คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 31
พอดีอยู่ตปท.มานิดหน่อย ขออนุญาติเล่าให้ฟัง บ้านผมไม่ได้รวยอะไร ผมมาแบบไม่รู้จักใครทั้งนั้น ไม่มีครอบครัวไม่มีเพื่อน มาคนเดียว
ผมไปเรียนเช้า พอ11โมงเลิกรอบเช้านั่งรถเมล์ไปทำงานร้านอาหารไทยมื้อเที่ยง ล้างจานบัสบอยอะไรไปเรื่อย บ่ายสองผมออกจากร้าน นั่งรถเมล์กลับมาเรียนต่อรอบบ่ายเลิกห้าโมง
นั่งกลับไปล้างจานต่อรอบมื้อเย็น กลับถึงห้องประมาณสี่ห้าทุ่ม บางวันก็ทำรอบเย็นอย่างเดียว บางเทอมตารางเรียนค่ำทำรอบเย็นไม่ได้เลย ไม่ค่อยจะพอกิน วนเวียนอยู่อย่างนี้จนจบออกมาได้
ถามว่าลำบากไหม ก็บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรลำบากเกินกำลัง คุณสู้ไหมล่ะ? ผมได้อะไรมากมายจากการมาครั้งนี้ ได้ลิ้มลองเกือบทุกรสชาติชีวิต พอเรียนจบ นั่นล่ะระยะเวลาวัดใจ
หลังจากจบผมทำงานพาร์ทไทม์ค่าแรงขั้นต่ำเป็นปี อันนี้ล่ะลำบากแล้ว ผมตั้งใจว่าจะไม่ใช้เงินทางบ้านอีก ทำงานหาเงินจนหัวปั่นไปหมด เอามาจ่ายค่าเช่าห้องค่าข้าว ไม่เคยมีเหลือเก็บเลย แต่ผมก็ภูมิใจนะ ว่าผมอยู่ได้ด้วยตัวเอง
ที่บ้านโทรคุยกันกี่ทีพ่อผมก็บอกว่าให้กลับบ้านเถอะ ไปอยู่ทนทำอะไรที่นู่น มันเสียเวลาไหม?
ผมไม่เคยคิดว่ามมาเรียนแล้วจะกลับไปทำงานเมืองไทย ผมมาถึงนี่แล้วผมก็จะลองดูว่าจะไปได้สีกกี่น้ำ เพื่อนๆสมัยเรียนกลับประเทศกันไปหมด ย้ายเมืองกันกระจัดกระจาย ผมก็ย้ายเหมือนกัน ออกเดินทางไปตามกลิ่นเงิน ที่ไหนมีงานผมก็ไปที่นั่น
บางเดือนพอกิน บางคืนอดอยากนอนไม่หลับ ท้องมันเสียดจนแสบไปหมด ผมคิดถึงพี่คนงานพม่าที่บ้าน บางทีพี่เค้าอาจมีบางวันที่ต้องรู้สึกแบบนี้ แต่ยังไงรุ่งขึ้นก็ต้องลุกไปทำงานทั้งวันอีก
ไปซื้อของที่ตลาดทำกับข้าว อยากกินอาหารทะเลได้แค่มองน้ำลายย้อย ผมไม่มีปัญญาซื้อมากิน ถ้าอยู่บ้านที่ไทยผมอยากกินอะไรก็ได้กิน แต่มันมีความหมายสำหรับผมไหม? ผมโตแล้ว อยากกินอะไรผมต้องหามาด้วยตัวเอง หมดเวลาเล่นเป็นเด็กอมมือแล้ว
จนผมหลุดพ้นจากวังวนร้านอาหาร ได้งานที่ดีทำ
ถึงวันนี้มองย้อนกลับไปก็เห็นว่ามันคุ้มค่าที่อดทนต่อสู้มา คุ้มค่าที่วันนั้นผมไม่ถอดใจหนีเตลิดกลับประเทศ ถ้าผมไม่ได้มา ผมคงไม่ได้เติบโตขึ้นขนาดนี้ ถ้าทำงานอยู่บ้าน สิบปีจะมาได้ขนาดนี้ไหมยังไม่รู้เลย
ผมจะบอกอะไรคุณสองสามอย่าง เรื่องเรียนน่ะสำคัญแต่ไม่ที่สุด ที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนาบุคลิกภาพของคุณ ความเป็นคนของคุณ
คุณเป็นคนยังไง? สิ่งนี้ต่างหากเป็นตัวกำหนดอนาคตของคุณ ไม่ใช่เกรด หรือสถาบันการศึกษาอะไรหรอก
ออกไปเจอโลกกว้าง ไปกัดฟันสู้กับอะไรบางอย่าง ผูกมิตรกับคนแปลกหน้า ทบทวนความคิดขัดเกลาการตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ให้คุณเป็นคนที่เข้ากับคนได้ทุกผู้ ให้คุณรู้จักความลำบาก คุณต้องโดนหักหลัง โดนทรยศเสียบ้าง
