เรื่องเล่าของทหารเกณฑ์ น่ากลัว กว่าเรื่องผีสะอีก
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวแซดนิวส์รายงานว่าช่วงนี้กระแสทหารเกณฑ์กำลังมาแรงเพราะมีคนดังเกณฑ์ทหารจำนวนมาก บางก็ผ่อนผัน บางก็จับได้ใบแดง ดังนั้นผู้สื่อข่าวสำนักข่าว
แซดนิวส์จึงขอนำบทความของอดีตทหารเกณฑ์ที่ชื่อว่าตองหนึ่งเขียนไว้ใน blogspot ซึ่งคาดว่าจะเป็นนามแฝงซึ่งต้องขออนุญาติคุณตองหนึ่งที่ระุว่าป็นทหารสังกัดกองพันทหารราบของเมืองกาญจน์จังหวัดกาญจนบุรีที่เขียนในช่วงเป็นทหารเกณฑ์ซึ่งเขียนเริ่มต้นตั้งแต่ก้าวสู่วันแรกในการรายการตัว คุณตองหนึ่งระบุว่าชีวิตทหารของจริงใกล้เข้ามาแล้ว ผมระทึกมาก เราถึงเมืองกาญจน์ 90 ชีวิต แบ่งเป็น 4 หมวด เรียงตามลำดับความสูง เรียงลำดับเสร็จ มีบัดดี้พร้อม โดนรับน้องเลย จับคู่บัดดี้แบกฟูก (ที่นอน ) รอบสนามบอล ฟูกทหารไม่ได้ยัดด้วยนุ่นหรือฟองน้ำ แต่แย่จังยัดด้วยใยมะพร้าว หนักไม่หนักไม่รู้ แต่ถ้าคุณหยุดวิ่งโอกาสโดนฟูกทับตายมีสูง กี่รอบจำไม่ได้แต่เหนื่อย
วิ่งเสร็จก็มายืนแถว ชูฟูกเหนือหัว ฟังผู้หมวดชี้แจง พูดอะไรก็ไม่รู้ รู้อย่างเดียว แกก็พูดนานจนผมเกือบทิ้งฟูก แต่ประโยคสุดท้ายจำติดหูผมมาถึงวันนี้ คือ ยินดีต้อนรับสู่วิทยาลัยลูกผู้ชาย อื้อหือ วิทยาลัยลูกผู้ชาย ฟังแล้ว ฮอร์โมนเทสโทนเทอโรน พุ่งสูงจนผมแทบชัก กว่าจะได้ขึ้นโรงนอนได้เกือบตาย สภาพโรงนอนก็โล่งๆ มีเตียงสองชั้นเหมือนที่หอนั่นแหละ โชคดีผมได้เตียงล่างไม่ต้องปีนขึ้นกระโดดลง ครูฝึกทหารใหม่ก็มี นายทหารที่เป็นผู้ฝึก 1 คน ยศร้อยโท เราเรียกว่า ผู้หมวด ที่เหลือก็เป็นชั้นประทวนมีจ่าบ้างหมู่บ้าง 10 คน และพวกที่ผมเกลียดที่สุดก็พวกผู้ช่วยครูฝึกที่ดึงขึ้นมาจากทหารรุ่นพี่ ชอบวางอำนาจ ลงโทษรุนแรง ทั้งที่ไม่ได้มีหน้าที่อะไรเลย ผมด่าบ่อยๆ ต่อไปผมจะเรียกพวกเขาว่าผู้ช่วยครูฝึก
