เมื่อการแข่งขันในแวดวงละครไทยนับวันสูงขึ้นเรื่อยๆ กลยุทธ์ที่แต่ละช่อง โดยเฉพาะ 2 ช่องละครหลัก ช่อง 7 และ ช่อง 3 จะงัดเมื่อเพื่อเผด็จศึกคู่ต่อสู้ก็ย่อมสูงตามไปด้วย
หนึ่งในหลายกลยุทธ์ที่เห็นอยู่ คือ การเลือกละครมาชนคู่แข่งอันนำมาซึ่งการตัดทีเซอร์โปรโมทละครเพื่อเพิ่มความอยากชมของคนดู อย่างกรณีของ ช่อง 7 นับตั้งแต่ปลายปีก่อนล่วงเลยมาถึงตอนนี้ การตัดทีเซอร์ละครนั้นมีการปรับเปลี่ยน โดยเลือกยิงทีเซอร์ละครพร้อมๆ กัน 2-3 เรื่อง โดยยังไม่ฟันธงว่าเรื่องไหนจะออกอากาศต่อจากละครที่ใกล้จบ เลือกให้คนดูเดาเอาเองว่าเรื่องไหนกันแน่จะได้ลงจอ และเมื่อถึงเวลา บางเรื่องก็ได้ออกอากาศ แต่บางเรื่องบางครั้งก็มาเหนือเมฆ ไม่ได้ฉายทีเซอร์ แต่ได้ออกอากาศเฉยเลย จะว่าเป็นการสับขาหลอกช่องคู่แข่งก็ไม่ผิด เพราะช่องคู่แข่งก็ยากจะเลือกละครเรื่องใดๆ มาชนเพราะยังไม่รู้แน่ชัด
กลยุทธ์นี้เรียกความสนใจจากแฟนละครได้พอสมควร แม้โดนบ่นบ้างจากสื่อที่ต้องทำงานควบคู่ไปในการโปรโมท เพราะกว่าจะคอนเฟิร์มว่าเป็นเรื่องไหนชัวร์ บางครั้งก็ถูกเวลาที่กระชั้นชิดบีบให้ทำงานไม่ทัน แต่ที่ได้ผลแน่ๆ คือ การยิงทีเซอร์พร้อมกันหลายเรื่องโดยไม่ฟันธงนั้นเป็นการวัดเรตติ้งละครแต่ละเรื่องไปแบบกลายๆ ว่า แต่ละเรื่องนั้นคนดูมีความสนใจมากน้อยแค่ไหน ซึ่งอาจมีประโยชน์แง่การตัดสินใจเลือกละครออกอากาศ
ในส่วน ช่อง 3 นั้นไม่มีกลยุทธ์แบบที่ช่อง 7 ทำสักเท่าไร ส่วนใหญ่เมื่อผ่านการตัดสินใจแล้ว จะยิงทีเซอร์บอกคนดูว่าละครเรื่องนั้นๆ มาแน่ การเปลี่ยนแปลงจึงไม่ค่อยมี แต่ล่าสุดกลับมีให้เห็น ทำให้แฟนละครตกใจ
กรณีนั้นเกิดกับละครรักเบาสมอง รักนี้เจ้จัดให้ ของผู้จัดอารมณ์ดี “พุดเดิ้ล” ปาจรีย์ ที่ถูกยิงทีเซอร์เรียกน้ำย่อยคนดูแล้ว โดยถูกวางคิวให้ฉายต่อละคร ลูกทาส หลังข่าววันจันทร์-อังคาร แต่แล้วก็ได้รับคำสั่งสายฟ้าแลบให้ถอดออกไปก่อน โดยมีละครชีวิตข้น ไฟรักเพลิงแค้น ของผู้จัด “ก้อง” ปิยะ มาออกอากาศแทน
แน่นอนว่าต้องมีคำถามมากมายเกิดขึ้นตามมาแน่ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไม รักนี้เจ้จัดให้ ถึงถูกชะลอออกอากาศ และให้ ไฟรักเพลิงแค้น มาเสียบแทน หรือช่อง 3 อยากใช้กลยุทธ์สับขาหลอกแบบช่อง 7 บ้าง?
