ทริปไหว้พระอิ่มบุญที่พม่า 1st day
http://pantip.com/topic/31256761
ทริปไหว้พระอิ่มบุญที่พม่า 2nd day
http://pantip.com/topic/31281005
จากกระทู้รีวิวของสองวันแรกผ่านมาสามเดือน ก็พึ่งมีเวลามารีวิวต่อ
จากความเดิมคือวันที่ 2-6 พย 56 ผมได้พาแม่ น้า และน้องชายไปแสวงบุญที่พม่า
โดยเป็นความโชคดีที่ได้ลุงไข่ผู้โด่งดังในพันทิพเป็นไกด์ให้ด้วยตัวเอง
(จองและติดต่อล่วงหน้าอยู่ครึ่งปี ไม่ได้ให้มันรู้ไป ฮ่าๆ)
วันที่ 3 ของการแสวงบุญ ผมได้ตื่นเช้าและไปเดินเล่นรอบๆโรงแรมที่พัก Sweet hotel Yangon
ใกล้ๆนั้นมีสวยสาธารณะ ที่สามารถมองเห็นมหาเจดีย์ชเวดากองได้อย่างชัดเจน
ขอบอกว่าสวยมากกกกกกกกก และได้เห็นถนนรอบๆโรงแรมแบบไม่มีรถ และดูเงียบสงบ
รูปโรงแรมครับ
หลังจากเติมพลังยามเช้าก็ได้เวลาออกเดินทาง โดยคณะผมได้เอาชุดเสื้อผ้าไปเปลี่ยน 1 ชุด
ส่วนสัมภาระต่างๆก็ฝากไว้ที่โรงแรมนี่เพราะเดี๋ยวจะกลับมานอนที่นี่อีกหนึ่งคืน
หลังจากออกเดินทางได้ไม่นานก็มาถึงตลาดแห่งนึงจำไม่ได้จริงๆครับว่าชื่ออะไร
เพื่อลงเดินดูของต่างๆ ได้พบคณะที่มาเรี่ยรายบริจาคเนื่องในช่วงออกพรรษา หรือกฐินนั่งเอง
แล้วก็มาสะดุดกับร้านขายหมาก น้องชายผมไม่รอช้าที่จะลิ้มลองไปหนึ่งชิ้น ส่วนผมขอบายไม่เอา
ก่อนจะมาแวะอีกครั้งที่ร้านชาร้อนที่ลุงไข่แนะนำว่าอร่อย
อร่อยจริงๆครับโดยเฉพาะแป้งคล้ายๆโรตีปิ้งที่กินเคียงไป อร่อยถูกใจคณะผมมาก
หลังจากเดินทางมาประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึงเมืองพะโค หรือที่คนไทยรู้จักกันดีตามประวัติศาสตร์ว่าเมือง หงสาวดี
ลุงไข่ เล่าว่าแต่ก่อนบริเวณแถวนี้ยังเป็นพื้นทะเลกว้างใหญ่
มีเพียงโขดหินเล็กๆที่โผล่พ้นน้ำ มีหงส์บินผ่านมาสองตัว
ด้วยความเหนื่อยล้าอยากจะลงมาพัก แต่โขดหินนั้นสามารถยืนพักได้ตัวเดียว
ตัวผู้เลยร่อนลงไปยืนบนโขดหินและตัวเมียร่อนมายืนบนหลังตัวผู้อีกทีนึง
ทำให้สัญลักษณ์ของเมืองนี้เป็นรูปหงส์ยืนอยู่บนหลังหงส์อีกตัวครับ
สถานที่แห่งแรกที่แวะของเมืองนี้คงเป็นที่อื่นไม่ได้นอกจากเจดีย์ชเวมอว์ดอว์ หรือพระธาตุมุเตาครับ
ลุงไข่เล่าว่าพระธาตุมุเตานี้สูงกว่ามหาเจดีย์ชเวดากองครับ แต่ความยิ่งใหญ่น้อยกว่า
และเมื่อก่อนแถวนี้มีแผ่นดินไหวบ่อยเลยทำให้ยอดเจดีย์หักโค่นลงมา ทำให้ต้องบูรณะใหม่
ยังเห็นซากพระธาตุองค์เก่าหักมาหลงเหลืออยู่ครับ
พระธาตุที่หักโค่นลงมาคู่กลับพระธาตุที่บูรณะแล้วครับ
เนื่องจากพวกกระผมไปถึงตอน 11 โมงเห็นจะได้ และเป็นจันทร์จึงไม่ค่อยมีคนมา
แถมยังร้อนมากๆๆด้วยครับ เลยเดินรอบแบบเร็วๆก็มาสะดุดตากลับแทงค์น้ำดื่มนี้ครับ
เป็นแทงค์น้ำดื่มติดแอร์ครับ !!!!
