เห็นตอนนี้ PPTV มีซีรีส์เกาหลีเกี่ยวกับหมอที่เป็นออทิสติก ที่เป็นซาวองค์ เลยสงสัยว่ามันคืออะไร แล้วเกี่ยวยังไงกับความสามารถพิเศษๆของหมอพัคชีออน ก็เลย คิดว่าอาจจะมีคนอยากรู้เหมือนกัน เลยเอาโพสต์นี้มาแชร์ให้อ่านกันค่ะ
Savant Syndrome - Kim Peek
ซาวองค์ เป็นคำเรียกคนที่มีความผิดปกติทางสมอง แต่กลับมีความสามารถทางสมองในบางมิติได้อย่างน่ามหัศจรรย์จนถึงขั้นอัจฉริยะ ถึงแม้จะพบซาวองต์ได้ในเด็กออทิสติก แต่ซาวองต์กับออทิสติกก็ไม่เหมือนกัน เพราะเด็กออทิสติคทุกคนไม่ได้เป็นซาวองต์ มีเพียงหนึ่งในสิบของเด็กออทิสติกเท่านั้นที่เป็นซาวองต์ได้
ปี ค.ศ.1951 ที่เมืองซอลท์ เลค ซิตี้ ได้มีเด็กคนหนึ่งเกิดขึ้นมา เขามีชื่อว่า คิม พีค เขาถูกวินิจฉัยว่ามีอาการปัญญาอ่อนระดับรุนแรง และพ่อแม่ของเขาได้รับคำแนะนำให้ฝากคิมไว้กับสถาบันดูแลเด็กที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก แล้วให้ลืมเลือนเรื่องราวเกี่ยวกับลูกชายคนนี้ไปเสีย แต่พ่อเขาปฏิเสธข้อเสนอนี้ไป ในเวลานั้นไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นซาวองต์
พอ สองขวบ คิมแสดงอัจฉริยภาพโดยการอ่านหนังสือทั้งหมดในบ้าน ไม่มีใครสอนให้คิมอ่าน ไม่มีใครรู้ว่าคิมเรียนรู้ในการอ่านได้อย่างไร วิธีที่คิมอ่านหนังสือคือ สแกนตาซ้ายที่หน้าซ้าย และสแกนตาขวาที่หน้าขวาของหนังสือ คิมใช้เวลาอ่านและจดจำทุกอย่างได้ภายในเวลาราวๆสิบวินาทีต่อหนึ่งหน้าหนังสือ นอกจากนี้ คิมสามารถคิดคำนวณปฏิทินในใจ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากๆ เช่นหากเราถามว่า วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี 1930 เป็นวันอะไร เขาจะสามารถตอบได้อย่างรวดเร็วว่า เป็นวันศุกร์ เสาร์ หรือวันจันทร์
คิมอ่านหนังสือราวกับเขาเป็นหลุมดำที่ดูดข้อมูลทุกอย่างให้หายวับไป เขาสามารถจดจำข้อความในหนังสือทุกหน้าทุกบรรทัดได้อย่างขึ้นใจรวมทั้งหมดแล้วประมาณ 12,000 เล่ม และภายหลังเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน คิมพัฒนาความสามารถทางด้านดนตรีขึ้นมาจนเป็นเหตุให้พ่อกับคิมตกลงว่าจะไม่ไปดูการแสดงสดอีก เพราะบ่อยครั้งคิมจะลุกขึ้นตะโกนขณะดนตรีกำลังเล่นอยู่ว่า "เดี๋ยวก่อนนะ ตะกี้เล่นผิดคีย์แล้ว"
ในเวลาต่อมาคิมได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับ แบร์รี่ มอร์โรว์ ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Rainman และนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์นำแสดงโดย ดัสติน ฮอฟแมน ภายหลังภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์ถึงสี่รางวัล