วันหนึ่งอะไรๆจะเข้าที่เข้าทางขึ้นมาเอง และคุณจะไม่รู้สึกหลงทาง ไม่ลังเลว่าคุณทำอะไรอยู่ ไม่รู้สึกถึงความไร้แก่นสารของงานที่คุณทำ คุณรู้ไหมว่ามีคนมากมายดีพร้อมทุกอย่างทั้งเงินทองการงานและครอบครัวที่ดี แต่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าในจิตใจ
แต่ถ้าคุณสร้างทุกสิ่งขึ้นมาด้วยมือของคุณเอง คุณจะไม่เป็นอย่างนั้น คุณจะมีความสุข เพราะคุณรู้แล้วว่าความทุกข์เป็นยังไง
ผมไปเรียนเช้า พอ11โมงเลิกรอบเช้านั่งรถเมล์ไปทำงานร้านอาหารไทยมื้อเที่ยง ล้างจานบัสบอยอะไรไปเรื่อย บ่ายสองผมออกจากร้าน นั่งรถเมล์กลับมาเรียนต่อรอบบ่ายเลิกห้าโมง
นั่งกลับไปล้างจานต่อรอบมื้อเย็น กลับถึงห้องประมาณสี่ห้าทุ่ม บางวันก็ทำรอบเย็นอย่างเดียว บางเทอมตารางเรียนค่ำทำรอบเย็นไม่ได้เลย ไม่ค่อยจะพอกิน วนเวียนอยู่อย่างนี้จนจบออกมาได้
ถามว่าลำบากไหม ก็บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรลำบากเกินกำลัง คุณสู้ไหมล่ะ? ผมได้อะไรมากมายจากการมาครั้งนี้ ได้ลิ้มลองเกือบทุกรสชาติชีวิต พอเรียนจบ นั่นล่ะระยะเวลาวัดใจ
หลังจากจบผมทำงานพาร์ทไทม์ค่าแรงขั้นต่ำเป็นปี อันนี้ล่ะลำบากแล้ว ผมตั้งใจว่าจะไม่ใช้เงินทางบ้านอีก ทำงานหาเงินจนหัวปั่นไปหมด เอามาจ่ายค่าเช่าห้องค่าข้าว ไม่เคยมีเหลือเก็บเลย แต่ผมก็ภูมิใจนะ ว่าผมอยู่ได้ด้วยตัวเอง
ที่บ้านโทรคุยกันกี่ทีพ่อผมก็บอกว่าให้กลับบ้านเถอะ ไปอยู่ทนทำอะไรที่นู่น มันเสียเวลาไหม?
ผมไม่เคยคิดว่ามมาเรียนแล้วจะกลับไปทำงานเมืองไทย ผมมาถึงนี่แล้วผมก็จะลองดูว่าจะไปได้สีกกี่น้ำ เพื่อนๆสมัยเรียนกลับประเทศกันไปหมด ย้ายเมืองกันกระจัดกระจาย ผมก็ย้ายเหมือนกัน ออกเดินทางไปตามกลิ่นเงิน ที่ไหนมีงานผมก็ไปที่นั่น
บางเดือนพอกิน บางคืนอดอยากนอนไม่หลับ ท้องมันเสียดจนแสบไปหมด ผมคิดถึงพี่คนงานพม่าที่บ้าน บางทีพี่เค้าอาจมีบางวันที่ต้องรู้สึกแบบนี้ แต่ยังไงรุ่งขึ้นก็ต้องลุกไปทำงานทั้งวันอีก
ไปซื้อของที่ตลาดทำกับข้าว อยากกินอาหารทะเลได้แค่มองน้ำลายย้อย ผมไม่มีปัญญาซื้อมากิน ถ้าอยู่บ้านที่ไทยผมอยากกินอะไรก็ได้กิน แต่มันมีความหมายสำหรับผมไหม? ผมโตแล้ว อยากกินอะไรผมต้องหามาด้วยตัวเอง หมดเวลาเล่นเป็นเด็กอมมือแล้ว
จนผมหลุดพ้นจากวังวนร้านอาหาร ได้งานที่ดีทำ
ถึงวันนี้มองย้อนกลับไปก็เห็นว่ามันคุ้มค่าที่อดทนต่อสู้มา คุ้มค่าที่วันนั้นผมไม่ถอดใจหนีเตลิดกลับประเทศ ถ้าผมไม่ได้มา ผมคงไม่ได้เติบโตขึ้นขนาดนี้ ถ้าทำงานอยู่บ้าน สิบปีจะมาได้ขนาดนี้ไหมยังไม่รู้เลย
ผมจะบอกอะไรคุณสองสามอย่าง เรื่องเรียนน่ะสำคัญแต่ไม่ที่สุด ที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนาบุคลิกภาพของคุณ ความเป็นคนของคุณ