มีบางเสียงเล็ดลอดมาว่า เป็นเพราะเรื่อง รักนี้เจ้จัดให้ ที่ตัดต่อไม่ทัน เหตุผลนี้ไม่น่าเป็นไปได้ ในกรณีช่องบอกผู้จัดว่าให้ละครออกอากาศ ผู้จัดย่อมต้องเร่งการตัดต่อ และเท่าที่ทราบ รักนี้เจ้จัดให้ ก็ตัดต่อได้ 4 ตอนออกอากาศแล้ว ถ้าจะตัดต่อไม่ทัน ไฟรักเพลิงแค้น ก็น่าจะอยู่ในกรณีเดียวกัน เพราะกำลังตัดต่อเหมือนกัน น่าจะได้น้อยกว่าด้วยซ้ำ เมื่อปิดกล้องทีหลังรักนี้เจ้จัดให้
เหตุผลเรื่องแนวละครใกล้เคียงกันในลอตเดียวกันเกินไปมีความเป็นไปได้มากกว่า เพราะลอตใหม่ช่อง 3 มีละครรักเบาสมองถึง 2 เรื่องที่ต้องออกอากาศต่อกัน 5 วัน คือ จันทร์-อังคาร เป็น รักนี้เจ้จัดให้ ส่วนศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เป็น ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ช่องอาจเห็นว่าต้องการความหลากหลายในแนวละคร จึงต้องดึงเรื่องใดเรื่องหนึ่งออก และรักนี้เจ้จัดให้ก็โดนแจ็กพอตนั้น
เมื่อต้องการความหลากหลายของแนวละคร ละครแนวชีวิตรสแซบ ชิงรักหักสวาท จึงเป็นตัวเลือกแรก เพราะ สามีตีตรา ที่เป็นแนวนี้และเพิ่งลาจอไปสร้างเรตติ้งและกระแสนิยมให้ช่องหน้าบาน ช่องอาจคิดว่า ถ้ามีละครรสชาติแบบนี้ออกอากาศต่อก็น่าจะกระหึ่มได้ต่อเนื่อง ไฟรักเพลิงแค้น จึงเป็นตัวเลือกนั้น
ถ้าพูดถึงความเข้มข้น จัดจ้านของ ไฟรักเพลิงแค้น อาจไม่เป็นรอง สามีตีตรา แต่เมื่อพูดถึงภาพรวมนักแสดงทั้งเรื่อง และคู่พระนาง “สมาร์ท” กฤษฎา และ “แยม” มทิรา นั้น เป็นรองพระนางจากสามีตีตราอยู่มาก ก็ต้องวัดว่า เมื่อเนื้อหาแซบแล้ว พระนางและนักแสดงทั้งเรื่องของไฟรักเพลิงแค้นจะเอาคนดูอยู่ในแบบที่สามีตีตราทำได้หรือเปล่า?
ในมุมของ “พุดเดิ้ล” ที่ก้าวมาเป็นผู้จัดละครครั้งแรก ก็น่าเห็นใจไม่น้อย เพราะละครเรื่องแรกจะได้ออกอากาศอยู่แล้วเชียว แต่ดันถูกเลื่อนเสียอย่างนั้น และสิ่งที่เจ้าตัวต้องเจอคือ คำถามจากคนดูมากมายว่า เกิดอะไรขึ้น และห้ามไม่ได้กับคำถามว่า...หรือละครไม่สนุก ซึ่งอาจทำให้เจ้าตัวเสียความมั่นใจไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้ว ผลงานต่างหากจะเป็นตัวพิสูจน์ ไม่ใช่การคาดเดา เพราะเมื่อรักนี้เจ้จัดให้ ได้คิวออกอากาศชัวร์ โดยไม่มีการเลื่อนแล้ว คำตอบว่า ละครสนุกหรือไม่สนุกนั้น จะปรากฏเป็นแน่...
.......................................