กิจวัตรของพวกทหารใหม่ก็มี 5.00 น. นกหวีดปลุก เก็บผ้าห่มพับมุ้งผ้าปูเตียงตึง คว้าขันผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน เข้าส้วม และสวมเครื่องแบบให้เรียบร้อยในเวลา 15 นาที (แย่จัง! 15นาที อยู่บ้านผมยังขี้ไม่เสร็จเลย) 5.15 น. จับคนช้า 5 คน คนช้าแสดงว่าเครื่องยังไม่ร้อน วิดพื้นเร่งเครื่องก่อน 50 ครั้ง เข้าแถวหน้าเสาธง แล้วกล่าวปฏิญาณตามหัวหน้าตอน "ไม่มีอะไร ที่ทหารใหม่ทำไม่ได้ ทำไม่ไหว ทำไม่ทัน รวมแถวเสร็จก็เริ่มวิ่งวันละ 8-9 กิโล วิ่งเสร็จก็มากายบริหารอีกเป็นชั่วโมง
6.30 น. ทำความสะอาดหน่วยฝึก 7.00 น. ทานข้าว ทุกเช้ามีไมโลทุกวัน (คุณอย่านึกถึงไมโลที่ชาวบ้านชาวช่องเขากินกันนะ นี่มันหางไมโลและหางนมข้นบวกกับเศษน้ำตาลบางวันแถมหนังยางมาด้วย) 8.00 น. ยืนตากแดดเคารพธงชาติ และเริ่มเข้าสู่นรกแห่งการฝึก 11.30 น. ขึ้นสวรรค์ (หากการขึ้นสวรรค์หมายถึงน้ำอุ่นๆ ในถังน้ำกลางแดด) 12.00 น. ทานข้าว 12.30 น. พักร้องเพลงทหาร 13.00 น. ฝึก 16.00 น. พักการฝึก เพื่อเตรียมตัววิ่งออกกำลังกาย 16.10 น. วิ่ง และกายบริหาร 17.30 น. ทานข้าวเย็น
18.00 น. อาบน้ำ 18.30 น. เตรียมตัวเรียนหนังสือ จดตามคำบอก เช่น โทษของยาเสพติด คนดีในสังคมมีลักษณะอย่างไร 20.00 น. มีอาหารว่างก่อนนอน ที่จริงมันคือ ข้าวต้มมัด (ข้าวเหนียวใส่เศษกล้วยห่อใบตอง ไม่มีกะทิ ดิบมั่งสุกมั่ง) มัดละ 5 บาท ลูกชิ้นผ่าครึ่ง (จริงๆ) ห้าเสี้ยว 5 บาท
เรียกว่ากินกันตาย (ต้องซื้อให้หมดด้วย หากไม่หมด คนขายก็คือพวกจ่า พวกหมู่นั้นแหละจะบังคับซื้อให้หมด ถ้าไม่หมดก็เตรียมเหนื่อยก่อนนอน) อ้อ น้ำนมถั่วเหลืองอีก 7 บาท ทั้งหมดลงบัญชี หักจากเงินเดือน (เงินเดือน 2 เดือนแรกรู้สึก จะประมาณ พันสอง เบี้ยเลี้ยงวันละ 50 หักค่าข้าว วันละ 34 บาท ก็จะเหลือ 16 บาท แต่ขอโทษ 2 เดือนผมไม่ได้จับเงินซักบาท เขามีกฎห้ามมีเงิน กลัวทหารหนี)
20.30 น. เข้าห้องน้ำ ไปขี้ ไปเยี่ยว ขึ้นโรงนอน เตรียมตัวนอน 20.50 น. สวดมนต์ไหว้พระ แผ่เมตตา และกล่าวคำปฏิญาณตน "ตายในสนามรบ เป็นเกียรติของทหาร ตายซะดีกว่าที่จะละทิ้งหน้าที่" พวกเรามักจะดัดแปลงเป็น "ตายในสนามรบ เป็นศพของทหาร ตายซะดีกว่าที่จะอยู่ที่นี่" 21.00 น. เป่านกหวีดปิดไฟนอน หมดไปวันหนึ่ง พรุ่งนี้จะโดนอะไรไม่รู้
