สวัสดีค่ะ วันนี้เป็นครั้งแรกที่เราตั้งกระทู้มาเพื่อระบายความอัดอั้นเล็กน้อยค่ะ
ถ้าหากเราใช้ภาษาตรงไหนผิดไป ขอให้บอกกล่าวได้เลยนะคะ เรายินดีรับฟังทุกคำพูดที่มีเหตุผลค่ะ
เราเป็นเด็กนักเรียนในกรุงเทพมหานคร เพิ่งจบชั้น ม.3 ย่างเข้า ม.4 ค่ะ (เข้าแล้วค่ะ)
เราได้เลือกเข้าสายศิลป์ - คำนวณ (ถึงแม้แม่จะอยากให้เข้าวิทย์คณิตก็ตามแต่เราเข้าสายนี้เพราะว่าน่าจะตรงกับสิ่งที่เราจะเป็นมากที่สุด)
วันที่เราได้รู้ว่าเราติดสายนี้เราก็ดีใจมากเพราะว่าจะได้เรียนตามที่ตัวเองต้องการ
ในวันที่รายงานตัวเราก็มาตามเวลาที่นัด ได้มาเจอคนที่อยู่ในสายเดียวกันเป็นสิบๆ คน
ขณะที่รอเข้าแถวรายงานตัวต่างๆ เราก็ได้ยินเสียงคนในสายพูดกันทำเราเสียกำลังใจในการเรียนเลย..
" เรียนแค่ให้ผ่านๆ ไปเถอะ เรียนไปก็ไม่ได้ทำงานตรงสายหรอก "
" มาเข้าสายนี้ได้เกรดคณิตแค่ไม่ตกก็พอแล้ว "
" ไม่ได้อยากมาเข้าสายนี้เลย ที่ได้มาสายนี้เพราะโดนปัดมาจากสายวิทย์คณิต , ฯลฯ "
แล้วก็วันที่มอบตัว (10/4/57) วันนั้นจัดห้องแล้ว เราก็นั่งในแถวตรวจเอกสารไปเรื่อยๆ
จนได้ยินเพื่อนผู้หญิงห้องข้างๆ พูดว่า (เราจำไม่ได้หมดได้ยินแว่วๆ)
" พ่อบอกว่าถ้าจะเรียนก็ให้เรียนถึงปริญญาเอกเลย มีตังค์ส่งเสียให้ แต่กูตอนเนี้ยแค่จะให้จบเนี่ยยังจะรอดหรือปล่าวไม่รู้เล้ยยย "
เราสวนกลับไปทันทีว่า
" เธอน่ะ..มาสลับกับเรารึเปล่า...เราอยากเรียนแต่เราไม่มีตังค์ เธอมีตังค์แต่ไม่อยากเรียน เรามาสลับกันดีรึเปล่า ? "
ที่บ้านเราไม่ค่อยมีตังจริงๆ อยู่กับแม่แค่สองคน (ญาติแยกย้ายไปอยู่ที่อื่น ติดต่อเป็นครั้งคราว)
แม่เป็นแม่ค้าขายของอยู่หน้าปากซอยติดริมถนน
รายได้แม่เดือนนึงตกประมาณ 8,000 - 10,000 บาท ปีนึงก็ไม่เกิน 100,000 บาท
ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง (เช่าห้องแฟลตเดือนละ 2,300 บาท + ค่าส่วนกลาง 250 บาท)
มีหนี้ตลอดปี ชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องกู้ธนาคารหรือกู้นอกระบบหากไม่มีเงินจริงๆ
ส่วนเรื่องของเราที่รร. ตั้งแต่สมัยเด็กๆ เราก็ไม่ค่อยมีเงินในการจะเข้าเรียน
ทำให้เราต้องพยายามเรียนเพื่อขอทุนจากทางรร. หรือไม่ก็แข่งชิงทุนต่างๆ ตลอด
(การเรียนเราไม่ได้ถือว่ายอดเยี่ยมนะ เราคิดว่างั้น คะแนนโอเน็ตที่ผ่านมาถือได้ว่าย่ำแย่มาก T_T ไม่เชื่อขอดูได้ค่ะ)
เราไม่เคยเรียนพิเศษเสียตังค์ข้างนอกแม้แต่หนเดียว เพราะไม่มีตังค์เรียน และไม่ค่อยมีเวลาเพราะต้องช่วยแม่ขายของในช่วงเย็น