(หมายเหตุ 'สับขาหลอก' : คอลัมน์ มายาวิชั่น โดย... เทพิตา)
รู้สึกว่าบางทีการสับขาหลอกของช่อง 7 ก็เยอะไป
นะ เอาจนวินาทีสุดท้ายจิงๆ บางทีมันก็สร้างความสับสน
หรือรำคาญได้นะ ... ถ้าจะทำแบบนี้ก็น่าจะแค่ ช่วงสัปดา
ห์แรก หลังจากนั้นก็ยิงเรื่องเดียว บ่อยๆ เลย ให้คนดู
รู้เลยว่าเรื่องนี้มาแน่ ไม่ใช่ยิงเรื่องนึงมาบ่อยๆ เหมือน
จะเปนเรื่องนี้มาและ... ก็ยังกลับมายิงทีเซิอ อีกเนื่องนึง
อีก ... สำหรับช่อง 3 นี่ก็ถือว่าคิดถูกแล้วนะที่ใน
ละครแต่ละล๋อต ให้มีความหลากหลาย ไม่ใช่บู๊ 2 เรื่อง
เลย หรือ ดราม่า 2 เรื่องเลย
กลยุทธ์ละครช่อง 7 ช่อง 3 ในการเลือกละครลงแต่ละล็อต
หนึ่งในหลายกลยุทธ์ที่เห็นอยู่ คือ การเลือกละครมาชนคู่แข่งอันนำมาซึ่งการตัดทีเซอร์โปรโมทละครเพื่อเพิ่มความอยากชมของคนดู อย่างกรณีของ ช่อง 7 นับตั้งแต่ปลายปีก่อนล่วงเลยมาถึงตอนนี้ การตัดทีเซอร์ละครนั้นมีการปรับเปลี่ยน โดยเลือกยิงทีเซอร์ละครพร้อมๆ กัน 2-3 เรื่อง โดยยังไม่ฟันธงว่าเรื่องไหนจะออกอากาศต่อจากละครที่ใกล้จบ เลือกให้คนดูเดาเอาเองว่าเรื่องไหนกันแน่จะได้ลงจอ และเมื่อถึงเวลา บางเรื่องก็ได้ออกอากาศ แต่บางเรื่องบางครั้งก็มาเหนือเมฆ ไม่ได้ฉายทีเซอร์ แต่ได้ออกอากาศเฉยเลย จะว่าเป็นการสับขาหลอกช่องคู่แข่งก็ไม่ผิด เพราะช่องคู่แข่งก็ยากจะเลือกละครเรื่องใดๆ มาชนเพราะยังไม่รู้แน่ชัด
กลยุทธ์นี้เรียกความสนใจจากแฟนละครได้พอสมควร แม้โดนบ่นบ้างจากสื่อที่ต้องทำงานควบคู่ไปในการโปรโมท เพราะกว่าจะคอนเฟิร์มว่าเป็นเรื่องไหนชัวร์ บางครั้งก็ถูกเวลาที่กระชั้นชิดบีบให้ทำงานไม่ทัน แต่ที่ได้ผลแน่ๆ คือ การยิงทีเซอร์พร้อมกันหลายเรื่องโดยไม่ฟันธงนั้นเป็นการวัดเรตติ้งละครแต่ละเรื่องไปแบบกลายๆ ว่า แต่ละเรื่องนั้นคนดูมีความสนใจมากน้อยแค่ไหน ซึ่งอาจมีประโยชน์แง่การตัดสินใจเลือกละครออกอากาศ
ในส่วน ช่อง 3 นั้นไม่มีกลยุทธ์แบบที่ช่อง 7 ทำสักเท่าไร ส่วนใหญ่เมื่อผ่านการตัดสินใจแล้ว จะยิงทีเซอร์บอกคนดูว่าละครเรื่องนั้นๆ มาแน่ การเปลี่ยนแปลงจึงไม่ค่อยมี แต่ล่าสุดกลับมีให้เห็น ทำให้แฟนละครตกใจ
กรณีนั้นเกิดกับละครรักเบาสมอง รักนี้เจ้จัดให้ ของผู้จัดอารมณ์ดี “พุดเดิ้ล” ปาจรีย์ ที่ถูกยิงทีเซอร์เรียกน้ำย่อยคนดูแล้ว โดยถูกวางคิวให้ฉายต่อละคร ลูกทาส หลังข่าววันจันทร์-อังคาร แต่แล้วก็ได้รับคำสั่งสายฟ้าแลบให้ถอดออกไปก่อน โดยมีละครชีวิตข้น ไฟรักเพลิงแค้น ของผู้จัด “ก้อง” ปิยะ มาออกอากาศแทน
แน่นอนว่าต้องมีคำถามมากมายเกิดขึ้นตามมาแน่ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไม รักนี้เจ้จัดให้ ถึงถูกชะลอออกอากาศ และให้ ไฟรักเพลิงแค้น มาเสียบแทน หรือช่อง 3 อยากใช้กลยุทธ์สับขาหลอกแบบช่อง 7 บ้าง?
