เมื่อNSA แอบดักฟังโทรศัพท์สายตรงจากดูไบ

คืนวันที่7 เมษายน 2557 นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

"ฮัลโหล" ชายชราวัย60เศษ ผู้มีใบหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมรับโทรศัพท์มือถือ หลังจากได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

"ฮัลโหล ท่านคะ นี่ติ่งเองค่ะ" เสียงหญิงวัยกลางคนดังมาจากโทรศัพท์

"อ่าว คุณติ่งเหรอ เป็นยังไงบ้าง"

"ทุกอย่างราบรื่นเป็นไปตามแผนค่ะ ตอนนี้พวกสลิ่มแชร์เรื่องกระเป๋าเดินทางของพระองค์ท่าน จนเงิบไปตามๆกันแล้วค่ะ"

"ขอบคุณมาก ลำบากคุณติ่งจริงๆเลยนะ"

"ดิฉันยินดีค่ะ อุยกายยังยอมเจ็บตัวให้จิวยี่ตีเพื่อหลอกโจโฉ วัสสการพราหมณ์ก็ยอมเจ็บตัวให้พระเจ้าอชาตศัตรูตีเพื่อหลอกกษัตริย์ลิจฉวี ทุกอย่างเป็นไปตามแผน"

"ผมเป็นหนี้บุญคุณคุณตั้งกะปี2548 ที่คุณเสนอให้ผมขัดใจไม่ยอมให้คุณลงสส.พะเยาในนามพรรคไทยรักไทย เพื่อที่คุณจะไปขอเข้าพรรคมหาชน และขัดขวางพรรคมหาชนไม่ให้ครองพื้นที่ภาคเหนือได้สำเร็จ พอเกิดรัฐประหารขึ้น คุณก็มองการไกลว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของผม คุณจึงย้ายไปเข้าพรรคประชาธิปัตย์ในปี2550 แล้วภาพความขัดแย้งของเรา2คนในปี2548ก็ทำให้คุณได้รับการต้อนรับเข้าพรรคประชาธิปัตย์อย่างอบอุ่น"

"ก็ต้องขอบคุณแผนการแชร์ภาพประชุมครม.ยิ้มก่อนยุบสภา,ภาพกระเป๋าส่วนพระองค์ และอีกหลายๆภาพที่พวกเราร่วมกันวางแผนกันมาอย่างดิบดี เพื่อดิสเครดิตประชาธิปัตย์และพวกสลิ่ม"

"แต่ผมยังมองไม่ออกเลยนะ ว่าเมื่อไหร่ภารกิจเราจะจบสิ้น แล้วคุณจะได้กลับมายืนในหมู่พวกเราอย่างผ่าเผยเสียที บอกตามตรงว่าเวลาเห็นคนเสื้อแดงคอยด่าหรือดูถูกสติปัญญาคุณสารพัด ผมก็ยิ่งไม่สบายใจ"

"ดิฉันรับได้ค่ะท่าน ที่แลงเลย์ แม้แต่สายลับซีไอเอที่ตายในหน้าที่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อ พวกเขาจะเป็นวีรบุรุษและวีรสตรีผู้ปิดทองหลังพระไปตลอดกาล แม้ในภายภาคหน้าคนเสื้อแดงจะมองดิฉันเป็นคนน่ารังเกียจเยี่ยงใด สลิ่มจะมองว่าดิฉันเป็นนังโง่ที่เป็นจุดอ่อนของพรรคยังไง ถ้าเพื่อส่วนรวมแล้ว ดิฉันเต็มใจค่ะ"

"คุณคือวีรสตรีผู้ปิดทองอย่างพระอย่างแท้จริง ผมขอคารวะคุณจากใจ"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่