ในสารคดีชีวประวัติของคิม มีตอนหนึ่งพ่อและลูกชายที่ต่างสูงวัยด้วยกันทั้งคู่เดินเคียงกันไปท่ามกลางแมกไม้ในบรรยากาศมืดครื้ม ก่อนหน้านั้นคิมหัวเราะร่า "ผมกับพ่อ เราร่วมแบ่งปันเงาเดียวกัน" พ่อของคิมยอมรับ พวกเขาเป็นเงาของกันและกัน แม้จะมีสมองอัจฉริยะแต่คิมก็ยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ พ่อของเขาต้องดูแลและทำทุกอย่างให้คิมราวกับเขาเป็นเด็กไม่กี่ขวบ แม้ในกิจกรรมง่ายๆเช่นการแปรงฟัน หรือหวีผม ฟราน บิดาของคิมกล่าวว่างานของเขาคือการอุทิศตนให้แก่การดูแลลูกชายเป็นเวลา 30 ชั่วโมงต่อวัน และต้องทำงานสิบวันต่อสัปดาห์
ดัส ติน ฮอฟแมน พูดกับคิมเมื่อพบกันว่า I may be a star but you are the heaven. แบร์รี่ มอร์โรว์ มอบรางวัลออสการ์ที่ได้รับจากการเขียนบทเรื่องเรนแมนให้แก่คิม คิมได้รับเชิญให้เดินทางไปทั่วอเมริกาพร้อมกับตุ๊กตาออสการ์ัตัวนั้น ผู้คนมากมายต้องการทดสอบความจำของเขาด้วยคำถามมากมากทั้งเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ ดนตรี ศิลปะ บุคคลสำคัญของโลก คณิตศาสตร์ วรรณกรรม ความรู้ทั่วไป และคิมไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง เขาถึงกับเคยได้รับฉายาสดุดีว่า คิมพิวเตอร์ เลยทีเดียว
(ในปี 2009 คิม พีค ได้เสียชีวิตลงในวัย 58 ปี ด้วยอาการหัวใจวายที่โรงพยาบาลในเมืองซอลท์ เลค ซิตี้ รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา)
CR:
www.facebook.com/PPTVHD
เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับ ซาวองค์ ซินโดรม ซีรี่ย์เกาหลี Good Doctor ที่ฉายอยู่
Savant Syndrome - Kim Peek
ซาวองค์ เป็นคำเรียกคนที่มีความผิดปกติทางสมอง แต่กลับมีความสามารถทางสมองในบางมิติได้อย่างน่ามหัศจรรย์จนถึงขั้นอัจฉริยะ ถึงแม้จะพบซาวองต์ได้ในเด็กออทิสติก แต่ซาวองต์กับออทิสติกก็ไม่เหมือนกัน เพราะเด็กออทิสติคทุกคนไม่ได้เป็นซาวองต์ มีเพียงหนึ่งในสิบของเด็กออทิสติกเท่านั้นที่เป็นซาวองต์ได้
ปี ค.ศ.1951 ที่เมืองซอลท์ เลค ซิตี้ ได้มีเด็กคนหนึ่งเกิดขึ้นมา เขามีชื่อว่า คิม พีค เขาถูกวินิจฉัยว่ามีอาการปัญญาอ่อนระดับรุนแรง และพ่อแม่ของเขาได้รับคำแนะนำให้ฝากคิมไว้กับสถาบันดูแลเด็กที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก แล้วให้ลืมเลือนเรื่องราวเกี่ยวกับลูกชายคนนี้ไปเสีย แต่พ่อเขาปฏิเสธข้อเสนอนี้ไป ในเวลานั้นไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นซาวองต์
