คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ไหนๆ ก็เรียนใกล้จบแล้ว ขอให้ใช้ช่วงเวลาเรียนที่เหลืออยู่พยายามตักตวงความรู้ให้ได้มากที่สุด ทำคะแนนหรือผลการเรียนให้ดีที่สุด เพื่อเป็นใบเบิกทางในการทำงานในอนาคต และให้วางแผนหางานทำตามสายที่เรียนมาหางานที่ชอบ ก็จะทำให้มีความสุขได้หากได้มีโอกาสทำงานที่ตนเองวาดฝันไว้ อย่างน้อยการทำงานประจำเป็นพนักงานเงินเดือน เป็นการหาประสบการณ์จริง sมั่นศึกษาการบริหารงานของบริษัทในทุกๆ ด้าน เพื่อเป็นความรู้หากต้องออกมาทำอาชีพอิสระของตนเอง
ระหว่างว่างจากช่วงเรียนหรือทำงาน ลองพิจารณาหาอาชีพเสริมทำดู ถ้าคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี ให้นึกถึงกิจกรรมที่ตนเองชอบ + กับทักษะ ความถนัด หรือความรู้ที่เรามีอยู่ โดยเลือกช่องทางขาย โฆษณา เจาะกลุ่มลูกค้าทางช่องทางออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดียทุกประเภท ซึ่งจัดเป็นการลงทุนที่ต้นทุนน้อย เข้าลูกค้าได้ทั่วถึง ตลอด 24 ชั่วโมง
ไม่แน่ว่าอาชีพเสริมอาจจะสามารถพัฒนาเป็นอาชีพหลักที่ทำเงินได้ในอนาคต เพียงแต่ค้นหาให้พบว่าเราอยากจะทำอาชีพเสริมอะไร และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเราเป็นใคร หรือจะตอบสนองความต้องการของเขาได้อย่างไรบ้าง ถ้าเราหาสิ่งที่คนอยากได้ ไปตอบสนองความต้องการเขาได้ มีโอกาสรวยได้ เพียงแต่มองทุกอย่างเป็นโอกาส เช่น
คนสองคนไปเที่ยวบนเกาะแห่งหนึ่งมีพลเมืองจำนวนหลายแสนคน สิ่งที่พบคือเขาไม่ใส่รองเท้ากัน คนหนึ่งบอกว่าเป็นอุปสรรคที่จะมาเปิดร้านขายรองเท้า ไปขายที่อื่นดีกว่า อีกคนมองเห็นเป็นโอกาสว่าถ้ามาเปิดร้านขายรองเท้า รวยแน่ เพียงแต่โฆษณาให้ชาวเกาะเห็นประโยชน์ของการใส่รองเท้า ก็จะมีลูกค้ามาซื้อเป็นแสนคน
ระหว่างว่างจากช่วงเรียนหรือทำงาน ลองพิจารณาหาอาชีพเสริมทำดู ถ้าคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี ให้นึกถึงกิจกรรมที่ตนเองชอบ + กับทักษะ ความถนัด หรือความรู้ที่เรามีอยู่ โดยเลือกช่องทางขาย โฆษณา เจาะกลุ่มลูกค้าทางช่องทางออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดียทุกประเภท ซึ่งจัดเป็นการลงทุนที่ต้นทุนน้อย เข้าลูกค้าได้ทั่วถึง ตลอด 24 ชั่วโมง
ไม่แน่ว่าอาชีพเสริมอาจจะสามารถพัฒนาเป็นอาชีพหลักที่ทำเงินได้ในอนาคต เพียงแต่ค้นหาให้พบว่าเราอยากจะทำอาชีพเสริมอะไร และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเราเป็นใคร หรือจะตอบสนองความต้องการของเขาได้อย่างไรบ้าง ถ้าเราหาสิ่งที่คนอยากได้ ไปตอบสนองความต้องการเขาได้ มีโอกาสรวยได้ เพียงแต่มองทุกอย่างเป็นโอกาส เช่น
คนสองคนไปเที่ยวบนเกาะแห่งหนึ่งมีพลเมืองจำนวนหลายแสนคน สิ่งที่พบคือเขาไม่ใส่รองเท้ากัน คนหนึ่งบอกว่าเป็นอุปสรรคที่จะมาเปิดร้านขายรองเท้า ไปขายที่อื่นดีกว่า อีกคนมองเห็นเป็นโอกาสว่าถ้ามาเปิดร้านขายรองเท้า รวยแน่ เพียงแต่โฆษณาให้ชาวเกาะเห็นประโยชน์ของการใส่รองเท้า ก็จะมีลูกค้ามาซื้อเป็นแสนคน
แสดงความคิดเห็น
นักศึกษาปีสามจะเริ่มทำอะไรได้บ้าง ถ้าอยากมีความมั่งคั่ง มั่นคง ทางการเงินในอนาคต
เป็นการสมัครฝึกงานเพื่อหาประสบการณ์เอง มหาลัยไม่ได้บังคับ
ต้องเข้ากลางเมืองทุกวัน บ้านอยู่ฝั่งธน เริ่มเห็นสัจธรรมพนักงานออฟฟิศ
รถติด มลพิษ คนแออัด จากที่เคยออกกำลังทุกวัน กินข้าวเย็นไม่เกิน 6โมงครึ่ง มีเวลาอ่านหนังสือ พัฒนาตัวเอง
กลายเป็นต้องตื่นตี 5 กลับถึงบ้าน 2 ทุ่มกว่า กินข้าวดึก น้ำหนักขึ้น ตื่นมาตาดำปี๋ หมดแรงงง
แล้วผู้ปกครองเราก้ไม่อนุญาติให้ออกมาเช่าคอนโด หรือหอพักใกล้ๆ เพราะเหตุที่ว่าอยากให้เรากลับบ้านทุกวัน อยากให่อยู่ด้วยกัน
เพราะกลัวว่าถ้าเราจบไป จะออกไปอยู่ข้างนอก ต้องห่างกัน = = แต่เราก็พยายามเข้าใจ
เพิ่งรู้ เพิ่งเห็น เพิ่งได้สัมผัสว่าเป็นอย่างนี้ เรามีกำหนดฝึกงาน 2 เดือน เริ่มรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องทำอะไรสักอย่างที่ทำให้ไม่ต้อง
เป็นแบบนี้ไปอย่างน้อยอีก 30 กว่าปี ของการทำงาน
เราเป็นคนตั้งเป้าหมายให้ตัวเองเสมอ เราพยายาม เราฝึกฝน เพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้เก่งมาด้วยพรสวรรค์อะไรมากมาย
เข้าโรงเรียนมัธยมที่พ่อแม่อยากให้เข้าได้
เข้ามหาวิทยาลัยในคณะที่เราคาดหวัง
เข้ามาฝึกงานกับบริษัท Agency Worldwide ที่สร้างผลงานไว้มากมาย
แล้วต่อไปล่ะ ...... ?
เราว่าเราอยากมีอิสระภาพทางการเงิน ไม่รู้สินะ ตอนนี้ คิดได้เท่านี้
ต้องทำยังไง ต้องเริ่มยังไง ช่วยทีนะคะ