แล้วก็ไปไหว้พระพุทธเจ้าทั้งสี่ทิศ แล้วบริจาคเงินที่ตู้ก็พบธนบัตรของไทยอยู่
แหม ประเทศนี้คนไทยมาเที่ยวเยอะมากกกกกก
หลังจากไหว้พระเสร็จลุงไข่บอกว่าเราควรตีฆ้องหรือระฆังให้ดัง เพื่อที่จะแบ่งผลบุญไปรอบๆ
บริเวณรอบๆพระธาตุมุเตาครับ
จากนั้นก็เดินทางมาที่วัดพระนอนชเวตาเลียงครับ
ตามที่ลุงไข่เล่าให้ฟังพระนอนชเวตาเลียงสร้างขึ้นโดยกษัตริย์พระองค์หนึ่ง
ซึ่งตอนแรกไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาแต่ศรัทธาในยักษ์ แต่วันนึงองค์ชายได้เจอหญิงรูปงามที่นับถือพุทธศาสนา
แล้วรับมาอยู่ในวังโดยสัญญาว่าจะให้นับถือพุทธศาสนาต่อไป
แต่พอเข้ามาในวังกษัตริย์ทราบเรื่องก็ไม่ปลื้ม จึงสั่งประหารหญิงงามคนนั้น
นางได้อธิษฐานขอให้เกิดปาฎิหาริย์ขึ้น ทันใดนั้นรูปปั้นยักษ์ที่กษัตริย์นับถือก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
พระราชาตกใจมาก แล้วหลังจากนั้นก็หันมานับถือพระพุทธศาสนาตาม
แล้วได้สร้างพระนอนรูปนี้ครับ
ภาพแสดงประวัติและบริเวณโดยรอบ
เสร็จแล้วไปกินอาหารกลางวันที่โรงแรมแห่งนึง
ซึ่งน่าจะเป็นร้านอาหารประจำของทัวร์ลุงไข่ครับ
ลุงแกสั่งอาหารให้ ร้านนี้แค่พอใช้ได้ครับ แต่มากะลุงไข่เลยได้ของแถมนิดหน่อย
มีปูที่ไม่สด พอเราคอมเม้นไปลุงไข่ก็ไปพูดกะทางร้าน ทางร้านเลยคิดราคาจานนั้นแค่ครึ่งราคาครับ
ประทับใจลุงไข่มากที่เห็นประโยชน์ของพวกเรา โดยไม่สนใจเพื่อนร่วมชาติเลย
เป็นคนไทยจะเป็นแบบนี้ไหมน้าาาาาา

ของแถมครับ
[CR] ทริปไหว้พระอิ่มบุญที่พม่า 3rd Day เดินเล่นยามเช้า - พะโค - เจดีย์ชเวมอว์ดอว์ - พระนอนชเวตาเลียง - พระธาตุอินทร์แขวน
ทริปไหว้พระอิ่มบุญที่พม่า 2nd day http://pantip.com/topic/31281005
จากกระทู้รีวิวของสองวันแรกผ่านมาสามเดือน ก็พึ่งมีเวลามารีวิวต่อ
จากความเดิมคือวันที่ 2-6 พย 56 ผมได้พาแม่ น้า และน้องชายไปแสวงบุญที่พม่า
โดยเป็นความโชคดีที่ได้ลุงไข่ผู้โด่งดังในพันทิพเป็นไกด์ให้ด้วยตัวเอง
(จองและติดต่อล่วงหน้าอยู่ครึ่งปี ไม่ได้ให้มันรู้ไป ฮ่าๆ)
วันที่ 3 ของการแสวงบุญ ผมได้ตื่นเช้าและไปเดินเล่นรอบๆโรงแรมที่พัก Sweet hotel Yangon
ใกล้ๆนั้นมีสวยสาธารณะ ที่สามารถมองเห็นมหาเจดีย์ชเวดากองได้อย่างชัดเจน
ขอบอกว่าสวยมากกกกกกกกก และได้เห็นถนนรอบๆโรงแรมแบบไม่มีรถ และดูเงียบสงบ
รูปโรงแรมครับ
หลังจากเติมพลังยามเช้าก็ได้เวลาออกเดินทาง โดยคณะผมได้เอาชุดเสื้อผ้าไปเปลี่ยน 1 ชุด
ส่วนสัมภาระต่างๆก็ฝากไว้ที่โรงแรมนี่เพราะเดี๋ยวจะกลับมานอนที่นี่อีกหนึ่งคืน
หลังจากออกเดินทางได้ไม่นานก็มาถึงตลาดแห่งนึงจำไม่ได้จริงๆครับว่าชื่ออะไร
เพื่อลงเดินดูของต่างๆ ได้พบคณะที่มาเรี่ยรายบริจาคเนื่องในช่วงออกพรรษา หรือกฐินนั่งเอง
แล้วก็มาสะดุดกับร้านขายหมาก น้องชายผมไม่รอช้าที่จะลิ้มลองไปหนึ่งชิ้น ส่วนผมขอบายไม่เอา