(ยกเว้นศูนย์อิมมานูเอล คิดถึงมาก T^T เรียนฟรี มีกิจกรรมให้ทำ เป็นศูนย์คริสต์ วันคริสต์มาสก็มีจัดกิจกรรมชุมชนสนุกมากเลย แต่พอเทคโนโลยีมาก็ไม่ค่อยมีเด็กไปเรียนจนปิดตัวไปในที่สุด)
เราไม่ได้คิดว่าเราเกิดมาย่ำแย่ที่สุด แต่เราอยากถามว่า
" ทำไมคนที่มีโอกาสเรียนถึงไม่อยากเรียน ถึงอยากโดดออกนอกโรงเรียน ไปทำเรื่องไร้สาระ หรือทำเรื่องอย่างว่า... "
ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีทั้งเงินพร้อม ครอบครัวดี มีเพื่อนที่รักใคร่ แล้วทำไมถึงไม่อยากเรียนกัน !
(เพื่อนเราค่อนข้างน้อยเพราะเรามักอยู่กับเพื่อนผู้ชาย เราบอกตรงๆ เลยว่าเพื่อนผู้ชายจริงใจกว่าเพื่อนผู้หญิงที่เราเจอมาเยอะ)
ที่เราตั้งกระทู้นี้เพื่ออยากให้ทุกคนที่กำลังอยู่ในวัยเรียนลองกลับหันมาตระหนักได้แล้วว่า
เรามีโอกาสได้เรียนแล้วทำไมเราไม่ตั้งใจเรียนนะ ... คิดถึงคนอื่นที่เค้าอยากเข้ามาเรียนมากๆ แต่มาไม่ได้สิ
หรือไม่ก็ลองไปอ่านประวัติของ สมคิด ลวางกูล ดูก็ได้
จะได้รู้ว่า ทำไมเราถึงแคร์เรื่องนี้ขนาดนี้.. (มีคนเคยตั้งกระทู้ในพันทิปอยู่นะ หรือจะลองไปซื้อหนังสือชีวประวัติมาซักเล่มก็ได้)
ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องของเราจนจบจริงๆ มันอาจจะเวิ่นเว้อไปซักหน่อย
แต่เราก็อยากให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับการศึกษามากกว่านี้
ถึงเราจะคิดว่าเกรดแค่ผ่านๆ ก็พอแล้ว แต่มันก็เป็นเหมือน profile ข้อมูลในการสมัครงานสักอย่าง
ถึงเราจะถามว่าทำไมในไทยต้องเอาเกรดมาตัดสินด้วย แต่เราปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าในไทยเป็นอย่างนี้แทบทุกที่
(ทำให้ความฝันเราสูงสุดคือการไปทำงานต่างประเทศ เราจึงเข้าสายภาษาอังกฤษ - คณิต)
และสุดท้าย สถานที่เรียนไม่ได้ทำให้เราเรียนดีมากหรือน้อยลงมากเท่าใด มันอยู่ที่ความตั้งใจเรียนของเราทุกคนค่ะ สวัสดีค่ะ
ปล.
ขอแท็ก สยามสแควร์ เพราะเป็นชีวิตภายในโรงเรียนและชีวิตวัยรุ่น
ขอแท็ก ชานเรือน เพราะเป็นสิ่งที่ครอบครัวควรจะให้ความสำคัญต่อกันและกัน และควรจะช่วยดูแลกันทั้งครอบครัว
ขอแท็ก ไกลบ้าน เพราะเราอยากเรียนต่อหรือทำงานต่อต่างประเทศ
ขอแท็ก ศาลาประชาคม เพราะเป็นปัญหาชีวิตอย่างนึงของเราและใครหลายๆคน
ขอบคุณทุกท่านค่ะ ขอบคุณค่ะ
[กระทู้สนทนา] ทำไมคนที่มีโอกาสได้เรียนถึงได้ไม่ค่อยอยากเรียน/ตั้งใจเรียน ?..
