(กระทู้ Review) ประสบการณ์ฝึกงานที่สถานทูตอเมริกา กรุงเทพฯ และสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เพิ่งได้รู้!

จบปี 3 แล้วฝึกงานที่ไหน ?
    
     ใครหลายคนโดยเฉพาะนิสิต-นักศึกษาที่เรียนจบปี 3 คงได้ยินคำถามนี้กันบ่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงเทอม 2 ของการเรียนหรือช่วงปิดเทอมหลังจบปี 2 แรก ๆ ที่บรรดาเพื่อน ๆ ต่างหาที่ฝึกงานกันอย่างครึกครื้น ในหลาย ๆ คณะ การฝึกงานเป็นเรื่องบังคับและถูกบรรจุไว้ในหลักสูตร แต่สำหรับบางคณะ (เช่นคณะเราเป็นต้น) ก็ไม่ได้บังคับว่าต้องฝึกงาน ยังไงก็ตาม ส่วนตัวแล้วเราคิดว่าการฝึกงานเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่ยังหาตัวเองไม่เจอ หรือคิดว่าหาเจอแล้วแต่ยังไม่แน่ใจ หรือกระทั่งคนที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจนในอนาคต การฝึกงานสามารถให้คำตอบอะไรกับเราได้หลาย ๆ อย่างค่ะ วันนี้ก็เลยอยากจะมารีวิวประสบการณ์ฝึกงานของตัวเองให้กับเพื่อน ๆ ชาวพันทิปได้ฟังกัน โดยสถานที่ฝึกงานของเราก็คือแผนก Public Affairs ที่สถานทูตอเมริกา (อา อา อา อา!) กรุงเทพฯ นั่นเอง! (กระทู้นี้ขออนุญาต tag เรื่องการเรียนต่อด้วยนะคะ อยากจะพูดเรื่องนี้ด้วยเพราะเป็นงานส่วนหนึ่งของฝ่ายที่เราทำ เห็นว่าเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากไปเรียนต่ออเมริกาค่ะ) P.S. ก่อนเขียนกระทู้นี้ขออนุญาตเจ้านายแล้วค่ะ อิอิ
    
     แผนก Public Affairs หรือถ้าแปลเป็นภาษาไทยให้เข้าใจง่าย ๆ ก็ประมาณ “แผนกประชาสัมพันธ์” ของสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทยที่เราฝึกงานอยู่ประกอบไปด้วยแผนกย่อย ๆ อีกหลายแผนกค่ะ แล้วทุกแผนกก็รับนักศึกษาฝึกงานหมดเลย ใครสนใจแผนกไหนเป็นพิเศษก็ลองสมัครดูได้นะคะ (จบปี 4 แล้วก็ยังฝึกได้น้า ถ้ายังอยากหาตัวเองต่อก่อนทำงานจริง) แผนกต่าง ๆ ในฝ่ายของเราได้แก่

     1.    Regional English Language Office (RELO) หรือ สำนักงานโปรแกรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ มีหน้าที่ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ และการใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิผลในฐานะเครื่องมือการสื่อสารระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสำนักงานนี้ได้มีการจัดอบรมและสัมมนาอย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาศักษยภาพของคณาจารย์ในการจัดการห้องเรียน รวมไปถึงการแนะนำสื่อการเรียนการสอนใหม่ๆให้แก่บุคลากรทางการศึกษาในประเทศไทย อีกทั้งโอกาสในการพัฒนาด้านวิชาชีพของครูผู้สอนภาษาอังกฤษ เช่น E-Teacher Scholarship Programs, Shaping the Way We Teach English Webinar, Shaping the Way MOOC รวมถึงการส่งผู้เชี่ยวชาญไปศึกษาและดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

     2.    Information and Media Office/ Media Relations คือแผนกที่คอยดูแลเรื่องสื่อต่าง ๆ อาทิ สื่อวิทยุ สื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับสถานทูตอเมริกาค่ะ คลิปวีดิโอประจำเทศกาลน่ารัก ๆ ก็เป็นผลิตผลมาจากแผนกนี้ด้วยเช่นกัน สำหรับแผนกนี้ปีนี้รับนักศึกษาฝึกงาน 3 ด้านด้วยกันก็คือ Social Media Intern (คอยดูแลเรื่องสื่อออนไลน์), Media Intern (คอย monitor ข่าวสารประจำวันที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและสถานทูต) และ Translation Intern (คอยแปลข่าวสารต่าง ๆ เป็นภาษาไทยหรือจากไทยเป็นอังกฤษ)






