แชร์ประสบการณ์ขอ VISA F1 อเมริกา ครั้งแรก...เตรียมตัวให้พร้อม ไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ !

ยืม Log in พี่สาวมาค่ะ ^^
นี่เป็นครั้งแรกที่มาตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์ ผิดพลาดตรงไหน ขออภัยด้วยนะคะ ยิ้ม
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับพี่ ๆ น้อง ๆ ที่กำลังจะเดินทางไปอเมริกานะคะ

เนื่องจากเจ้าของกระทู้มีความฝันอยากไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอเมริกา จบมาประมาณ 3 ปีแล้วค่ะ คิดว่าถ้าไม่ไปตอนนี้ จะไปตอนไหน เลยตัดสินใจหาข้อมูลโรงเรียนสอนภาษาก่อน (เจ้าของกระทู้เทคคอร์สปรับภาษาก่อนค่ะยิ้ม ) เลยเลือกไป San Francisco, CA ค่ะ เพราะชอบบรรยากาศที่นั่นโดยส่วนตัวจ้า ไปคนเดียว ลุยเดี่ยวเลยค่ะ หลังจากนั้นก็ดำเนินเรื่อง เตรียมเอกสารต่าง ๆ ประมาณ 1 เดือน ก่อนจะได้สัมภาษณ์ VISA ประเภท F1 ค่ะ


เริ่มวันสัมภาษณ์ VISA เลยนะคะ
จองคิวสัมภาษณ์ไว้ 7.30 น. ควรไปก่อนเวลา 30 นาทีค่ะ  แต่เราไปถึงก่อนตอน 6.30 ก็จะได้คิวแรก ๆ ของช่วงเวลาที่จองไว้ค่ะ
การแต่งกายแนะนำให้แต่งกายสุภาพเข้าไว้ค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่จะดูจากภาพลักษณ์ของเราเป็นอันดับแรกเลย เราใส่เสื้อเชิ๊ตแขนยาว กระโปรงเหนือเข่านิดหน่อย และรองเท้าหุ้มส้นค่ะ
เมื่อไปถึง ต้องยืนต่อคิวรอที่ด้านหน้าสถานทูต จะมีพี่ผู้หญิงมาเรียกให้ไปต่อแถวใหม่ตามคิวเวลาที่จองไว้ค่ะ พี่ผู้หญิงเค้าจะขอดูใบ DS160 ใบเดียวเพื่อเช็คชื่อ และแจกบัตรแข็งก่อนเข้าไปค่ะ
  
เมื่อได้เข้าไปในสถานทูตแล้ว ก็ฝากโทรศัพท์มือถือไว้ก่อนค่ะ ที่เหลือเอาเข้าได้ค่ะ
(เราเอาไปแค่กระเป๋าสตางค์ มือถือ ผ้าเช็ดหน้า ครีมทามือเล็กๆ สำหรับสแกนนิ้วเพราะเป็นคนนิ้วลอกค่ะ ปากกา แฟ้มใสใส่เอกสาร) หลังจากนั้นก็สแกนกระเป๋าค่ะ (สายชาร์ต,หูฟัง, Ipad, power bank เข้าไม่ได้นะคะ ฝากได้แต่ไม่รับรองเรื่องสูญหายค่า ที่นี่รับฝากแค่มือถือเครื่องเดียวค่ะ)

ด่านแรก : คัดเอกสาร

สำหรับเอกสารที่เราเตรียมไป (ที่ต้องใช้แน่ๆ) คือ
1. Passport ปัจจุบันและเล่มเก่า
2. DS160 Confirmation
3. ใบเสร็จจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่า
4. ใบเสร็จ SEVIS (I-901)
5. I-20
6. Bank Statement
7. Transcript

และเอกสารประกอบการสัมภาษณ์ เตรียมไปเผื่อท่านกงสุลก็เรียกดูเพิ่มเติม (ทั้งหมดเป็นตัวจริง ไม่ถ่ายสำเนาเลยค่ะ)
1. สมุดบัญชีสปอนเซอร์และของเรา
2. หนังสือรับรองการทำงานฉบับภาษาอังกฤษ
3. หนังสือตอบรับเข้าเรียนจากโรงเรียนที่สมัครไป
4. เอกสารธุรกิจของสปอนเซอร์ (เช่น ใบจดทะเบียนการค้าต่างๆ)
5. รูปถ่ายปัจจุบัน 2 รูป
6. ทะเบียนบ้าน

พอไปถึงด่านแรกก็ยื่นเอกสารที่ต้องใช้ ตาม 7 ข้อแรกให้เจ้าหน้าที่ค่ะ ซึ่งเจ้าหน้าที่คัดไปแค่
- Passport เล่มใหม่ / DS160/ I20 / SEVIS (I-901) / ใบรับรองงาน และ Transcript คัดใส่แฟ้มใสของสถานทูตให้ค่ะ (ที่เหลือเก็บเข้าแฟ้มตัวเอง)

ด่านสอง : สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่คนไทย

ด่านนี้สำคัญมากค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่จากด่านนี้จะดูเราตั้งแต่ภาพลักษณ์ และสัมภาษณ์ข้อมูลเบื้องต้น ถ้าด่านนี้ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งในเรื่องเอกสารและอื่น ๆ พอไปถึงด่านท่านกงสุลก็อาจจะถามเรานิดเดียวค่ะ แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องเอกสาร อาจจะต้องให้ท่านกงสุลพิจารณาขอดูเอกสารเพิ่มเติมมากขึ้น
แนะนำให้พอไปถึงด่านนี้สวัสดีค่ะ ไหว้งาม ๆ ยิ้ม ยิ้มและตอบอย่างมั่นใจค่ะ คำถามที่เราโดนถามคือ

