ปมคดีของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ศาลปกครองสูงสุด
1ถวิล เปลี่ยนสี อดีตเลขาฯสมช.ฟ้องนายกใช้ดุลพินิจไม่ชอบด้วยกฏหมาย (พิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว)
2 ไม่ทำประชามติโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5แสนล้าน (รอนัดฟังคำพิพากษา)
ศาลรัฐธรรมนูญ
1 กกต. ส่งเรื่องให้วินิจจัย อำนาจการจัดการเลือกตั้ง 23 เขตเลือกตั้งมีปัญหา เป็นของใครระหว่างรัฐบาลกับ กกต. และ การเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะหรือไม่
2 ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติ ยื่นให้พิจารณาการเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะ (เป็นโมฆะเนื่องจากไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ทั่วประเทศ)
3 ศาลนัดฟังคำวินิจฉัย กรณีการออก พรบ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขัด รธน.(ร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2 ล้านล้านบาท (ร่างพรบ.กู้2ล้านล้าน) ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 169 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 ด้วยมติ 9 ต่อ 0 และกระบวนการตราร่างพ.ร.บ.ขัดรัฐธรรมนูญ)
4 ส.ว.ยื่นให้พิจารณาสถานะรัฐบาลชั่วคราวและนายกรัฐมนตรีหมดสภาพตามรัฐธรรมนูญมาตรา 127 (ไม่สามารถเปิดสภาใน30วัน)
5.นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยสถานภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 (7) ประกอบมาตรา 268 หรือไม่ จากกรณีการโยกย้ายตำแหน่ง นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
ปปช.
1 คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว (แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว)
2 ประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำ(3.5แสนล้าน)มิชอบ(เตรียมที่จะแจ้งข้อหาในเดือนเมษายน)
3 ทุจริตโครงการข้าวถุง(ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน)
4 โยกย้าย พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ พ้นจากตำแหน่งปลัดกลาโหมโดยมิชอบ ( ตั้งอนุกรรมการได้สวนและตรวจสอบพยาน)
5 ไม่ประกาศราคากลางในการจัดซื้อจัดจ้าง ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 (อยู่ระหว่างการไต่สวน)
6 ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีคืนพาสปอร์ตให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร(อยู่ระหว่างการไต่สวน)
โดยล่าสุด
ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องพิจารณายิ่งลักษณ์สิ้นสภาพนายกฯ หรือไม่ หลังใช้อำนาจแทรกแซงการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี
วันนี้ (2 เมษายน 2557) เวลา 09.30 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการประชุมประจำสัปดาห์ โดยมีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องกรณีที่ ประธานวุฒิสภา ส่งความเห็นของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยสถานภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 (7) ประกอบมาตรา 268 หรือไม่ จากกรณีการโยกย้ายตำแหน่ง นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
ล่าสุด ในช่วงสาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้รับคำร้องคดีดังกล่าวแล้ว และขอให้นางสาวยิ่งลักษณ์มาชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับตั้งแต่สำเนาคำร้อง
โดย นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ชี้แจงว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า การที่นายกรัฐมนตรีโยกย้าย นายถวิล นั้น ไม่ใช่เป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่การบริหารราชการตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อสภา แต่เป็นการใช้ตำแหน่งการเป็นนายกรัฐมนตรีเข้าไปแทรกแซงการเพื่อประโยชน์ของตนเอง เครือญาติ พรรคเพื่อไทยที่นายกรัฐมนตรีสังกัด เข้าข่ายต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ประกอบมาตรา 266 (2) และ (3)
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า หากนางสาวยิ่งลักษณ์ได้เข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน แล้วศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีสิ้นสภาพ เนื่องจากกระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ประกอบมาตรา 266 (2) และ (3) จะส่งผลให้ความเป็นรัฐมนตรีของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 วรรคหนึ่ง (7) เป็นเหตุให้รัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 180 วรรคหนึ่ง แต่ด้วยความเป็นรัฐมนตรีเป็นการสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ทำให้รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีที่เหลือยังสามารถอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181
โดยกรณีนี้เทียบเคียงได้กับกรณีของ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลวินิจฉัยให้สิ้นสภาพนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2551 เพราะมีการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของความเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเช่นกัน