ถ้าหากเราใช้ภาษาตรงไหนผิดไป ขอให้บอกกล่าวได้เลยนะคะ เรายินดีรับฟังทุกคำพูดที่มีเหตุผลค่ะ
เราเป็นเด็กนักเรียนในกรุงเทพมหานคร เพิ่งจบชั้น ม.3 ย่างเข้า ม.4 ค่ะ (เข้าแล้วค่ะ)
เราได้เลือกเข้าสายศิลป์ - คำนวณ (ถึงแม้แม่จะอยากให้เข้าวิทย์คณิตก็ตามแต่เราเข้าสายนี้เพราะว่าน่าจะตรงกับสิ่งที่เราจะเป็นมากที่สุด)
วันที่เราได้รู้ว่าเราติดสายนี้เราก็ดีใจมากเพราะว่าจะได้เรียนตามที่ตัวเองต้องการ
ในวันที่รายงานตัวเราก็มาตามเวลาที่นัด ได้มาเจอคนที่อยู่ในสายเดียวกันเป็นสิบๆ คน
ขณะที่รอเข้าแถวรายงานตัวต่างๆ เราก็ได้ยินเสียงคนในสายพูดกันทำเราเสียกำลังใจในการเรียนเลย..
" เรียนแค่ให้ผ่านๆ ไปเถอะ เรียนไปก็ไม่ได้ทำงานตรงสายหรอก "
" มาเข้าสายนี้ได้เกรดคณิตแค่ไม่ตกก็พอแล้ว "
" ไม่ได้อยากมาเข้าสายนี้เลย ที่ได้มาสายนี้เพราะโดนปัดมาจากสายวิทย์คณิต , ฯลฯ "
แล้วก็วันที่มอบตัว (10/4/57) วันนั้นจัดห้องแล้ว เราก็นั่งในแถวตรวจเอกสารไปเรื่อยๆ
จนได้ยินเพื่อนผู้หญิงห้องข้างๆ พูดว่า (เราจำไม่ได้หมดได้ยินแว่วๆ)
" พ่อบอกว่าถ้าจะเรียนก็ให้เรียนถึงปริญญาเอกเลย มีตังค์ส่งเสียให้ แต่กูตอนเนี้ยแค่จะให้จบเนี่ยยังจะรอดหรือปล่าวไม่รู้เล้ยยย "
เราสวนกลับไปทันทีว่า
" เธอน่ะ..มาสลับกับเรารึเปล่า...เราอยากเรียนแต่เราไม่มีตังค์ เธอมีตังค์แต่ไม่อยากเรียน เรามาสลับกันดีรึเปล่า ? "
ที่บ้านเราไม่ค่อยมีตังจริงๆ อยู่กับแม่แค่สองคน (ญาติแยกย้ายไปอยู่ที่อื่น ติดต่อเป็นครั้งคราว)
แม่เป็นแม่ค้าขายของอยู่หน้าปากซอยติดริมถนน
รายได้แม่เดือนนึงตกประมาณ 8,000 - 10,000 บาท ปีนึงก็ไม่เกิน 100,000 บาท
ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง (เช่าห้องแฟลตเดือนละ 2,300 บาท + ค่าส่วนกลาง 250 บาท)
มีหนี้ตลอดปี ชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องกู้ธนาคารหรือกู้นอกระบบหากไม่มีเงินจริงๆ
ส่วนเรื่องของเราที่รร. ตั้งแต่สมัยเด็กๆ เราก็ไม่ค่อยมีเงินในการจะเข้าเรียน
ทำให้เราต้องพยายามเรียนเพื่อขอทุนจากทางรร. หรือไม่ก็แข่งชิงทุนต่างๆ ตลอด
(การเรียนเราไม่ได้ถือว่ายอดเยี่ยมนะ เราคิดว่างั้น คะแนนโอเน็ตที่ผ่านมาถือได้ว่าย่ำแย่มาก T_T ไม่เชื่อขอดูได้ค่ะ)
เราไม่เคยเรียนพิเศษเสียตังค์ข้างนอกแม้แต่หนเดียว เพราะไม่มีตังค์เรียน และไม่ค่อยมีเวลาเพราะต้องช่วยแม่ขายของในช่วงเย็น