นี่คือกิจวัตรที่เป็นไปตลอดสองเดือน แต่ก็มีบางอย่างเปลี่ยนไปบ้าง อย่างการปลุกมาดื่มน้ำค้างมองพระจันทร์วันเพ็ญ เรียกความฟิตตอนดึก อะไรแบบนี้ อาทิตย์แรก เนื้อตัวผมเหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นจับบิด แย่จังปวดเมื่อยทั้งตัว ผมแย่จัง นั่งขี้แทบไม่ได้ ขึ้นโรงนอนก็ค่อยๆ คลานขึ้น มันระบมทั้งตัว เป็นทหารความเหนื่อยไม่ต้องถามถึง ที่นี่ไม่มีคำว่าค่อยเป็นค่อยไป ร่างกายใครไม่ไหวก็กัดฟัน คนเหมือนกัน คุณไหวผมก็ต้องไหว มันอยู่ที่ใจจริงๆนาย ส่วนรองเท้าคอมแบทก็ดูแลยังกะลูก ทั้งขัดทั้งชโลมกีวีให้หนังมันนิ่ม ทหารราบตีนสำคัญกว่าใบหน้า หน้าแหกยังเดินได้แต่ตีนเจ็บโอกาสจะตายมีสูง ดังนั้นรองเท้าต้องดูแลอย่างดี
สามวันแรกผมนั่งขี้แทบไม่ได้ ขี้ไม่ออก จนรู้สึกว่ากลิ่นเหม็นเหมือนจะออกมาทางรูขุมขนเลย ส้วมแย่จังก็ไม่มีกลอน นั่งๆอยู่คุณต้องคอยใช้มือดันประตูไว้ เพื่อนบางคนแย่จังก็แกล้งเดินมาถีบประตูเปิดแล้วเดินหนี สภาพตอนเช้านะ คุณนึกภาพนะ มีเวลา 5 นาที ห้องน้ำมี 8 ห้อง เต็ม 2 ใช้ไม่ได้ 1 เหลือ 5 ห้อง คุณคิดดู ส้วม 5 ห้องกับคน 90 คนจะวุ่นวายขนาดไหน แต่ละห้องจะมีคนต่อคิว 4-5 คน รอไปแปรงฟัน ไปด่าคนอยู่ข้างในไป ผมก็เคยแบบนั่งขี้อยู่ มือหนึ่งดันประตู มือหนึ่งแปรงฟัน ท้องก็เบ่งขี้ไป มันส์ชิบ
ส่วนมากตอนเช้าไม่ค่อยจะได้อาบน้ำกัน โธ่! กะอีแค่ล้างหน้าแปรงฟันยังแทบจะไม่ทัน วันหนึ่งอาบหนเดียวคือหกโมงเย็น ตอนอาบน้ำนี่ ไม่มีหรอกที่จะอาบแบบชาวบ้านเขาตามปกติ ห้องน้ำยาวซัก 15 เมตร แบ่งเป็นสองส่วน ด้านในเป็นส้วม ด้านนอกก่ออิฐสูงประมาณเมตรกว้างเมตรครึ่ง ยาว 5 เมตร ทำเป็นอ่างน้ำ ที่มันแคบยังงั้น เวลาอาบทีต้องอาบทีละหมวด หมวดไหนอาบก่อนก็สบาย ตักได้เต็มขันและน้ำใส หมวดสุดท้ายไม่ต้องพูดถึงน้ำขอดอ่างและตะกอน แต่ละหมวดอาบได้ไม่เกิน 2 นาที ทิ่มแปรงสีฟันเข้าปากขยับซ้าย 3 ที ขวา 3 ที บ้วนปาก ตักน้ำราดตัวโครมๆ 5–6 ขัน ฟอกสบู่ รักแร้ที ขาหนีบที หัวกล้วยที ตักน้ำล้างสบู่ แค่นี้ก็แทบจะไม่ทัน 2 นาที บางวัน นายพวกผู้ช่วยครูก็ให้อาบสิบขัน เราก็ต้องทำตามมัน บางทียังไม่ล้างสบู่มันก็ให้วางขัน แย่จัง คันคะเยอไปทั้งคืน
เครดิต
http://www.znewsthailand.com/home/index.php/variety/item/516-1-2