เปิดคดี ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ปมคดีของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ศาลปกครองสูงสุด
1ถวิล เปลี่ยนสี อดีตเลขาฯสมช.ฟ้องนายกใช้ดุลพินิจไม่ชอบด้วยกฏหมาย (พิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว)
2 ไม่ทำประชามติโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5แสนล้าน (รอนัดฟังคำพิพากษา)
ศาลรัฐธรรมนูญ
1 กกต. ส่งเรื่องให้วินิจจัย อำนาจการจัดการเลือกตั้ง 23 เขตเลือกตั้งมีปัญหา เป็นของใครระหว่างรัฐบาลกับ กกต. และ การเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะหรือไม่
2 ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติ ยื่นให้พิจารณาการเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะ (เป็นโมฆะเนื่องจากไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ทั่วประเทศ)
3 ศาลนัดฟังคำวินิจฉัย กรณีการออก พรบ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขัด รธน.(ร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2 ล้านล้านบาท (ร่างพรบ.กู้2ล้านล้าน) ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 169 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 ด้วยมติ 9 ต่อ 0 และกระบวนการตราร่างพ.ร.บ.ขัดรัฐธรรมนูญ)
4 ส.ว.ยื่นให้พิจารณาสถานะรัฐบาลชั่วคราวและนายกรัฐมนตรีหมดสภาพตามรัฐธรรมนูญมาตรา 127 (ไม่สามารถเปิดสภาใน30วัน)
5.นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยสถานภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 (7) ประกอบมาตรา 268 หรือไม่ จากกรณีการโยกย้ายตำแหน่ง นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
ปปช.
1 คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว (แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว)
2 ประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำ(3.5แสนล้าน)มิชอบ(เตรียมที่จะแจ้งข้อหาในเดือนเมษายน)
3 ทุจริตโครงการข้าวถุง(ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน)
4 โยกย้าย พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ พ้นจากตำแหน่งปลัดกลาโหมโดยมิชอบ ( ตั้งอนุกรรมการได้สวนและตรวจสอบพยาน)
5 ไม่ประกาศราคากลางในการจัดซื้อจัดจ้าง ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 (อยู่ระหว่างการไต่สวน)
6 ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีคืนพาสปอร์ตให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร(อยู่ระหว่างการไต่สวน)
โดยล่าสุด
ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องพิจารณายิ่งลักษณ์สิ้นสภาพนายกฯ หรือไม่ หลังใช้อำนาจแทรกแซงการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี
วันนี้ (2 เมษายน 2557) เวลา 09.30 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการประชุมประจำสัปดาห์ โดยมีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องกรณีที่ ประธานวุฒิสภา ส่งความเห็นของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยสถานภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 (7) ประกอบมาตรา 268 หรือไม่ จากกรณีการโยกย้ายตำแหน่ง นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
ล่าสุด ในช่วงสาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้รับคำร้องคดีดังกล่าวแล้ว และขอให้นางสาวยิ่งลักษณ์มาชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับตั้งแต่สำเนาคำร้อง
โดย นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ชี้แจงว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า การที่นายกรัฐมนตรีโยกย้าย นายถวิล นั้น ไม่ใช่เป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่การบริหารราชการตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อสภา แต่เป็นการใช้ตำแหน่งการเป็นนายกรัฐมนตรีเข้าไปแทรกแซงการเพื่อประโยชน์ของตนเอง เครือญาติ พรรคเพื่อไทยที่นายกรัฐมนตรีสังกัด เข้าข่ายต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ประกอบมาตรา 266 (2) และ (3)
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า หากนางสาวยิ่งลักษณ์ได้เข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน แล้วศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีสิ้นสภาพ เนื่องจากกระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ประกอบมาตรา 266 (2) และ (3) จะส่งผลให้ความเป็นรัฐมนตรีของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 วรรคหนึ่ง (7) เป็นเหตุให้รัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 180 วรรคหนึ่ง แต่ด้วยความเป็นรัฐมนตรีเป็นการสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ทำให้รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีที่เหลือยังสามารถอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181
โดยกรณีนี้เทียบเคียงได้กับกรณีของ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลวินิจฉัยให้สิ้นสภาพนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2551 เพราะมีการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของความเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเช่นกัน