เอาของแถม (Booklet) จากที่ซื้อแผ่น Blu-ray เรื่อง Thor : The Dark World มาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ดูบางส่วน สำหรับคนที่ไม่สามารถดูแผ่น Blu-ray ได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

และอยากจะมาแบ่งปันในส่วนของเนื้อหา A Brother’s Journey : Thor & Loki (การผจญภัยของสองพี่น้อง ธอร์ และ โลกิ) มี 2 Part ซึ่งเราได้เคยแบ่งปันในกระทู้ของ Loki's army ค่ะ แต่อาจจะมีหลายคนที่ยังไม่เคยเจอกระทู้นี้ จึงนำมาตั้งเป็นกระทู้สนทนาข้างนอกค่ะ ซึ่งเป็นเบื้องหลังการถ่ายทำ และความคิดเห็นของผู้บริหารการสร้าง ทำให้เราได้เห็นภาพและเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้สร้างหนังเรื่องนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องธอร์ ซึ่งหลายๆ คน มักจะวิจารณ์โดยตั้งอยู่บน “อารมณ์ และความคาดหวัง” ของตัวเอง แล้วนำไปเผยแพร่ให้สาธารณชนรับรู้ ซึ่งทำให้ผู้รับข้อมูลบางคนมีความรู้สึกว่าหนังไม่ดี ไม่สนุก ไม่ตรงใจ (โดยเฉพาะ ภาค 1 เพราะคาดหวังว่าจะต้องบู้ระห่ำ) แต่สำหรับเราคิดว่ามันเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งทีเดียว เป็นความแปลกใหม่ไม่ซ้ำแบบใครเลยค่ะ
ต่อไปนี้เป็นบทความที่ถอดออกมาในส่วนของเฉพาะที่ผู้บริหารการสร้าง
กล่าวถึงโลกิเท่านั้น เพราะเราชอบตัวละครนี้ค่ะ
(ในส่วนที่ขีดเส้นใต้และมีหมายเลขกำกับนั้น เราขอสแดงความคิดเห็นส่วนตัวในตอนล่างของกระทู้ค่ะ)
เครก ไคล์ ผู้อำนวยการสร้างบริหาร
ผมมองภาพยนตร์เหล่านี้ว่าเป็น
ไตร-โลกิ1[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากเด็กชายไร้เดียงสาที่ค้นพบความจริงอันมืดมน ผู้ที่พยายามนำชีวิตตัวเองกลับมาด้วยวิธีการที่เลวร้ายที่สุด และการที่เขาจมดิ่งลงเหว ขณะที่ธอร์กลายเป็นวีรบุรุษ โลกิได้กลายเป็นจอมวายร้าย
ครั้งแรก ทอมมาลองบทธอร์ เขาซ้อม เข้ามาแล้วก็ปล่อยเต็มที่ เขาเหวี่ยงค้อนท่ามกลางสายฝน เขาทำได้ดีมาก แต่เขาก็ยังไม่ใช่ธอร์ แต่จากวินาทีที่เขาเข้ามาอ่านบท เขาคือโลกิ
โลกิคือคนที่ผมคิดว่า ในที่สุดก็ยอมรับความจริงได้ว่าเขาจะต้องเป็นมือรองเสมอ เขาจะไม่มีโอกาสได้ครอบครองบัลลังก์ แต่การถูกเนรเทศของธอร์ เปิดโอกาสให้สิ่งที่เขาลืมและก็เลิกคิดไปนานแล้ว นั่นคือความต้องการที่จะเท่าเทียมพี่ชาย กลับมาครอบงำเขาอีก
ถ้าโอดินมีศรัทธาในตัวโลกิมากกว่านั้น และตรงไปตรงมากับลูกชายของเขามากกว่านี้ บอกความลับที่เขาต้องเก็บงำไว้ ก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความหายนะในครอบครัว และการแตกคอกันของลูกชายสองคน ทั้งที่เริ่มต้นจากพี่น้องที่รักใคร่กัน แต่ลงท้ายเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดต่อกัน
ในตอนท้ายเรื่อง Thor เราเห็นเขาแยกตัวออกจากอดีต จากครอบครัว และเรารับรู้ได้ว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดีถ้าเขามี ถูกลบล้างออกไปหมดแล้ว
เส้นทางเดินของโลกิชัดเจนมาก เขาคือตัวละครในการ์ตูนที่ทำให้ทีมมารวมตัวกัน ในจักรวาลภาพยนตร์ของเรา เขาก็จะเป็นคนที่ทำให้อเวนเจอร์มารวมตัวกัน
ความคิดเห็นส่วนตัว
1. เคยมีแฟนคลับบางคนบอกว่า ธอร์ภาค 2 นี้คือ โลกิภาค 3 ค่ะ เห็นด้วยจริงๆ เพราะเราได้เห็นพัฒนาการในบุคลิกของโลกิ (ยอมรับว่าพี่ทอมแสดงเก่งมาก) ภาค 1 ให้ความรู้สึกของความเจ้าเล่ห์เพทุบาย + น่าเห็นใจ ภาค Avengers ให้ความรู้สึกของการเป็นเด็กมีปัญหา อันธพาล เกเร น่าตบกระโหลกยิ่งนัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(แต่เห็นได้ว่าโลกิดูมีความสุขกว่าภาค 1 เพราะเห็นยิ้มอยู่หลายฉาก) ภาค 2 ให้ความรู้สึกน่าสงสาร+ตลกเฮฮา (แต่โทษทัณฑ์ที่ได้รับก็สมควรกับการกระทำแล้วหละ)
เนื้อหา A Brother’s Journey : Thor & Loki (การผจญภัยของสองพี่น้อง ธอร์ และ โลกิ) ในแผ่น Blu-ray
และอยากจะมาแบ่งปันในส่วนของเนื้อหา A Brother’s Journey : Thor & Loki (การผจญภัยของสองพี่น้อง ธอร์ และ โลกิ) มี 2 Part ซึ่งเราได้เคยแบ่งปันในกระทู้ของ Loki's army ค่ะ แต่อาจจะมีหลายคนที่ยังไม่เคยเจอกระทู้นี้ จึงนำมาตั้งเป็นกระทู้สนทนาข้างนอกค่ะ ซึ่งเป็นเบื้องหลังการถ่ายทำ และความคิดเห็นของผู้บริหารการสร้าง ทำให้เราได้เห็นภาพและเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้สร้างหนังเรื่องนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องธอร์ ซึ่งหลายๆ คน มักจะวิจารณ์โดยตั้งอยู่บน “อารมณ์ และความคาดหวัง” ของตัวเอง แล้วนำไปเผยแพร่ให้สาธารณชนรับรู้ ซึ่งทำให้ผู้รับข้อมูลบางคนมีความรู้สึกว่าหนังไม่ดี ไม่สนุก ไม่ตรงใจ (โดยเฉพาะ ภาค 1 เพราะคาดหวังว่าจะต้องบู้ระห่ำ) แต่สำหรับเราคิดว่ามันเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งทีเดียว เป็นความแปลกใหม่ไม่ซ้ำแบบใครเลยค่ะ
ต่อไปนี้เป็นบทความที่ถอดออกมาในส่วนของเฉพาะที่ผู้บริหารการสร้างกล่าวถึงโลกิเท่านั้น เพราะเราชอบตัวละครนี้ค่ะ (ในส่วนที่ขีดเส้นใต้และมีหมายเลขกำกับนั้น เราขอสแดงความคิดเห็นส่วนตัวในตอนล่างของกระทู้ค่ะ)
เครก ไคล์ ผู้อำนวยการสร้างบริหาร
ผมมองภาพยนตร์เหล่านี้ว่าเป็น ไตร-โลกิ1[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ จากเด็กชายไร้เดียงสาที่ค้นพบความจริงอันมืดมน ผู้ที่พยายามนำชีวิตตัวเองกลับมาด้วยวิธีการที่เลวร้ายที่สุด และการที่เขาจมดิ่งลงเหว ขณะที่ธอร์กลายเป็นวีรบุรุษ โลกิได้กลายเป็นจอมวายร้าย
ครั้งแรก ทอมมาลองบทธอร์ เขาซ้อม เข้ามาแล้วก็ปล่อยเต็มที่ เขาเหวี่ยงค้อนท่ามกลางสายฝน เขาทำได้ดีมาก แต่เขาก็ยังไม่ใช่ธอร์ แต่จากวินาทีที่เขาเข้ามาอ่านบท เขาคือโลกิ
โลกิคือคนที่ผมคิดว่า ในที่สุดก็ยอมรับความจริงได้ว่าเขาจะต้องเป็นมือรองเสมอ เขาจะไม่มีโอกาสได้ครอบครองบัลลังก์ แต่การถูกเนรเทศของธอร์ เปิดโอกาสให้สิ่งที่เขาลืมและก็เลิกคิดไปนานแล้ว นั่นคือความต้องการที่จะเท่าเทียมพี่ชาย กลับมาครอบงำเขาอีก
ถ้าโอดินมีศรัทธาในตัวโลกิมากกว่านั้น และตรงไปตรงมากับลูกชายของเขามากกว่านี้ บอกความลับที่เขาต้องเก็บงำไว้ ก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความหายนะในครอบครัว และการแตกคอกันของลูกชายสองคน ทั้งที่เริ่มต้นจากพี่น้องที่รักใคร่กัน แต่ลงท้ายเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดต่อกัน
ในตอนท้ายเรื่อง Thor เราเห็นเขาแยกตัวออกจากอดีต จากครอบครัว และเรารับรู้ได้ว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดีถ้าเขามี ถูกลบล้างออกไปหมดแล้ว
เส้นทางเดินของโลกิชัดเจนมาก เขาคือตัวละครในการ์ตูนที่ทำให้ทีมมารวมตัวกัน ในจักรวาลภาพยนตร์ของเรา เขาก็จะเป็นคนที่ทำให้อเวนเจอร์มารวมตัวกัน
ความคิดเห็นส่วนตัว
1. เคยมีแฟนคลับบางคนบอกว่า ธอร์ภาค 2 นี้คือ โลกิภาค 3 ค่ะ เห็นด้วยจริงๆ เพราะเราได้เห็นพัฒนาการในบุคลิกของโลกิ (ยอมรับว่าพี่ทอมแสดงเก่งมาก) ภาค 1 ให้ความรู้สึกของความเจ้าเล่ห์เพทุบาย + น่าเห็นใจ ภาค Avengers ให้ความรู้สึกของการเป็นเด็กมีปัญหา อันธพาล เกเร น่าตบกระโหลกยิ่งนัก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ (แต่เห็นได้ว่าโลกิดูมีความสุขกว่าภาค 1 เพราะเห็นยิ้มอยู่หลายฉาก) ภาค 2 ให้ความรู้สึกน่าสงสาร+ตลกเฮฮา (แต่โทษทัณฑ์ที่ได้รับก็สมควรกับการกระทำแล้วหละ)