[CR] JAPAN : Hokkaido - Tokyo DAY 2 of 7

สวัสดีครับ มาถึงวันที่ 2 จนได้

คือขอเตือนไว้ก่อนนะครับ ว่ากระทู้นี้ยาว และรูปเยอะมากครับ

ทั้งๆ ที่จะพยายามทำให้สั้นลง แต่ตัดรูปไปมา ยังไงมันก็เหลือ 100 กว่ารูปอยู่ดี หัวเราะ

ก็เลยช่างมันครับ รีวิวยาวๆ เวิ่นๆ ตามสไตร์ผมละกันครับ

พร้อมกันรึยังครับ ถ้าพร้อมแล้ว ตามผมมาเลย

*****************************
วิวจากห้องนอนตอนเช้าครับ


ตอนเช้า ถ่ายรูปหน้าโรงแรมหน่อย


หน้าสถานี JR Asahikawa หิมะหนาจริงๆ


วันนี้วางแผนจะไป Blue Pond ที่ Biei โดยรถไฟเที่ยวแรก 5:47 แต่จำผิดคิดว่าเป็น 5:57
พอรู้ตัวก็รีบวิ่งขึ้นไปชานชาลา (ไม่ผิดละนะ) ขึ้นไปถึง 5:47 พอดีเป๊ะ ภาพที่เห็นคือ
ประตูค่อยๆ ปิดอย่างสโลว์โมชั่น รถไฟค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป ทิ้งให้ผมยืนน้ำตาไหลพราก

ผิดแผน!!! ในใจอยากกรีดร้องเป็นภาษารัสเซีย เพราะถ้าผมพลาดรถไฟเที่ยวนี้ ผมจะไปดู Blue Pond ที่ผมอยากดูมากๆ แล้วจะกลับมาไม่ทันตั๋วรถไฟที่ผมจองไป Sapporo (จองที่นั่งล่วงหน้าไว้แล้ว ตอน 12:55)
ตอนแรกคิดว่านั่งแท๊กซี่ไปเลยดีมั้ย หาข้อมูลได้ความว่า ค่าแท๊กซี่ไปก็ 2000 กว่าบาทแล้วจ่ะเทอว์ ยังไม่รวมขากลับอีกนะ
ด้วยความงก ก็เลยบอกว่าช่างมันทำอย่างอื่นแทนก็ได้ แต่อีกใจมันค้านว่า เฮ้ย นี่เรามานอน Asahikawa ก็เพื่อดู Blue Pond เลยนะ
สรุป ก็เลยเลื่อนตั๋ว Sapporo ออกไป แล้วก็นั่งรถไฟไป Biei เที่ยวต่อมา

วิวระหว่างทางนั่งรถไฟไปครับ สวยมาก น้ำตาจะไหล (ขอหยุดหั่นหัวหอมนะครับ)






ซึ่งรถบัสจากสถานี Biei ไป Blue Pond มีประมาณ 1.30 ชั่วโมงต่อคัน ทำให้ผมมีเวลาว่าง นั่งรถเลยไป Furano เกร๋ๆ
ก็เลยไปถ่ายๆๆๆ รูปแถวสถานี Furano ฆ่าเวลา






พอใกล้เวลาแล้ว ก็นั่งรถกลับมา Biei
จริงๆ ศึกษามาแล้ว ว่ารถบัสไป Blue Pond ขึ้นที่ไหน ราคาเท่าไหร่
แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว ไปหา Travel Information ขอข้อมูลเพื่อความแน่นอนอีกที
Travel Information เป็นตึกหน้าต่างสีเขียว ที่เวลาออกมาจากสถานี Biei จะอยู่ซ้ายมือ
ผม : หวัดดีครับ ผมจะไป Blue Pond มีรถกี่โมงอ่ะครับ
อาเจ๊ : โอ้ว ซอรี่ค่ะ Blue Pond เราปิดนะคะ
ผม : ...
อาเจ๊ : ปิดค่ะ
ผม : เอ่อ แค่ไปถ่ายรูปอย่างเดียว ได้มั้ยครับ
อาเจ๊ : ปิดค่ะ หิมะเยอะเลย (ทำมือสูงๆ)
ผม : เห้!!! เรามาทำไมเนี่ยยยยยยยยย //ทิ้งตัวลงคุกเข่า ร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือด
ผม : ละๆๆ แล้วมีที่ไหนให้ดูได้มั่งอ่ะครับ //เสียงสั่น
อาเจ๊ : มี Patchwork Road ที่เป็นวิวพาโนราม่า มีเนิน Mild Seven Hill แล้วก็ Shiragone Waterfall สวยนะคะฤดูนี้

ซึ่ง Patchwork Road ผมก็อยากไปเหมือนกัน แต่ติดปัญหาตรงที่ไม่มีเวลาพอ แถมถนนน้ำแข็งเกาะเต็มเลย แค่เดินก็เหมือนเล่นสเก๊ตละ นี่ต้องปั่นจักรยน คงได้หัวร้างข้างแตกกันเป็นแน่ ยัยนี่ไม่ห่วงชีวิตเราเลย(คิดในใจ)
ก็เลยเลือกไป Shiragone Waterfall แทน ห่างจาก Blue Pond ไป 1 ป้ายรถเมลล์ ค่ารถเที่ยวเดียว 650 เยน (ซึ่งมันเป็นรถบัสที่มาจากสถานี Asahikawa นะครับ ถ้านั่งจากโน่นไป Shiragone Waterfall เลยก็น่าจะประมาณ 1300 เยน)
ก็เลยนั่งรถบัสไป Shiragone วิวข้างทางสวยมากครับ แต่ไม่ได้ถ่าย เพราะอีรถบัสนี่ กระจกมัวมากมาย เหมือนไม่ได้ล้าง
ผ่านทางเข้า Blue Pond แทบไม่เห็นทางครับ หิมะเยอะจริงๆ
ถึงละ ป้าย Shiragone Onsen เดินเข้าไปหน่อย ก็จะเจอน้ำตก
















