว Concealer และตัวที่ให้ความชุ่มชื้นที่เป็นสีขุ่นๆรอบๆ Concealer อะครับ (ผมเรียกไม่ถูก)
นั่นแหละ พอเสร็จแล้วก็เอามาโปะๆ ตรงบริเวณที่ต้องการจะปกปิด เช่น รอยดำ รอยสิว รอยแดง บลาๆ ช่วยได้เยอะ ทำให้หน้าไม่ดูโทรมด้วย ดูสุขภาพดี
สรุปแล้ว ผลิตภัณฑ์ Benefit Cosmetic ที่ผมซื้อมาทั้งหมดนี้ถูกใจมากมาย เพราะ
1. ช่วยควบคุมความมันได้ดีมากๆ ทำให้หน้าผมมันน้อยกว่าแต่ก่อน
2. ความเห็นส่วนตัว ผมว่ามันเหมาะมากครับ สำหรับผู้ชายที่ไม่ค่อยชอบจะแต่งหน้าอย่างผม (เพราะหลังจากใช้มันดูไม่เหมือนแต่งหน้าอะ คือไม่วอกมาก)
3. มันทำให้หน้าผมดูมีสุขภาพดี ไม่โทรมด้วย
ราคาอาจจะแพงไปหน่อย แต่ถือว่าคุ้มครับ (คิดว่าใช้ได้อีกนานเลยกว่าจะหมด)
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับ กับรีวิวแรกของผมในห้องโต๊ะเครื่องแป้งนี้ ถ้ามีอะไรผิดพลาดตรงไหน ผมต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยนะครับ
[CR] รีวิว Benefit Cosmetics คุมความมัน ที่ผมมีสำหรับหน้าร้อนนี้ครับ
ผลิตภัณฑ์จาก Benefit ที่ผมใช้อยู่มีตามนี้นะครับ
1. The PoreFessional
2. Big Easy
3. Agent Zero Shine
4. Fake Up
เพื่อไม่ให้เสียเวลามาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยดีกว่ากับ The PoreFessional
วิธีใช้ ก็บีบลงที่มือไม่ต้องเยอะมาก แล้วก็ไปกดๆทาๆ ให้ทั่วหน้า หรือตรงที่มีรูขุมขนกว้างอะครับ
ตัวนี้ผมใช้หลังจากที่ผมลงครีมบำรุง และ กันแดดเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ข้อดีของเค้าก็คือ จะปกปิดรูขุมขนได้ดีมาก
แล้วก็ควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม อีกอย่างหลังจากที่ใช้ตัวนี้แล้ว มันทำให้ผมลงบีบี ครีมง่ายด้วยแฮะ
มาต่อกันที่ตัวที่สอง ซึ่งก็เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Benefit ผเค้าอะครับที่ไทยเพิ่งเข้ามาเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว
นั่นคือ BIG EASY ผมใช้ตัวนี้หลังจากลง Primer The Porefessional ครับ
ตัวนี้ทาง Benefit เค้าบอกว่ามันเป็นมากกว่าบีบีครีม เพราะว่า มันช่วยในเรื่องของการควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม ปรับสภาพสีผิวให้เข้ากับหน้าเราที่สุด ยังมีส่วนที่ให้ความชุ่มชื้น และ มี SPF 35 ด้วยครับ นอกจากนี้พอเราทาเสร็จแล้ว ทิ้งไปแป๊ปๆ มันก็จะเปลี่ยนเนื้อจากครีมเป็นแป้งอะครับ ให้ความรู้สึกเหมือนทาแป้งนะ สีที่ทาง Benefit มีให้เลือกก็มีอยู่ 6 เฉดสี ครับ
1) Fair
2) Light
3) Light/ Medium
4) Medium
5) Beige
6) Deep Beige
สำหรับผมผมใช้สี Beige เบอร์ 5 ครับ ซึ่งตอนแรกคิดว่ามันจะทำให้หน้าวอกไปมั้ย คือไม่อยากให้หน้าขาววอกเกิน อยากให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด
สรุปแล้วเจ้าตัวนี้ชนะขาดลอยครับ เพราะหลังจากที่ทาแล้ว มันปรับสีให้เข้ากับสีผิวผมเลยครับ (ตอนซื้อควรลองเลือกสีที่ตรงกับสีผิวตัวเองด้วยจะดีมากครับ) ส่วนในเรื่องของการควบคุมความมัน โอเคมากเลยครับ เพราะผมไม่มีความรู้สึกว่าหน้ามันโดยเฉพาะตรงทีโซนเลย แทบจะไม่ต้องซับหน้า หรือ เติมแป้งฝุ่นเพิ่มใดๆเลยครับ มันอยู่ได้นานพอสมควรนะครับ (ตอนสมัยที่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้ สอง สามชั่วโมง ก็เริ่มมันละ) สรุปโดยรวมแล้วโอเคมากๆครับสำหรับเพื่อนๆ ที่อยากได้บีบี ที่ควบคุมความมัน และ สีไม่วอกจนเกินไป ขอแนะนำเลยครับ
หลังจากทาเจ้าบีบี The Big Easy เสร็จแล้วผมก็มาจบที่ตัวแป้งฝุ่นครับ ไหนๆก็ซื้อของ Benefit ก็เลยขอซื้อแป้งเค้ามาด้วยเลยละกัน
ตัวนี้ก็เป็นตัวใหม่เหมือนกันครับ มาในไลน์เดียวกันกับ PoreFessional แน่นอนครับ มันช่วยในเรื่องของการปกปิดรูขุมขนเหมือนกัน
และที่สำคัญ ควบคุมความมันด้วยครับ
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาในรูปแบบที่พกพาสะดวกมากครับ (คือไม่หนักกระเป๋าแฮะ) พกติดตัวไปได้ตลอด ตอนไหนที่รู้สึกว่าหน้าเริ่มมัน ก็หยิบมาปัดๆได้เลย
คือตัวนี้นอกจากมันจะมีแป้งมาให้แล้ว ยังมีแปรงปัดแก้มมาให้ด้วยครับ (ไม่ต้องไปซื้อแปรงเพิ่ม ผมก็เลือกไม่เป็นด้วยสิ ฮี่ๆ) วิธีใช้ก็ง่ายๆ เปิดกระป๋องแป้ง เคาะๆแป้งลงบนฝา แนะนำว่า เคาะออกมาทีละน้อยๆนะครับ อย่าเยอะ เพราะเยอะแล้วใช้ไม่หมด จะเสียดายของ ใส่กลับก็ไม่ได้ด้วยฮิ
ส่วนตัวแปรงก็หมุนๆตรงตูดมันอะครับ มันจะมีแปรงให้มา ส่วนตัวแล้วแรกๆแปรงก็โอเคนะ แต่ใช้ไปนานๆแล้วมันเริ่มปาดนิดๆหน่อยๆ แต่ก็โอเคดี สะดวกที่จะพกพาดีมากครับ
หลังจากใช้ตัวนี้รู้สึกว่าระหว่างวันหน้ามันน้อยกว่าแต่ก่อน ถือว่าดีมากสำหรับการควบคุมความมันของแป้งตัวนี้ ผมชอบครับแต่เสียดายมีขนาดเดียว (ส่วนตัวคิดว่าแอบน้อยไปหน่อยอ่ะ ฮาๆ)
แถมๆตัวสุดท้ายครับ คือผมปกติเป็นคนที่ค่อนข้างจะนอนดึกนะ แล้วก็ขอบตาดำเป็นแพนด้านิดนึงงง ครีมบำรุงก็ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะใช้แล้วก็ไม่ค่อยได้ช่วยอะไรซักเท่าไหร่ เลยขอหันมาพึ่งตัว Cosmetic ปกปิดกันหน่อยดีกว่า ตัวนี้คือ Concealer ของ Benefit ชื่อว่า Fake UP ครับ
Concealer ตัวนี้นอกจากจะปกปิดรอยดำ รอยแดงแล้ว มันยังมีตัวที่เป็นแบบให้ความชุ่มชื้นด้วยนะ
วิธีใช้ก็ ใช้นิ้วมือวนๆ ตรงตัว Concealer และตัวที่ให้ความชุ่มชื้นที่เป็นสีขุ่นๆรอบๆ Concealer อะครับ (ผมเรียกไม่ถูก)
นั่นแหละ พอเสร็จแล้วก็เอามาโปะๆ ตรงบริเวณที่ต้องการจะปกปิด เช่น รอยดำ รอยสิว รอยแดง บลาๆ ช่วยได้เยอะ ทำให้หน้าไม่ดูโทรมด้วย ดูสุขภาพดี
สรุปแล้ว ผลิตภัณฑ์ Benefit Cosmetic ที่ผมซื้อมาทั้งหมดนี้ถูกใจมากมาย เพราะ
1. ช่วยควบคุมความมันได้ดีมากๆ ทำให้หน้าผมมันน้อยกว่าแต่ก่อน
2. ความเห็นส่วนตัว ผมว่ามันเหมาะมากครับ สำหรับผู้ชายที่ไม่ค่อยชอบจะแต่งหน้าอย่างผม (เพราะหลังจากใช้มันดูไม่เหมือนแต่งหน้าอะ คือไม่วอกมาก)
3. มันทำให้หน้าผมดูมีสุขภาพดี ไม่โทรมด้วย
ราคาอาจจะแพงไปหน่อย แต่ถือว่าคุ้มครับ (คิดว่าใช้ได้อีกนานเลยกว่าจะหมด)
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับ กับรีวิวแรกของผมในห้องโต๊ะเครื่องแป้งนี้ ถ้ามีอะไรผิดพลาดตรงไหน ผมต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยนะครับ