ผมได้ยินว่าหลายๆ คนไม่พอใจกรรมการ โดยหาว่ากรรมการทั้ง 3 นั้น อคติบ้างล่ะ ลำเอียงบ้างล่ะ หรือแสดงกิริยาไม่เหมาะสมบ้างล่ะ
ผมก็อยากจะถามกลับไปบ้างครับว่า
1. คุณเอา "คุณวุฒิ" อะไร มาวิพากษ์วิจารณ์กรรมการครับ
พี่เพชร ทำงานในด้านดนตรีมากว่า 30 ปี เรียกว่าทำงานด้านนี้มาก่อนที่แฟนคลับหลายๆ คนจะเกิดด้วยซ้ำ อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินดังๆ มามากมาย
พี่โจ้ ก็อยู่ในวงการเพลงมานาน เคยเป็นคอรัสให้กับพี่เบิร์ด ธงชัย เป็นครูสอนร้องเพลง เป็นครูสอนเต้น และทำงานให้กับโรงละครรัชดาลัยฯ
พี่ม้า ไม่ได้มาจากสายดนตรีโดยตรง แต่ก็อยู่ในวงการบันเทิงมานาน เห็นดารา นักร้อง เกิด ดับ มาไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย ทั้ง 3 ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในแต่ละสาขาที่ตนทำงานอยู่ และอยู่ในวงการมานานมากๆ
แน่หล่ะ ก็ใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญจะรู้ไปเสียทุกเรื่อง หรือว่าจะถูกหมดทุกเรื่อง แต่ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะมองข้ามไปได้หรอกครับ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีความรู้ หรือความชำนาญในด้านดนตรีอย่างเราๆ
คนที่ทำงานด้านดนตรี หูก็จะดีเป็นพิเศษ คนที่ทำงานด้านบันเทิง ตาก็จะไวเป็นพิเศษ ไม่แปลกอะไรเลยที่ผู้เชี่ยวชาญพวกนี้ จะเห็น หรือได้ยินอะไร ที่พวกคุณไม่ทันได้เห็น ไม่ทันได้ยิน เพราะมัวแต่กรี๊ดๆๆๆๆ กันอยู่ เพราะฉะนั้น อย่าไปเถียงกรรมการเลยครับ เถียงไม่ขึ้นหรอก
2. ทำไมกรรมการทั้ง 3 คนจะไม่มีสิทธิ ด่า ผู้เข้าแข่งขันล่ะครับ ก็ในเมื่อผู้แข่งขันทั้ง 8 นั้น กรรมการเลือกมาเองกับมือ แล้วทำไมจะด่าไม่ได้ ไม่ได้เลือกมาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี่ครับ ถึงจะได้แตะต้องอะไรไม่ได้เลย
ลองคิดดูสิครับว่า ถ้ากรรมการทั้ง 3 ไม่ได้เลือกเข้ามา คนที่คุณกำลังรักอยู่ในตอนนี้ จะได้มาแสดงความสามารถ (หรือความผิดพลาด) ให้พวกคุณได้เห็น ให้พวกคุณได้รัก อย่างในทุกวันนี้หรือเปล่า
ผมไม่ได้ดูรายการนี้มานานอะไรนักหนาหรอกครับ แต่ก็เคยได้ยินมาว่า บี้ สุกฤษฏิ์ เองก็เคยโดนมาหนักเหมือนกัน โตโน่เองก็โดนมาหนัก ฮั่นเองก็ไม่ใช่เบาๆ แล้วก็ยังมีใครต่อใครอีกหลายคน ที่โดนมาหนักเหมือนกัน แล้วถามหน่อยว่า เวลาที่พวกเขาได้เจอกับกรรมการ หรือได้กลับมาเป็น ศิลปินรับเชิญในรายการ พวกเขาปฏิบัติต่อกรรมการอย่างไรครับ
เจ็บแค้นกรรมการ เมินเฉยต่อกรรมการ หรือแสดงกิริยาไม่ดี อะไรอย่างนั้นหรือเปล่า...
เปล่าเลย... พวกเขาแสดงความเคารพรัก ต่อกรรมการอย่างสูงทุกคน เพราะพวกเขาถือว่า กรรมการทั้งสาม ก็คือครูของพวกเขาเหมือนกัน เพราะถ้าในวันนั้นไม่มีคำตำหนิ คำวิจารณ์ของกรรมการ พวกเขาก็คงจะไม่มีวันนี้หรอกครับ
คำตำหนิของกรรมการนั้น มันบาดหู แสลงใจก็จริงอยู่ แต่มันชี้ให้เห็นถึง จุดบกพร่องของพวกเขาด้วยเช่นกัน ถ้าพวกเขาไม่เอาแต่คิดแค้น แล้วเก็บคำตำหนิเหล่านั้นกลับไปคิด ไปทบทวน แล้วแก้ไขในสิ่งที่ยังบกพร่องอยู่ เขาก็จะสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้จริงๆ
ผมรู้ว่าพวกคุณ รักผู้เข้าแข่งขันมาก เวลาที่พวกเขาถูกกรรมการตำหนิ พวกคุณก็คงจะอดเจ็บแค้นแทนไม่ได้ พวกคุณก็เลยมาระบาย ด้วยการด่าพวกกรรมการ พวกคุณคิดบ้างไหมว่า การที่คุณด่ากรรมการนั้น ก็คือการที่คุณกำลังด่าคนที่พวกเขา นับถือและเคารพอยู่ !!!
คุณกำลังด่า ครู ของผู้เข้าแข่งขันอยู่นะครับ ขอให้รู้ตัวไว้
3. หลายๆ คนบอกว่า กรรมการลำเอียง มีอคติ (ต่อคนที่คุณรัก) ในขณะที่คุณกำลังบอกเช่นนี้ ตัวคุณเองก็มีอคติ มีความลำเอียง เข้าข้างคนที่คุณรักเหมือนกันแหละครับ คนที่กำลังลำเอียงอยู่ ไม่มีสิทธิ์ไปว่าคนอื่นลำเอียงนะครับ
ที่พวกคุณมีความไม่พอใจกรรมการอยู่นั้น เป็นเพราะว่าคำวิจารณ์ของกรรมการ ทำให้คนที่คุณรักเสียหาย ดูด้อย ดูไม่ดี ลองคิดในทางกลับกันสิครับ ว่าถ้ากรรมการชมผู้แข่งขันที่คุณรัก คุณจะรู้สึกว่ากรรมการลำเอียงหรือไม่
ลองคิดดูสิครับ ว่าถ้าคนที่ออกในสัปดาห์นี้ไม่ใช่มุก แต่เป็นซีดี กั้ง หรือเต้ ซึ่งเป็นคนที่คุณรัก แล้วกรรมการทั้งสามลุกขึ้นยืนปรบมือให้ คุณจะรู้สึกว่ากรรมการลำเอียงหรือเปล่า ผมว่าคุณไม่รู้สึกหรอกครับ คุณจะชื่นใจด้วยซ้ำที่กรรมการให้เกียรติคนที่คุณรักขนาดนี้
ในขณะที่พวกคุณบอกว่า กรรมการแสดงกิริยาที่ไม่สมควร ทำให้ผู้เข้ารอบทั้งสาม ต้องทำตาปริบๆ อยู่บนเวที แล้วคุณสังเกตบ้างไหมครับ ว่าผู้เข้ารอบทั้งสาม ปฏิบัติต่อผู้ตกรอบอย่างไร
พวกเขาแสดงความน้อยใจออกมาหรือเปล่า แสดงความเฉยเมย มึนตึง ออกมาบ้างหรือเปล่า เปล่าเลยครับ เพราะว่าพวกเขาก็เห็นด้วยกับกรรมการทุกประการ
คนทั้ง 8 คน เป็นผู้ที่ต้องแข่งขันกันก็จริง แต่พวกเขาก็เป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องกันด้วย ใครมีความสามารถมากเท่าไหร่ พวกเขารู้ดีที่สุดครับ เพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันมา ขณะที่คนหนึ่งกำลังซ้อม คนที่เหลือก็ดูอยู่ใกล้ๆ ได้ดู ได้เห็นถึงความพยายามของคนอื่น ได้ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ได้ดูแลซึ่งกันและกันมา