พอ สองขวบ คิมแสดงอัจฉริยภาพโดยการอ่านหนังสือทั้งหมดในบ้าน ไม่มีใครสอนให้คิมอ่าน ไม่มีใครรู้ว่าคิมเรียนรู้ในการอ่านได้อย่างไร วิธีที่คิมอ่านหนังสือคือ สแกนตาซ้ายที่หน้าซ้าย และสแกนตาขวาที่หน้าขวาของหนังสือ คิมใช้เวลาอ่านและจดจำทุกอย่างได้ภายในเวลาราวๆสิบวินาทีต่อหนึ่งหน้าหนังสือ นอกจากนี้ คิมสามารถคิดคำนวณปฏิทินในใจ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากๆ เช่นหากเราถามว่า วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี 1930 เป็นวันอะไร เขาจะสามารถตอบได้อย่างรวดเร็วว่า เป็นวันศุกร์ เสาร์ หรือวันจันทร์
คิมอ่านหนังสือราวกับเขาเป็นหลุมดำที่ดูดข้อมูลทุกอย่างให้หายวับไป เขาสามารถจดจำข้อความในหนังสือทุกหน้าทุกบรรทัดได้อย่างขึ้นใจรวมทั้งหมดแล้วประมาณ 12,000 เล่ม และภายหลังเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน คิมพัฒนาความสามารถทางด้านดนตรีขึ้นมาจนเป็นเหตุให้พ่อกับคิมตกลงว่าจะไม่ไปดูการแสดงสดอีก เพราะบ่อยครั้งคิมจะลุกขึ้นตะโกนขณะดนตรีกำลังเล่นอยู่ว่า "เดี๋ยวก่อนนะ ตะกี้เล่นผิดคีย์แล้ว"
ในเวลาต่อมาคิมได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับ แบร์รี่ มอร์โรว์ ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Rainman และนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์นำแสดงโดย ดัสติน ฮอฟแมน ภายหลังภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์ถึงสี่รางวัล
ในสารคดีชีวประวัติของคิม มีตอนหนึ่งพ่อและลูกชายที่ต่างสูงวัยด้วยกันทั้งคู่เดินเคียงกันไปท่ามกลางแมกไม้ในบรรยากาศมืดครื้ม ก่อนหน้านั้นคิมหัวเราะร่า "ผมกับพ่อ เราร่วมแบ่งปันเงาเดียวกัน" พ่อของคิมยอมรับ พวกเขาเป็นเงาของกันและกัน แม้จะมีสมองอัจฉริยะแต่คิมก็ยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ พ่อของเขาต้องดูแลและทำทุกอย่างให้คิมราวกับเขาเป็นเด็กไม่กี่ขวบ แม้ในกิจกรรมง่ายๆเช่นการแปรงฟัน หรือหวีผม ฟราน บิดาของคิมกล่าวว่างานของเขาคือการอุทิศตนให้แก่การดูแลลูกชายเป็นเวลา 30 ชั่วโมงต่อวัน และต้องทำงานสิบวันต่อสัปดาห์
ดัส ติน ฮอฟแมน พูดกับคิมเมื่อพบกันว่า I may be a star but you are the heaven. แบร์รี่ มอร์โรว์ มอบรางวัลออสการ์ที่ได้รับจากการเขียนบทเรื่องเรนแมนให้แก่คิม คิมได้รับเชิญให้เดินทางไปทั่วอเมริกาพร้อมกับตุ๊กตาออสการ์ัตัวนั้น ผู้คนมากมายต้องการทดสอบความจำของเขาด้วยคำถามมากมากทั้งเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ ดนตรี ศิลปะ บุคคลสำคัญของโลก คณิตศาสตร์ วรรณกรรม ความรู้ทั่วไป และคิมไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง เขาถึงกับเคยได้รับฉายาสดุดีว่า คิมพิวเตอร์ เลยทีเดียว
(ในปี 2009 คิม พีค ได้เสียชีวิตลงในวัย 58 ปี ด้วยอาการหัวใจวายที่โรงพยาบาลในเมืองซอลท์ เลค ซิตี้ รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา)
CR: www.facebook.com/PPTVHD