นรกมีจริง ! ทหารเกณฑ์ ผลัด1-2 ศึกษากันไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวแซดนิวส์รายงานว่าช่วงนี้กระแสทหารเกณฑ์กำลังมาแรงเพราะมีคนดังเกณฑ์ทหารจำนวนมาก บางก็ผ่อนผัน บางก็จับได้ใบแดง ดังนั้นผู้สื่อข่าวสำนักข่าว
แซดนิวส์จึงขอนำบทความของอดีตทหารเกณฑ์ที่ชื่อว่าตองหนึ่งเขียนไว้ใน blogspot ซึ่งคาดว่าจะเป็นนามแฝงซึ่งต้องขออนุญาติคุณตองหนึ่งที่ระุว่าป็นทหารสังกัดกองพันทหารราบของเมืองกาญจน์จังหวัดกาญจนบุรีที่เขียนในช่วงเป็นทหารเกณฑ์ซึ่งเขียนเริ่มต้นตั้งแต่ก้าวสู่วันแรกในการรายการตัว คุณตองหนึ่งระบุว่าชีวิตทหารของจริงใกล้เข้ามาแล้ว ผมระทึกมาก เราถึงเมืองกาญจน์ 90 ชีวิต แบ่งเป็น 4 หมวด เรียงตามลำดับความสูง เรียงลำดับเสร็จ มีบัดดี้พร้อม โดนรับน้องเลย จับคู่บัดดี้แบกฟูก (ที่นอน ) รอบสนามบอล ฟูกทหารไม่ได้ยัดด้วยนุ่นหรือฟองน้ำ แต่แย่จังยัดด้วยใยมะพร้าว หนักไม่หนักไม่รู้ แต่ถ้าคุณหยุดวิ่งโอกาสโดนฟูกทับตายมีสูง กี่รอบจำไม่ได้แต่เหนื่อย
วิ่งเสร็จก็มายืนแถว ชูฟูกเหนือหัว ฟังผู้หมวดชี้แจง พูดอะไรก็ไม่รู้ รู้อย่างเดียว แกก็พูดนานจนผมเกือบทิ้งฟูก แต่ประโยคสุดท้ายจำติดหูผมมาถึงวันนี้ คือ ยินดีต้อนรับสู่วิทยาลัยลูกผู้ชาย อื้อหือ วิทยาลัยลูกผู้ชาย ฟังแล้ว ฮอร์โมนเทสโทนเทอโรน พุ่งสูงจนผมแทบชัก กว่าจะได้ขึ้นโรงนอนได้เกือบตาย สภาพโรงนอนก็โล่งๆ มีเตียงสองชั้นเหมือนที่หอนั่นแหละ โชคดีผมได้เตียงล่างไม่ต้องปีนขึ้นกระโดดลง ครูฝึกทหารใหม่ก็มี นายทหารที่เป็นผู้ฝึก 1 คน ยศร้อยโท เราเรียกว่า ผู้หมวด ที่เหลือก็เป็นชั้นประทวนมีจ่าบ้างหมู่บ้าง 10 คน และพวกที่ผมเกลียดที่สุดก็พวกผู้ช่วยครูฝึกที่ดึงขึ้นมาจากทหารรุ่นพี่ ชอบวางอำนาจ ลงโทษรุนแรง ทั้งที่ไม่ได้มีหน้าที่อะไรเลย ผมด่าบ่อยๆ ต่อไปผมจะเรียกพวกเขาว่าผู้ช่วยครูฝึก