การที่มีใครสักคน ต้องออกไปจากการแข่งขัน คนที่เสียใจที่สุด ไม่ใช่แฟนคลับเท่านั้นหรอกครับ ผู้แข่งขันที่เหลืออยู่ ก็เสียใจไม่ต่างกัน อาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะคนที่เคยทำอะไรด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน ฝึกร้องฝึกเต้นด้วยกัน ต้องมาหายหน้าไปอีกคนหนึ่งแล้ว
แล้วยิ่งคนที่ต้องจากไป เป็นคนที่มีความสามารถสูงด้วยแล้ว ผมว่าคนที่เสียดายที่ไม่ได้ดูมินิคอนเสิร์ตของมุกมากที่สุด ก็คือ ซีดี กั้ง และเต้ นี่แหละครับ ไม่เชื่อก็ลองถามพวกเขาดูสิ
การสแตนดิ้ง โอเวชั่น หรือการแสดงอารมณ์ของกรรมการ ก็ถือเป็นของขวัญให้กับความสามารถของมุก เพื่อทดแทนกับการไม่ได้ไปต่อ ไม่ได้ทำมินิคอนเสิร์ต ไม่ได้เป็นเดอะสตาร์คนที่ 10 แค่นี้ผมว่าไม่มากเกินไปหรอกครับ และเชื่อว่า ผู้แข่งขันที่เหลือ ทั้ง 3 ก็คงคิดเหมือนผม
สรุปนะครับ ผมไม่ได้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ใดๆ กับกรรมการทั้ง 3 ท่านเลย ไม่ว่าจะโดยสายเลือด โดยหน้าที่การงาน หรือในทางไหนๆ ผมแค่อยากแสดงความคิดเห็นหลังจากที่ได้อ่านคำวิจารณ์ที่หลายๆ คนด่ากรรมการเท่านั้น เพราะผมรู้สึกว่า ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 8 ต่างก็มีแฟนคลับ ที่รักพวกเขา/พวกเธออยู่ จะโดนด่าอย่างไร ก็จะมีคนออกมาแก้แทนให้ ในขณะที่ ผมไม่ค่อยเห็นใคร ออกมาปกป้องกรรมการบ้างเลย ผมเลยขอซักนิด
ถ้าหลายๆ คนที่ไม่พอใจกรรมการ ได้อ่านข้อความของผม แล้วตัดสินใจว่าจะด่ากรรมการ หรือจะไม่พอใจกรรมการต่อไป ก็เป็นสิทธิ์ของคุณครับ ผมคงบังคับจิตใจของใครไม่ได้ ผมก็แค่แสดงเหตุผลในแง่มุมของผมเองเท่านั้น
ค่อนข้างยาว ถ้าใครทนอ่านมาได้จนจบ ก็ต้องขอบคุณด้วยแล้วกันครับ
ว่าด้วยเรื่องกรรมการเดอะสตาร์ ขอขัดใจติ่งหน่อยเถอะ
ผมก็อยากจะถามกลับไปบ้างครับว่า
1. คุณเอา "คุณวุฒิ" อะไร มาวิพากษ์วิจารณ์กรรมการครับ
พี่เพชร ทำงานในด้านดนตรีมากว่า 30 ปี เรียกว่าทำงานด้านนี้มาก่อนที่แฟนคลับหลายๆ คนจะเกิดด้วยซ้ำ อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินดังๆ มามากมาย
พี่โจ้ ก็อยู่ในวงการเพลงมานาน เคยเป็นคอรัสให้กับพี่เบิร์ด ธงชัย เป็นครูสอนร้องเพลง เป็นครูสอนเต้น และทำงานให้กับโรงละครรัชดาลัยฯ
พี่ม้า ไม่ได้มาจากสายดนตรีโดยตรง แต่ก็อยู่ในวงการบันเทิงมานาน เห็นดารา นักร้อง เกิด ดับ มาไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย ทั้ง 3 ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในแต่ละสาขาที่ตนทำงานอยู่ และอยู่ในวงการมานานมากๆ
แน่หล่ะ ก็ใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญจะรู้ไปเสียทุกเรื่อง หรือว่าจะถูกหมดทุกเรื่อง แต่ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะมองข้ามไปได้หรอกครับ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีความรู้ หรือความชำนาญในด้านดนตรีอย่างเราๆ
คนที่ทำงานด้านดนตรี หูก็จะดีเป็นพิเศษ คนที่ทำงานด้านบันเทิง ตาก็จะไวเป็นพิเศษ ไม่แปลกอะไรเลยที่ผู้เชี่ยวชาญพวกนี้ จะเห็น หรือได้ยินอะไร ที่พวกคุณไม่ทันได้เห็น ไม่ทันได้ยิน เพราะมัวแต่กรี๊ดๆๆๆๆ กันอยู่ เพราะฉะนั้น อย่าไปเถียงกรรมการเลยครับ เถียงไม่ขึ้นหรอก
2. ทำไมกรรมการทั้ง 3 คนจะไม่มีสิทธิ ด่า ผู้เข้าแข่งขันล่ะครับ ก็ในเมื่อผู้แข่งขันทั้ง 8 นั้น กรรมการเลือกมาเองกับมือ แล้วทำไมจะด่าไม่ได้ ไม่ได้เลือกมาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี่ครับ ถึงจะได้แตะต้องอะไรไม่ได้เลย
ลองคิดดูสิครับว่า ถ้ากรรมการทั้ง 3 ไม่ได้เลือกเข้ามา คนที่คุณกำลังรักอยู่ในตอนนี้ จะได้มาแสดงความสามารถ (หรือความผิดพลาด) ให้พวกคุณได้เห็น ให้พวกคุณได้รัก อย่างในทุกวันนี้หรือเปล่า
ผมไม่ได้ดูรายการนี้มานานอะไรนักหนาหรอกครับ แต่ก็เคยได้ยินมาว่า บี้ สุกฤษฏิ์ เองก็เคยโดนมาหนักเหมือนกัน โตโน่เองก็โดนมาหนัก ฮั่นเองก็ไม่ใช่เบาๆ แล้วก็ยังมีใครต่อใครอีกหลายคน ที่โดนมาหนักเหมือนกัน แล้วถามหน่อยว่า เวลาที่พวกเขาได้เจอกับกรรมการ หรือได้กลับมาเป็น ศิลปินรับเชิญในรายการ พวกเขาปฏิบัติต่อกรรมการอย่างไรครับ
เจ็บแค้นกรรมการ เมินเฉยต่อกรรมการ หรือแสดงกิริยาไม่ดี อะไรอย่างนั้นหรือเปล่า...
เปล่าเลย... พวกเขาแสดงความเคารพรัก ต่อกรรมการอย่างสูงทุกคน เพราะพวกเขาถือว่า กรรมการทั้งสาม ก็คือครูของพวกเขาเหมือนกัน เพราะถ้าในวันนั้นไม่มีคำตำหนิ คำวิจารณ์ของกรรมการ พวกเขาก็คงจะไม่มีวันนี้หรอกครับ
คำตำหนิของกรรมการนั้น มันบาดหู แสลงใจก็จริงอยู่ แต่มันชี้ให้เห็นถึง จุดบกพร่องของพวกเขาด้วยเช่นกัน ถ้าพวกเขาไม่เอาแต่คิดแค้น แล้วเก็บคำตำหนิเหล่านั้นกลับไปคิด ไปทบทวน แล้วแก้ไขในสิ่งที่ยังบกพร่องอยู่ เขาก็จะสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้จริงๆ
ผมรู้ว่าพวกคุณ รักผู้เข้าแข่งขันมาก เวลาที่พวกเขาถูกกรรมการตำหนิ พวกคุณก็คงจะอดเจ็บแค้นแทนไม่ได้ พวกคุณก็เลยมาระบาย ด้วยการด่าพวกกรรมการ พวกคุณคิดบ้างไหมว่า การที่คุณด่ากรรมการนั้น ก็คือการที่คุณกำลังด่าคนที่พวกเขา นับถือและเคารพอยู่ !!!