ถ่ายพอสมควร ก็รีบกลับดีกว่า ป้ายรถบัสอันนี้ รถมาตรงเวลามาก


กลับมาถึงสถานี Biei แล้ว รถไฟเที่ยวต่อไป กว่าจะออกก็อีก 1 ชั่วโมง
ก็เลยหาข้าวกลางวันกินดีกว่า พยายามเดินหาเองแล้ว หาร้านไม่เจอเลย
ก็เลยเดินเข้าไปถาม Travel Information อีกรอบ
อาเจ๊ วงร้านอาหารในแผนที่มาให้ เลยลองไปดูร้านในแผนที่ชื่อ Daimaru
แต่... หาไม่เจอจ้าาาา ทำไมไม่มีร้าน Daimaru ทำไมมีแต่ชื่อร้านภาษาญี่ปุ่นเนี่ย
เจอร้านอาหารแหละ แต่ชื่อมันภาษาญี่ปุ่น Landmark อะไรใช่หมด
คงใช่มั้ง ก็เลยเสี่ยงเข้าไป


มีเมนูภาษาอังกฤษด้วย


สั่งชุดข้าวกุ้งทอดกับไก่ทอดมา ราคา 700 กว่าเยน  กินขำๆ กันหิว
แต่สิ่งที่มา... คือโทษเหอะ ชิ้นใหญ่มากกกกกกก ไก่ชิ้นนึงผมต้องกัดประมาณ 4 คำถึงจะหมด


แล้วเค้าทอดมาได้ดี อร่อยมากกกกก คราวหน้ามาอีกจะไม่พลาดเลย


ถึงเวลารถไฟออก (เมื่อวานเรามาสำรวจละ รู้ว่า รถไฟกลับไป Asahikawa มันต้องขึ้นที่ชานชาลา 2 ต้องเดินข้ามไปอีกฝั่ง แต่เอ๊ะ ทำไมมีแต่รถไฟจอดชานชาลา 1 ล่ะ ถามเจ้าหน้าที่ ก็บอกว่า คันนี้แหละไป Asahikawa สรุป ที่อุตสาห์มาสำรวจ ใช้อะไรไม่ได้เบย)
ไปถึง Asahikawa ประมาณ เที่ยงนิดๆ สรุป ต้องไปเปลี่ยนตั๋วกลับเป็นรอบ 12:55 เหมือนเดิม (แอบไปเปลี่ยนที่อีกคน)
พอถึงสถานี Sapporo มีเวลาเปลี่ยนรถไฟไป Noboribetsu นาน ก็เลยเดินเล่นรอบๆ สถานี
ของฝากหลากหลาย รวมกันอยู่ที่นี่แล้ว












เลยลองซื้ออันนี้มากินเล่นบนรถไฟ ได้ยินคนพูดถึงบ่อย
สรุปมันก็หอมเนยนะ แต่แป้งไม่ถูกปากผมเท่าไหร่ แล้วแต่คนเนาะ


ถึงสถานี Noboribetsu แล้ว ขอเตือนว่า สถานีนี้ไม่มีบันไดเลื่อนไม่มีลิฟท์เน้อ
ใครกระเป๋าใบใหญ่ ต้องกำลังแขนตัวเองล้วนๆ
มีหมีมารอ เห็นหมีกันมั้ย


สถานีเล็กๆ


หน้าสถานีมียักษ์ตนนี้เฝ้าอยู่


เดินไปป้ายรถบัส จะไปโรงแรม


เวลานี้


รถบัสไปจอดที่ลาน โรงแรมเราก็เดินขึ้นเนินไปสุดโน่น ช่างเป็นสถานที่ฝึกกำลังโดยแท้
ถึงโรงแรมละ พักที่ Dai-ichi Takimotokan ลืมถ่ายหน้าโรงแรม รีบเข้าไปเช็คอินก่อน
ห้องที่ได้


เป็นห้องแบบญี่ปุ่นครับ ห้องน้ำโอเค


โต๊ะนั่งเล่น มีของกินเล่นต้อนรับด้วย




มีตู้แบบญี่ปุ่นเก็บที่นอน


วิวนอกหน้าต่าง


ที่นี่ค่าที่พักรวมอาหาร 2 มื้อแล้ว มื้อเย็นกับมื้อเช้า
จริงๆ มื้อเย็นอยากได้แบบทานในห้อง แต่จองผ่าน Agoda มันไม่มีให้เลือก เซ็งเลย
เลยได้เป็นแค่บุฟเฟท์ธรรมดา ซึ่งราคาก็ไม่ได้ต่างกับจองในเวปเท่าไหร่เลย
ที่โรงแรมนี้ดังเรื่องบ่อน้ำแร่ ก็เลยรีบไปแช่ตัวก่อนที่จะทานข้าวเย็น (ห้องอาหารเย็นเปิด 6 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม)

ทางเดินไปออนเซ็น


แยกชายหญิงนะจ๊ะ






จากนี้เซ็นเซอร์นะครับ
ห๊ะ!! ว่าไงนะ อยากดูเหรอ อืมๆ ได้ๆ ให้ดูนิดเดียวนะ

เบื้อหลังล็อคเกอร์นี่ ก็แก้หมดล่ะครับ
ชื่อสินค้า:   Hokkaido
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่