กิจวัตรของพวกทหารใหม่ก็มี 5.00 น. นกหวีดปลุก เก็บผ้าห่มพับมุ้งผ้าปูเตียงตึง คว้าขันผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน เข้าส้วม และสวมเครื่องแบบให้เรียบร้อยในเวลา 15 นาที (แย่จัง! 15นาที อยู่บ้านผมยังขี้ไม่เสร็จเลย) 5.15 น. จับคนช้า 5 คน คนช้าแสดงว่าเครื่องยังไม่ร้อน วิดพื้นเร่งเครื่องก่อน 50 ครั้ง เข้าแถวหน้าเสาธง แล้วกล่าวปฏิญาณตามหัวหน้าตอน "ไม่มีอะไร ที่ทหารใหม่ทำไม่ได้ ทำไม่ไหว ทำไม่ทัน รวมแถวเสร็จก็เริ่มวิ่งวันละ 8-9 กิโล วิ่งเสร็จก็มากายบริหารอีกเป็นชั่วโมง
6.30 น. ทำความสะอาดหน่วยฝึก 7.00 น. ทานข้าว ทุกเช้ามีไมโลทุกวัน (คุณอย่านึกถึงไมโลที่ชาวบ้านชาวช่องเขากินกันนะ นี่มันหางไมโลและหางนมข้นบวกกับเศษน้ำตาลบางวันแถมหนังยางมาด้วย) 8.00 น. ยืนตากแดดเคารพธงชาติ และเริ่มเข้าสู่นรกแห่งการฝึก 11.30 น. ขึ้นสวรรค์ (หากการขึ้นสวรรค์หมายถึงน้ำอุ่นๆ ในถังน้ำกลางแดด) 12.00 น. ทานข้าว 12.30 น. พักร้องเพลงทหาร 13.00 น. ฝึก 16.00 น. พักการฝึก เพื่อเตรียมตัววิ่งออกกำลังกาย 16.10 น. วิ่ง และกายบริหาร 17.30 น. ทานข้าวเย็น
18.00 น. อาบน้ำ 18.30 น. เตรียมตัวเรียนหนังสือ จดตามคำบอก เช่น โทษของยาเสพติด คนดีในสังคมมีลักษณะอย่างไร 20.00 น. มีอาหารว่างก่อนนอน ที่จริงมันคือ ข้าวต้มมัด (ข้าวเหนียวใส่เศษกล้วยห่อใบตอง ไม่มีกะทิ ดิบมั่งสุกมั่ง) มัดละ 5 บาท ลูกชิ้นผ่าครึ่ง (จริงๆ) ห้าเสี้ยว 5 บาท
เรียกว่ากินกันตาย (ต้องซื้อให้หมดด้วย หากไม่หมด คนขายก็คือพวกจ่า พวกหมู่นั้นแหละจะบังคับซื้อให้หมด ถ้าไม่หมดก็เตรียมเหนื่อยก่อนนอน) อ้อ น้ำนมถั่วเหลืองอีก 7 บาท ทั้งหมดลงบัญชี หักจากเงินเดือน (เงินเดือน 2 เดือนแรกรู้สึก จะประมาณ พันสอง เบี้ยเลี้ยงวันละ 50 หักค่าข้าว วันละ 34 บาท ก็จะเหลือ 16 บาท แต่ขอโทษ 2 เดือนผมไม่ได้จับเงินซักบาท เขามีกฎห้ามมีเงิน กลัวทหารหนี)
20.30 น. เข้าห้องน้ำ ไปขี้ ไปเยี่ยว ขึ้นโรงนอน เตรียมตัวนอน 20.50 น. สวดมนต์ไหว้พระ แผ่เมตตา และกล่าวคำปฏิญาณตน "ตายในสนามรบ เป็นเกียรติของทหาร ตายซะดีกว่าที่จะละทิ้งหน้าที่" พวกเรามักจะดัดแปลงเป็น "ตายในสนามรบ เป็นศพของทหาร ตายซะดีกว่าที่จะอยู่ที่นี่" 21.00 น. เป่านกหวีดปิดไฟนอน หมดไปวันหนึ่ง พรุ่งนี้จะโดนอะไรไม่รู้