คุณกำลังด่า ครู ของผู้เข้าแข่งขันอยู่นะครับ ขอให้รู้ตัวไว้
3. หลายๆ คนบอกว่า กรรมการลำเอียง มีอคติ (ต่อคนที่คุณรัก) ในขณะที่คุณกำลังบอกเช่นนี้ ตัวคุณเองก็มีอคติ มีความลำเอียง เข้าข้างคนที่คุณรักเหมือนกันแหละครับ คนที่กำลังลำเอียงอยู่ ไม่มีสิทธิ์ไปว่าคนอื่นลำเอียงนะครับ
ที่พวกคุณมีความไม่พอใจกรรมการอยู่นั้น เป็นเพราะว่าคำวิจารณ์ของกรรมการ ทำให้คนที่คุณรักเสียหาย ดูด้อย ดูไม่ดี ลองคิดในทางกลับกันสิครับ ว่าถ้ากรรมการชมผู้แข่งขันที่คุณรัก คุณจะรู้สึกว่ากรรมการลำเอียงหรือไม่
ลองคิดดูสิครับ ว่าถ้าคนที่ออกในสัปดาห์นี้ไม่ใช่มุก แต่เป็นซีดี กั้ง หรือเต้ ซึ่งเป็นคนที่คุณรัก แล้วกรรมการทั้งสามลุกขึ้นยืนปรบมือให้ คุณจะรู้สึกว่ากรรมการลำเอียงหรือเปล่า ผมว่าคุณไม่รู้สึกหรอกครับ คุณจะชื่นใจด้วยซ้ำที่กรรมการให้เกียรติคนที่คุณรักขนาดนี้
ในขณะที่พวกคุณบอกว่า กรรมการแสดงกิริยาที่ไม่สมควร ทำให้ผู้เข้ารอบทั้งสาม ต้องทำตาปริบๆ อยู่บนเวที แล้วคุณสังเกตบ้างไหมครับ ว่าผู้เข้ารอบทั้งสาม ปฏิบัติต่อผู้ตกรอบอย่างไร
พวกเขาแสดงความน้อยใจออกมาหรือเปล่า แสดงความเฉยเมย มึนตึง ออกมาบ้างหรือเปล่า เปล่าเลยครับ เพราะว่าพวกเขาก็เห็นด้วยกับกรรมการทุกประการ
คนทั้ง 8 คน เป็นผู้ที่ต้องแข่งขันกันก็จริง แต่พวกเขาก็เป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องกันด้วย ใครมีความสามารถมากเท่าไหร่ พวกเขารู้ดีที่สุดครับ เพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันมา ขณะที่คนหนึ่งกำลังซ้อม คนที่เหลือก็ดูอยู่ใกล้ๆ ได้ดู ได้เห็นถึงความพยายามของคนอื่น ได้ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ได้ดูแลซึ่งกันและกันมา การที่มีใครสักคน ต้องออกไปจากการแข่งขัน คนที่เสียใจที่สุด ไม่ใช่แฟนคลับเท่านั้นหรอกครับ ผู้แข่งขันที่เหลืออยู่ ก็เสียใจไม่ต่างกัน อาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะคนที่เคยทำอะไรด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน ฝึกร้องฝึกเต้นด้วยกัน ต้องมาหายหน้าไปอีกคนหนึ่งแล้ว
แล้วยิ่งคนที่ต้องจากไป เป็นคนที่มีความสามารถสูงด้วยแล้ว ผมว่าคนที่เสียดายที่ไม่ได้ดูมินิคอนเสิร์ตของมุกมากที่สุด ก็คือ ซีดี กั้ง และเต้ นี่แหละครับ ไม่เชื่อก็ลองถามพวกเขาดูสิ
การสแตนดิ้ง โอเวชั่น หรือการแสดงอารมณ์ของกรรมการ ก็ถือเป็นของขวัญให้กับความสามารถของมุก เพื่อทดแทนกับการไม่ได้ไปต่อ ไม่ได้ทำมินิคอนเสิร์ต ไม่ได้เป็นเดอะสตาร์คนที่ 10 แค่นี้ผมว่าไม่มากเกินไปหรอกครับ และเชื่อว่า ผู้แข่งขันที่เหลือ ทั้ง 3 ก็คงคิดเหมือนผม
สรุปนะครับ ผมไม่ได้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ใดๆ กับกรรมการทั้ง 3 ท่านเลย ไม่ว่าจะโดยสายเลือด โดยหน้าที่การงาน หรือในทางไหนๆ ผมแค่อยากแสดงความคิดเห็นหลังจากที่ได้อ่านคำวิจารณ์ที่หลายๆ คนด่ากรรมการเท่านั้น เพราะผมรู้สึกว่า ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 8 ต่างก็มีแฟนคลับ ที่รักพวกเขา/พวกเธออยู่ จะโดนด่าอย่างไร ก็จะมีคนออกมาแก้แทนให้ ในขณะที่ ผมไม่ค่อยเห็นใคร ออกมาปกป้องกรรมการบ้างเลย ผมเลยขอซักนิด
ถ้าหลายๆ คนที่ไม่พอใจกรรมการ ได้อ่านข้อความของผม แล้วตัดสินใจว่าจะด่ากรรมการ หรือจะไม่พอใจกรรมการต่อไป ก็เป็นสิทธิ์ของคุณครับ ผมคงบังคับจิตใจของใครไม่ได้ ผมก็แค่แสดงเหตุผลในแง่มุมของผมเองเท่านั้น
ค่อนข้างยาว ถ้าใครทนอ่านมาได้จนจบ ก็ต้องขอบคุณด้วยแล้วกันครับ