     3.    Information Resource Center คือแผนกที่คอยอำนวยความสะดวกเรื่องสื่อหนังสือ ภาพยนตร์ วีดิทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับอเมริกา โดยนักศึกษาฝึกงานแผนกนี้ก็ต้องมีความรู้ด้านสารสนเทศและการจัดการห้องสมุดเพื่อมาช่วยทำงานเรื่องการจัดการทรัพยากรของสถานทูตค่ะ (แผนก IRC มีห้องสมุดที่ชั้น 9 ของตึก GPF ถนนวิทยุด้วยนะคะ ใครอยู่แถวนี้สามารถแวะมายืมหนังสือ/หนังได้นะ)

     ส่วนแผนกย่อยที่จะขอรีวิวละเอียดหน่อยก็คือแผนกที่เราฝึกงานอยู่ซึ่งก็คือ Cultural Affairs Unit ค่ะ แปลเป็นไทยก็คือ “ฝ่ายวัฒนธรรม” แล้วฝ่ายวัฒนธรรมทำอะไรกันล่ะ?



     ฝ่ายวัฒนธรรมก็คือฝ่ายที่คอยดูแลเรื่องต่าง ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมอเมริกันค่ะ สิ่งที่ฝ่ายเรารับผิดชอบเด่น ๆ เลยก็ได้แก่

     1.    EducationUSA Thailand: ให้คำแนะนำและสนับสนุนให้นักเรียนไทยไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา



     การศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และการที่นักเรียนไทยไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ ก็ถือเป็นการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกันของทั้งสองประเทศทางหนึ่ง  ทางสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยมีหน่วยงานคือ EducationUSA Thailand คอยสนับสนุนเรื่องการเรียนต่อ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินชื่อ EducationUSA มาก่อนแต่คิดไปว่าเป็นชื่อ agency จริง ๆ แล้วไม่ใช่นะคะ EducationUSA เป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับสถานทูตสหรัฐอเมริกาโดยตรง มีหน้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา “โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย” กิจกรรมที่ EducationUSA Thailand จัดได้แก่

     -    EducationUSA Fair ซึ่งเป็นนิทรรศการเรียนต่ออเมริกาที่ทางสถานทูตจัดเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้เพิ่งจัดไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาค่ะ



     -    นิทรรศการเรียนต่อต่างประเทศที่จัดร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ทางสถานทูตได้ไปจัดบรรยายเรื่องการศึกษาต่อที่สถาบันภาษา AUA ที่จามจุรีแสควร์ และในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ทางสถานทูตก็จะไปร่วมจัดกิจกรรมกับทาง ก.พ. ที่    OCSC Fair ที่ Royall Paragon Hall ด้วยค่ะ



     -    การให้คำปรึกษาด้านการเรียนต่อโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

     -    การจัดบรรยายเกี่ยวกับการเรียนต่อ ทั้งเรื่องทุนการศึกษาและการเตรียมความพร้อมก่อนไปอเมริกา

     สำหรับประเทศไทย EducationUSA มี Facebook Page คือ https://www.facebook.com/EducationUSAThailand ที่เราอยากเชิญชวนให้ทุกคนที่สนใจเรื่องการเรียนต่อที่อเมริกาไปกดไลค์ เพราะเพจนี้จะคอยอัพเดทข้อมูลเรื่องการเรียนภาษาและการเรียนต่อตั้งแต่ระดับมัธยมปลายไปถึงปริญญาเอก นอกจากนี้ทางเพจยังจะคอยอัพเดทกิจกรรมต่าง ๆ ที่สถานทูตจะจัดขึ้นเช่น นิทรรศการ, การบรรยาย, ทุนการศึกษา, เคล็ดลับเรื่องการเรียนต่อ, คอร์สเรียนฟรีออนไลน์ ฯลฯ อยู่ตลอด หรือถ้ามีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับการเรียนต่อก็สามารถไปถามได้ที่เพจ EducationUSA Thailand ได้เช่นกันค่ะ

     สิ่งที่เราได้ลองทำเกี่ยวกับ EducationUSA ในฐานะนักศึกษาฝึกงานก็เช่นช่วยสอบถามเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่จะไปเรียนต่อที่อเมริกาถึงปัญหาที่พบเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลเรื่องเรียนต่อเพื่อจะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาพัฒนา EducationUSA Thailand ให้สามารถให้บริการผู้ที่สนใจเรื่องเรียนต่ออเมริกาได้ดีขึ้นต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ก็ได้ช่วยให้ความเห็นเรื่องการออกแบบสื่อเพื่อโปรโมตหน่วยงาน เช่น สมุดโน้ต, โปสเตอร์ เพื่อให้โดนใจกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้นด้วยค่ะ

(มีต่อ)