- ไปทำอะไรที่อเมริกาคะ : ไปเรียนภาษาค่ะ หลังจากนั้นตั้งใจต่อโทที่นั่นค่ะ
- ไปนานแค่ไหนคะ : 6 เดือนค่ะ (ตอบไปตามที่ I20 ระบุเวลามาค่ะ)
- ทำงานที่บริษัทไหนคะ : บริษัท xxxxx ค่ะ
- ทำที่นี่นานกี่เดือนแล้วคะ : 9 เดือนค่ะ
- ใครแนะนำโรงเรียนนี้ให้คะ : หาข้อมูลใน Internet มาเองค่ะ เห็นว่าเป็นโรงเรียนที่มีมาตรฐาน
- มีญาติที่อเมริกาไหมคะ : มีญาติห่าง ๆ ค่ะ ไม่ค่อยสนิทค่ะ (จริงๆ เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทค่ะ แต่อยู่คนละรัฐกับที่เราจะไป เราเลยตัดปัญหาบอกไปว่าไม่-สนิทค่ะ กลัวเค้าคิดว่าจะหนีไปอยู่กับญาติ ซึ่งเราไม่คิดจะไปโรบินฮู้ดอยู่แล้วค่ะ)
- อยู่ที่ไหนคะ : (ทำหน้าคิดนิดนึง) วอชิงตัน ดีซีนะคะ (ยิ้มงามๆ 55)

หลังจากนั้นก็สแกนนิ้วมือ รับแฟ้มเอกสารคืน แล้วไปด่านต่อไปค่ะ

ด่านสุดท้าย : ด่านท่านกงสุล

ด่านนี้จะได้สัมภาษณ์กับท่านกงสุลชาวต่างชาติ แอบตื่นเต้นเล็กน้อยค่ะ เราเตรียมคำตอบภาษาไทยไป
เพื่อความถูกต้องชัดเจนของข้อมูลค่ะ สำหรับขอ VISA F1 ไม่ต้องกังวลเรื่องการสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษนะคะ ถ้าพูดไม่คล่อง พูดภาษาไทยไปจะทำให้ข้อมูลถูกต้องมากขึ้นค่ะ พอเราพูดภาษาไทยไป ท่านกงสุลก็พูดภาษาไทยกับเราเลยค่ะ (ยิ้มแย้มเป็นกันเองมาก ๆ ด้วยค่ะ แถมใส่เสื้อลายดอกเตรียมรับสงกรานต์ด้วยค่ะ น่ารักมาก ๆ)

ถึงคิวเราแล้ว ก็ยิ้มหวาน ไหว้งาม ๆ ทำหน้ามั่นใจเกินร้อย “สวัสดีค่ะ” พร้อมยื่นแฟ้มเอกสารให้
ท่านกงสุลถามเรานิดเดียวเองค่ะ (ใช้เวลาไม่น่าถึง 1 นาที)

- ไปทำอะไรอเมริกาครับ : ตั้งใจไปเรียนต่อโทที่นั่นค่ะ ตอนนี้เลยลงเรียนภาษาไว้ก่อนค่ะ
- ไปกับใครครับ : ไปคนเดียวค่ะ
- ใครออกค่าใช้จ่ายให้ครับ : แม่ค่ะ
- แม่ทำอะไรครับ : ทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับอพาร์ทเม้นท์ค่ะ
- กลับไทยมาจะทำงานอะไรครับ : ทำด้านโฆษณาการตลาดค่ะ
- วีซ่าคุณผ่านแล้วครับ ยื่นมือขวาสแกนนิ้วมือเลยครับ : ขอบคุณค่าาาาาาาาาาาา

(หา เสร็จแล้วเหรอค่าาา Statement ไม่ดูเลยค่ะ เอกสารที่เตรียมไปก็ไม่ดูเลยค่ะ คิดในใจพร้อมสแกนนิ้วมือและยิ้มให้ท่านกงสุลหน้าบานมากค่ะ)
หลังจากนั้นท่านกงสุลก็คืน transcript กับ จดหมายรับรองงานให้ และนำ passport กับ I20 ไป ซึ่งจะส่งคืนมาทางไปรษณีย์ 3-4 วันทำการค่ะ

เราคิดว่าถ้าเตรียมเอกสารให้พร้อม (เอาไปตามลิสท์ดีกว่าขาดค่ะ) กรอก DS160 ตามความจริง และให้ถูกต้องที่สุด (เช็คหลาย ๆ รอบนะคะ) สัมภาษณ์ตาม DS160  และโดยส่วนตัวเราจบมาก็เริ่มทำงานมาสองที่ค่ะ ไม่เคยว่างงาน Transcript 3 ขึ้นค่ะ
ผลบุญนี้น่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลมาให้ผ่าน VISA อย่างง่ายดาย ยิ้ม

เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังจะไปขอ VISA ทุกคนนะคะ ขอให้โชคดีได้เดินทางไปหาประสบการณ์อย่างที่ตั้งใจไว้ค่ะ สำหรับใครที่มีแพลนจะไป San Fran เดือนมิถุนายนนี้ติดต่อหลังไมค์ได้ค่า

ขอเตรียมตัวไปจัดของ แล้วจะมาแชร์ประสบการณ์ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ กับการเดินทางไปเรียนที่ San Fran คนเดียวครั้งแรก ว่าจะรอด หรือไม่รอด ค่ะ 5555 ยิ้ม  ฝากตัวด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่