มีบางเสียงเล็ดลอดมาว่า เป็นเพราะเรื่อง รักนี้เจ้จัดให้ ที่ตัดต่อไม่ทัน เหตุผลนี้ไม่น่าเป็นไปได้ ในกรณีช่องบอกผู้จัดว่าให้ละครออกอากาศ ผู้จัดย่อมต้องเร่งการตัดต่อ และเท่าที่ทราบ รักนี้เจ้จัดให้ ก็ตัดต่อได้ 4 ตอนออกอากาศแล้ว ถ้าจะตัดต่อไม่ทัน ไฟรักเพลิงแค้น ก็น่าจะอยู่ในกรณีเดียวกัน เพราะกำลังตัดต่อเหมือนกัน น่าจะได้น้อยกว่าด้วยซ้ำ เมื่อปิดกล้องทีหลังรักนี้เจ้จัดให้
เหตุผลเรื่องแนวละครใกล้เคียงกันในลอตเดียวกันเกินไปมีความเป็นไปได้มากกว่า เพราะลอตใหม่ช่อง 3 มีละครรักเบาสมองถึง 2 เรื่องที่ต้องออกอากาศต่อกัน 5 วัน คือ จันทร์-อังคาร เป็น รักนี้เจ้จัดให้ ส่วนศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เป็น ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ช่องอาจเห็นว่าต้องการความหลากหลายในแนวละคร จึงต้องดึงเรื่องใดเรื่องหนึ่งออก และรักนี้เจ้จัดให้ก็โดนแจ็กพอตนั้น
เมื่อต้องการความหลากหลายของแนวละคร ละครแนวชีวิตรสแซบ ชิงรักหักสวาท จึงเป็นตัวเลือกแรก เพราะ สามีตีตรา ที่เป็นแนวนี้และเพิ่งลาจอไปสร้างเรตติ้งและกระแสนิยมให้ช่องหน้าบาน ช่องอาจคิดว่า ถ้ามีละครรสชาติแบบนี้ออกอากาศต่อก็น่าจะกระหึ่มได้ต่อเนื่อง ไฟรักเพลิงแค้น จึงเป็นตัวเลือกนั้น
ถ้าพูดถึงความเข้มข้น จัดจ้านของ ไฟรักเพลิงแค้น อาจไม่เป็นรอง สามีตีตรา แต่เมื่อพูดถึงภาพรวมนักแสดงทั้งเรื่อง และคู่พระนาง “สมาร์ท” กฤษฎา และ “แยม” มทิรา นั้น เป็นรองพระนางจากสามีตีตราอยู่มาก ก็ต้องวัดว่า เมื่อเนื้อหาแซบแล้ว พระนางและนักแสดงทั้งเรื่องของไฟรักเพลิงแค้นจะเอาคนดูอยู่ในแบบที่สามีตีตราทำได้หรือเปล่า?
ในมุมของ “พุดเดิ้ล” ที่ก้าวมาเป็นผู้จัดละครครั้งแรก ก็น่าเห็นใจไม่น้อย เพราะละครเรื่องแรกจะได้ออกอากาศอยู่แล้วเชียว แต่ดันถูกเลื่อนเสียอย่างนั้น และสิ่งที่เจ้าตัวต้องเจอคือ คำถามจากคนดูมากมายว่า เกิดอะไรขึ้น และห้ามไม่ได้กับคำถามว่า...หรือละครไม่สนุก ซึ่งอาจทำให้เจ้าตัวเสียความมั่นใจไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้ว ผลงานต่างหากจะเป็นตัวพิสูจน์ ไม่ใช่การคาดเดา เพราะเมื่อรักนี้เจ้จัดให้ ได้คิวออกอากาศชัวร์ โดยไม่มีการเลื่อนแล้ว คำตอบว่า ละครสนุกหรือไม่สนุกนั้น จะปรากฏเป็นแน่...
.......................................
(หมายเหตุ 'สับขาหลอก' : คอลัมน์ มายาวิชั่น โดย... เทพิตา)
รู้สึกว่าบางทีการสับขาหลอกของช่อง 7 ก็เยอะไป
นะ เอาจนวินาทีสุดท้ายจิงๆ บางทีมันก็สร้างความสับสน
หรือรำคาญได้นะ ... ถ้าจะทำแบบนี้ก็น่าจะแค่ ช่วงสัปดา
ห์แรก หลังจากนั้นก็ยิงเรื่องเดียว บ่อยๆ เลย ให้คนดู
รู้เลยว่าเรื่องนี้มาแน่ ไม่ใช่ยิงเรื่องนึงมาบ่อยๆ เหมือน
จะเปนเรื่องนี้มาและ... ก็ยังกลับมายิงทีเซิอ อีกเนื่องนึง
อีก ... สำหรับช่อง 3 นี่ก็ถือว่าคิดถูกแล้วนะที่ใน
ละครแต่ละล๋อต ให้มีความหลากหลาย ไม่ใช่บู๊ 2 เรื่อง
เลย หรือ ดราม่า 2 เรื่องเลย