นี่คือกิจวัตรที่เป็นไปตลอดสองเดือน แต่ก็มีบางอย่างเปลี่ยนไปบ้าง อย่างการปลุกมาดื่มน้ำค้างมองพระจันทร์วันเพ็ญ เรียกความฟิตตอนดึก อะไรแบบนี้ อาทิตย์แรก เนื้อตัวผมเหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นจับบิด แย่จังปวดเมื่อยทั้งตัว ผมแย่จัง นั่งขี้แทบไม่ได้ ขึ้นโรงนอนก็ค่อยๆ คลานขึ้น มันระบมทั้งตัว เป็นทหารความเหนื่อยไม่ต้องถามถึง ที่นี่ไม่มีคำว่าค่อยเป็นค่อยไป ร่างกายใครไม่ไหวก็กัดฟัน คนเหมือนกัน คุณไหวผมก็ต้องไหว มันอยู่ที่ใจจริงๆนาย ส่วนรองเท้าคอมแบทก็ดูแลยังกะลูก ทั้งขัดทั้งชโลมกีวีให้หนังมันนิ่ม ทหารราบตีนสำคัญกว่าใบหน้า หน้าแหกยังเดินได้แต่ตีนเจ็บโอกาสจะตายมีสูง ดังนั้นรองเท้าต้องดูแลอย่างดี
สามวันแรกผมนั่งขี้แทบไม่ได้ ขี้ไม่ออก จนรู้สึกว่ากลิ่นเหม็นเหมือนจะออกมาทางรูขุมขนเลย ส้วมแย่จังก็ไม่มีกลอน นั่งๆอยู่คุณต้องคอยใช้มือดันประตูไว้ เพื่อนบางคนแย่จังก็แกล้งเดินมาถีบประตูเปิดแล้วเดินหนี สภาพตอนเช้านะ คุณนึกภาพนะ มีเวลา 5 นาที ห้องน้ำมี 8 ห้อง เต็ม 2 ใช้ไม่ได้ 1 เหลือ 5 ห้อง คุณคิดดู ส้วม 5 ห้องกับคน 90 คนจะวุ่นวายขนาดไหน แต่ละห้องจะมีคนต่อคิว 4-5 คน รอไปแปรงฟัน ไปด่าคนอยู่ข้างในไป ผมก็เคยแบบนั่งขี้อยู่ มือหนึ่งดันประตู มือหนึ่งแปรงฟัน ท้องก็เบ่งขี้ไป มันส์ชิบ
ส่วนมากตอนเช้าไม่ค่อยจะได้อาบน้ำกัน โธ่! กะอีแค่ล้างหน้าแปรงฟันยังแทบจะไม่ทัน วันหนึ่งอาบหนเดียวคือหกโมงเย็น ตอนอาบน้ำนี่ ไม่มีหรอกที่จะอาบแบบชาวบ้านเขาตามปกติ ห้องน้ำยาวซัก 15 เมตร แบ่งเป็นสองส่วน ด้านในเป็นส้วม ด้านนอกก่ออิฐสูงประมาณเมตรกว้างเมตรครึ่ง ยาว 5 เมตร ทำเป็นอ่างน้ำ ที่มันแคบยังงั้น เวลาอาบทีต้องอาบทีละหมวด หมวดไหนอาบก่อนก็สบาย ตักได้เต็มขันและน้ำใส หมวดสุดท้ายไม่ต้องพูดถึงน้ำขอดอ่างและตะกอน แต่ละหมวดอาบได้ไม่เกิน 2 นาที ทิ่มแปรงสีฟันเข้าปากขยับซ้าย 3 ที ขวา 3 ที บ้วนปาก ตักน้ำราดตัวโครมๆ 5–6 ขัน ฟอกสบู่ รักแร้ที ขาหนีบที หัวกล้วยที ตักน้ำล้างสบู่ แค่นี้ก็แทบจะไม่ทัน 2 นาที บางวัน นายพวกผู้ช่วยครูก็ให้อาบสิบขัน เราก็ต้องทำตามมัน บางทียังไม่ล้างสบู่มันก็ให้วางขัน แย่จัง คันคะเยอไปทั้งคืน
เครดิต http://www.znewsthailand.com/home/index.php/variety/item/516-1-2