คุณเป็นคนยังไง? สิ่งนี้ต่างหากเป็นตัวกำหนดอนาคตของคุณ ไม่ใช่เกรด หรือสถาบันการศึกษาอะไรหรอก
ออกไปเจอโลกกว้าง ไปกัดฟันสู้กับอะไรบางอย่าง ผูกมิตรกับคนแปลกหน้า ทบทวนความคิดขัดเกลาการตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ให้คุณเป็นคนที่เข้ากับคนได้ทุกผู้ ให้คุณรู้จักความลำบาก คุณต้องโดนหักหลัง โดนทรยศเสียบ้าง
วันหนึ่งอะไรๆจะเข้าที่เข้าทางขึ้นมาเอง และคุณจะไม่รู้สึกหลงทาง ไม่ลังเลว่าคุณทำอะไรอยู่ ไม่รู้สึกถึงความไร้แก่นสารของงานที่คุณทำ คุณรู้ไหมว่ามีคนมากมายดีพร้อมทุกอย่างทั้งเงินทองการงานและครอบครัวที่ดี แต่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าในจิตใจ
แต่ถ้าคุณสร้างทุกสิ่งขึ้นมาด้วยมือของคุณเอง คุณจะไม่เป็นอย่างนั้น คุณจะมีความสุข เพราะคุณรู้แล้วว่าความทุกข์เป็นยังไง
แสดงความคิดเห็น
ไปเรียนต่างประเทศลำบากมากมั้ยคะ
เรียนไปทำงานไปด้วยจะลำบากมากมั้ยคะ งานบ้านก็พอได้ค่ะ หนูตั้งงบไว้ปีละล้าน จะพอมั้ยไม่รู้ค่าครองชีพก็แพงไม่ใช่น้อย แต่ค่าจ้างงานเห็นดูๆแล้วได้เดือนละ40000 ถ้าทำหลังเลิกเรียนทุกวัน ก็พอจะพอจ่ายค่าที่พักไหวค่ะ แต่ก็กลัวว่าการเรียนจะตก
****เลยอยากสอบถามคนที่เรียนไปทำงานไปว่า ลำบากมากมั้ยคะ แล้วกระทบต่อการเรียนมากมั้ย*** เพราะหนูก็อยากจะทำคะแนนดีๆหน่ะค่ะ เผื่อจะจบมาเเล้วหางานง่ายขึ้น กะว่าจะทำงานนั่น2 ปี แล้วมาเรียนต่อโท อังกฤษ อยากหาประสบการณ์สักพักค่ะ หลังจากจบตรีคิดว่า4-5ปี ค่อยกล้บไทยค่ะ เพราะอยากลองใช้ชีวิตต่างประเทศสักพักค่ะ อยากลองทำอะไรหลายๆอย่างที่ตัวเองไม่เคยคิดว่าจะได้ทำ ไม่คิดจะต่อในไทยเพราะ หนูก็มองว่าจบมาหนูก็มานั่งทำงานบริษัท ใช้ชีวิตเดิมๆ ไปๆมาๆ แต่ถ้าไปเรียนต่อต่างประเทศ เราก็จะได้มั้งภาษา ที่พอเปิดอาเซี่ยนแล้ว เราอยากทำอะไรก็ไม่ยากเลย แล้วก็ได้ทำงานค่ะ เพราะอยู่ไทย หนูก็เรียนไปขายของไป แบบชอบธุรกิจตั้งแต่ ป.1 แล้วค่ะ เริ่มจากเอาสติ๊กเกอร์ไปขาย รร แล้วก็ทำนู่นนี่มาเรื่อย จนตอนนี้เปืดร้านในig กับ ขายขนม รร แล้วก็ได้พบเจอคนหลายๆแบบยิ่งกว่า ปกตินิสัยหนู ก็จะต่างจากเพื่อนหน่อยคือ พูดจาตรงไปมา ไม่ค่อยลอกเลียนแบบใคร แบบไม่จำเป็นต้องเห็นว่าเพื่อเราทำแบบนี้ เราจะต้องทำตาม ไม่ค่อยชอบเรียนพิเศษ ตอนโต อาจจะเป็นเพราะช่วงประถมเรียนหนักมากกกก พอเราเข้าม.1 ได้ก็ค่อยๆลดลงเพราะความเหนื่อ และ เบื่อ จนตอนนี้แทบไม่เรียน รู้สึกว่าทุกครั้งที่เรียนก็จำ กลับบ้านก็ลืม เอาเวลาเรียนมานั่งอ่านเองดีกว่าเยอะเลย ไม่เข้าใจก็เปิดgoogleค่ะ เลยคิดว่านิสัยอย่างเราไปอยู่ต่างประเทศน่าจะไม่ยากซักเท่าไหร่ สำหรับการใช้ชีวิตส่วนตัว ส่วนเพื่อนก็ไม่มั่นใจ ว่าจะหายังไงเพราะหนูก็เป็นพวกซื่อๆเซ่อๆนิดนึงค่ะ55 เลยอยากลองขอคำแนพนำดู