(ยกเว้นศูนย์อิมมานูเอล คิดถึงมาก T^T เรียนฟรี มีกิจกรรมให้ทำ เป็นศูนย์คริสต์ วันคริสต์มาสก็มีจัดกิจกรรมชุมชนสนุกมากเลย แต่พอเทคโนโลยีมาก็ไม่ค่อยมีเด็กไปเรียนจนปิดตัวไปในที่สุด)
เราไม่ได้คิดว่าเราเกิดมาย่ำแย่ที่สุด แต่เราอยากถามว่า
" ทำไมคนที่มีโอกาสเรียนถึงไม่อยากเรียน ถึงอยากโดดออกนอกโรงเรียน ไปทำเรื่องไร้สาระ หรือทำเรื่องอย่างว่า... "
ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีทั้งเงินพร้อม ครอบครัวดี มีเพื่อนที่รักใคร่ แล้วทำไมถึงไม่อยากเรียนกัน !
(เพื่อนเราค่อนข้างน้อยเพราะเรามักอยู่กับเพื่อนผู้ชาย เราบอกตรงๆ เลยว่าเพื่อนผู้ชายจริงใจกว่าเพื่อนผู้หญิงที่เราเจอมาเยอะ)
ที่เราตั้งกระทู้นี้เพื่ออยากให้ทุกคนที่กำลังอยู่ในวัยเรียนลองกลับหันมาตระหนักได้แล้วว่า
เรามีโอกาสได้เรียนแล้วทำไมเราไม่ตั้งใจเรียนนะ ... คิดถึงคนอื่นที่เค้าอยากเข้ามาเรียนมากๆ แต่มาไม่ได้สิ
หรือไม่ก็ลองไปอ่านประวัติของ สมคิด ลวางกูล ดูก็ได้
จะได้รู้ว่า ทำไมเราถึงแคร์เรื่องนี้ขนาดนี้.. (มีคนเคยตั้งกระทู้ในพันทิปอยู่นะ หรือจะลองไปซื้อหนังสือชีวประวัติมาซักเล่มก็ได้)
ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องของเราจนจบจริงๆ มันอาจจะเวิ่นเว้อไปซักหน่อย
แต่เราก็อยากให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับการศึกษามากกว่านี้
ถึงเราจะคิดว่าเกรดแค่ผ่านๆ ก็พอแล้ว แต่มันก็เป็นเหมือน profile ข้อมูลในการสมัครงานสักอย่าง
ถึงเราจะถามว่าทำไมในไทยต้องเอาเกรดมาตัดสินด้วย แต่เราปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าในไทยเป็นอย่างนี้แทบทุกที่
(ทำให้ความฝันเราสูงสุดคือการไปทำงานต่างประเทศ เราจึงเข้าสายภาษาอังกฤษ - คณิต)
และสุดท้าย สถานที่เรียนไม่ได้ทำให้เราเรียนดีมากหรือน้อยลงมากเท่าใด มันอยู่ที่ความตั้งใจเรียนของเราทุกคนค่ะ สวัสดีค่ะ
ปล.
ขอแท็ก สยามสแควร์ เพราะเป็นชีวิตภายในโรงเรียนและชีวิตวัยรุ่น
ขอแท็ก ชานเรือน เพราะเป็นสิ่งที่ครอบครัวควรจะให้ความสำคัญต่อกันและกัน และควรจะช่วยดูแลกันทั้งครอบครัว
ขอแท็ก ไกลบ้าน เพราะเราอยากเรียนต่อหรือทำงานต่อต่างประเทศ
ขอแท็ก ศาลาประชาคม เพราะเป็นปัญหาชีวิตอย่างนึงของเราและใครหลายๆคน
ขอบคุณทุกท่านค่ะ ขอบคุณค่ะ