ก่อนจะมาแวะอีกครั้งที่ร้านชาร้อนที่ลุงไข่แนะนำว่าอร่อย
อร่อยจริงๆครับโดยเฉพาะแป้งคล้ายๆโรตีปิ้งที่กินเคียงไป อร่อยถูกใจคณะผมมาก
หลังจากเดินทางมาประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึงเมืองพะโค หรือที่คนไทยรู้จักกันดีตามประวัติศาสตร์ว่าเมือง หงสาวดี
ลุงไข่ เล่าว่าแต่ก่อนบริเวณแถวนี้ยังเป็นพื้นทะเลกว้างใหญ่
มีเพียงโขดหินเล็กๆที่โผล่พ้นน้ำ มีหงส์บินผ่านมาสองตัว
ด้วยความเหนื่อยล้าอยากจะลงมาพัก แต่โขดหินนั้นสามารถยืนพักได้ตัวเดียว
ตัวผู้เลยร่อนลงไปยืนบนโขดหินและตัวเมียร่อนมายืนบนหลังตัวผู้อีกทีนึง
ทำให้สัญลักษณ์ของเมืองนี้เป็นรูปหงส์ยืนอยู่บนหลังหงส์อีกตัวครับ
สถานที่แห่งแรกที่แวะของเมืองนี้คงเป็นที่อื่นไม่ได้นอกจากเจดีย์ชเวมอว์ดอว์ หรือพระธาตุมุเตาครับ
ลุงไข่เล่าว่าพระธาตุมุเตานี้สูงกว่ามหาเจดีย์ชเวดากองครับ แต่ความยิ่งใหญ่น้อยกว่า
และเมื่อก่อนแถวนี้มีแผ่นดินไหวบ่อยเลยทำให้ยอดเจดีย์หักโค่นลงมา ทำให้ต้องบูรณะใหม่
ยังเห็นซากพระธาตุองค์เก่าหักมาหลงเหลืออยู่ครับ
พระธาตุที่หักโค่นลงมาคู่กลับพระธาตุที่บูรณะแล้วครับ
เนื่องจากพวกกระผมไปถึงตอน 11 โมงเห็นจะได้ และเป็นจันทร์จึงไม่ค่อยมีคนมา
แถมยังร้อนมากๆๆด้วยครับ เลยเดินรอบแบบเร็วๆก็มาสะดุดตากลับแทงค์น้ำดื่มนี้ครับ
เป็นแทงค์น้ำดื่มติดแอร์ครับ !!!!
แล้วก็ไปไหว้พระพุทธเจ้าทั้งสี่ทิศ แล้วบริจาคเงินที่ตู้ก็พบธนบัตรของไทยอยู่
แหม ประเทศนี้คนไทยมาเที่ยวเยอะมากกกกกก
หลังจากไหว้พระเสร็จลุงไข่บอกว่าเราควรตีฆ้องหรือระฆังให้ดัง เพื่อที่จะแบ่งผลบุญไปรอบๆ
บริเวณรอบๆพระธาตุมุเตาครับ
จากนั้นก็เดินทางมาที่วัดพระนอนชเวตาเลียงครับ
ตามที่ลุงไข่เล่าให้ฟังพระนอนชเวตาเลียงสร้างขึ้นโดยกษัตริย์พระองค์หนึ่ง
ซึ่งตอนแรกไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาแต่ศรัทธาในยักษ์ แต่วันนึงองค์ชายได้เจอหญิงรูปงามที่นับถือพุทธศาสนา
แล้วรับมาอยู่ในวังโดยสัญญาว่าจะให้นับถือพุทธศาสนาต่อไป
แต่พอเข้ามาในวังกษัตริย์ทราบเรื่องก็ไม่ปลื้ม จึงสั่งประหารหญิงงามคนนั้น
นางได้อธิษฐานขอให้เกิดปาฎิหาริย์ขึ้น ทันใดนั้นรูปปั้นยักษ์ที่กษัตริย์นับถือก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
พระราชาตกใจมาก แล้วหลังจากนั้นก็หันมานับถือพระพุทธศาสนาตาม
แล้วได้สร้างพระนอนรูปนี้ครับ
ภาพแสดงประวัติและบริเวณโดยรอบ
เสร็จแล้วไปกินอาหารกลางวันที่โรงแรมแห่งนึง
ซึ่งน่าจะเป็นร้านอาหารประจำของทัวร์ลุงไข่ครับ
ลุงแกสั่งอาหารให้ ร้านนี้แค่พอใช้ได้ครับ แต่มากะลุงไข่เลยได้ของแถมนิดหน่อย
มีปูที่ไม่สด พอเราคอมเม้นไปลุงไข่ก็ไปพูดกะทางร้าน ทางร้านเลยคิดราคาจานนั้นแค่ครึ่งราคาครับ
ประทับใจลุงไข่มากที่เห็นประโยชน์ของพวกเรา โดยไม่สนใจเพื่อนร่วมชาติเลย
เป็นคนไทยจะเป็นแบบนี้ไหมน้าาาาาา
ของแถมครับ