เกริ่นก่อนน่ะครับ เครื่องเก่าผมใช้ nokia lumia 620 ชอบมากถ่ายรูปสวยดี เอาไว้อัดเวลาร้องเพลงได้ด้วย เป็น smart phone เครื่องแรก
ก็เกิดจุดหันเห เอาไปฟังเพลงในห้องน้ำแล้วมันก็หล่นจากรูตะกร้าลงมาจอแตก เอาล่ะสิ !! ได้เวลาหาเครื่องใหม่
ไอ้ใจเราก็หลงรัก nokia แบบสุด ๆ ใช้แต่รุ่นนี้อะน้อ ก็หาข้อมูล จะเอา 1020 หรือ 1520 ดีน่ะ แบบว่าชอบถ่ายรูป
ก็ดูไปเรื่อยๆ เป็นเดือนแต่ตัดสินใจซื้อ Xiaomi MI3 ภายในเวลา 1 วัน เพราะว่ามันเหมาะกับธุรกิจมากกว่า (ตรงที่อัดเสียงได้เวลาคุย)
และอีกหลายๆอย่างเดี๋ยวจะเล่าไปเรื่อยๆน่ะครับ
จิตใจลังเล เครื่องจีน รีวิวน้อย ไม่มีประกัน ไม่มีอุปกรณ์เสริมขายทั่วไป ไม่มีอีกหลายๆอย่าง คนทั่วไปไม่รู้จัก ทำไงดีน้อ
เลยตัดสินใจลองดู สั่งร้านๆนึงที่ MBK ราคา 13200 (น้อยใจใช้ไม่ถึงอาทิตย์เหลือ 12500 เฉพาะเครื่องน่ะ)
เอาล่ะเข้าเรื่องแล้วน่ะครับจะบอกถึงข้อดีของเจ้า Xiaomi MI3 ข้อดีจากตัวผมเองน่ะ
1.หลังจากจับเครื่องครั้งแรก มันเบามาก วัสดุด้านหลังจับแล้วเหมือน ipad ผมใช้สี ขาวดำ ประกอบวัสดุได้เนียนมาก
2.การใช้งานพวกทัช เข้าๆ ออกๆ โปรแกรมทำได้ไวมาก ส่วนเกมส์เนี่ยเล่นได้ทุกเกมส์ไม่มีกระตุกเลย
3.มีเมนูให้ปรับแต่งหลายอย่าง เอาง่ายๆ เหมือนคอมพิวเตอร์มีเร่งการประมวลผล มีประหยัดพลังงาน
4.ใช้งานทั้งวันได้สบายๆเพราะแบต 3000 นิด ๆ ไอ้ผมใช้แค่ถ่ายรูป โทรเข้าโทรออก อยู่ได้เป็นสองวัน
5.แอนดรอยด์แจ้งเตือนไวมากพวกอัพเดทโปรแกรม แล้วก็พวก Line Facebook อันนี้ขอบอก nokia ยังห่างชั้นมาก
6.ระหว่างคุยโทรศัพท์สามารถบันทึกเสียงได้ ติดมากับโปรแกรมเครื่องเลย อันนี้จำเป็นสำหรับธุรกิจมากครับ
7.Wifi จับสัญญาณ ได้ดีเทียบเท่า Notebook ทดลองโดยเอาวางไว้ใกล้ๆกับ Xiaomi MI3 (เปรียบเทียบกับ notebook asus k46cm)
8.ลำโพงเสียงดังดี เสียงคุยโทรศัพท์ฟังชัดเจน อีกฝังก็ชัดเจนมีระบบตัดเสียงรบกวน
9.กล้องโฟกัสได้ช้ากว่า Iphone5s นิดนึง แต่ความเร็วในการถ่ายภาพเท่ากันเลยครับ
10.มีแฟลชสองตัวสว่างดีครับ ถ่ายตอนมืด ๆ เนี่ยจะเห็นภาพได้ชัดเจนเลย
11.GPS จับสัญญาณได้เร็วมาก เปิดปุ๊บ จับตำแหน่งปั๊บ
12.การถ่ายโอนข้อมูลเข้าออก คอมพิวเตอร์ทำใด้เร็วมากครับ แล้วก็ง่ายด้วยไม่ต้องใช้โปรแกรมช่วย
13.มีอัพเดททุกอาทิตย์เลย เค้าทำกันดีน่ะเรื่องนี้
14.มี สกิน ธีม รูปภาพ แล้วก็ไอ้พวกแต่งไอคอน หรือพวกยูไอ สวยๆเยอะครับ แบบฟรีก็มีเยอะ
15.มีระบบป้องกันไวรัส แล้วก็ลบไฟล์ขยะภายในเครื่อง แล้วก็โปรแกรมจัดเรียงข้อมูลมาในตัวเลย
16.ฟังวิทยุได้โดยที่ไม่ต้องใส่หูฟัง
17.โหมดประหยัดพลังงาน ปิดการสั่น รับเบอร์เฉพาะที่ตั้งค่า ปิดตัวที่ไม่จำเป็น ที่สำคัญตั้งเวลาได้ด้วยว่าจะ sleep mode ตอนไหน
18.กล้องถ่ายภาพกลางวันสวยดีครับ ในกรณีที่นำไปใช้เลย ไม่ได้ซูมภาพมาก
ข้อเสียของเจ้า Xiaomi MI3 แบบจัดเต็มเลยน่ะ
1.ไม่มีประกันศูนย์ในไทย (แต่ผมว่าราคานี้ 12000-13000 สเป็คนี้ ยังไงก็คุ้มแค่เช็คเครื่องก่อนจ่ายเงินดี ๆ)
2.ไม่มีหูฟังแถมมากับตัวเครื่อง (ประเด็นคือผมจะไปหาอันที่ เข้ากับ Xiaomi MI3 ได้ที่ไหน T_T)
3.เคส ฟิมล์ แล้วก็อุปกรณ์เสริมอื่นๆ หายากมาก (แต่มีบางเจ้าเริ่มเอาเข้ามาขายกันแล้ว)
4.ใส่ฟิมล์กันลายยี่ห้อโฟกัส แบบตัดใช้ได้ 5 วัน เอาผ้าเช็ดหน้าจอฟิมล์หลุดเลย (ไม่ใช่ของมันเองเลยหลุดง่ายครับ)
5.หลังจากใช้ไปนานๆ เครื่องมันจะช้า ลองปิดโปรแกรมหมดแล้ว ต่างจาก lumia ที่เร็วตลอด คิดว่าเป็นเรื่องปกติของแอนดรอยด์
6.แบตอึดทนนานก็จริง แต่ตอนชาร์จก็นานตามไปด้วย T_T
7.กล้องถ่ายได้เร็วแต่ เหมือนไม่มีระบบกันสั่น ภาพที่ได้ออกมาสู้ตัวดังๆของ lumia ไม่ได้ 620 ผมยังได้รายละเอียดมากกว่าในการซูม
8.แฟลชสว่างก็จริงแต่ว่า เหมือนระบบมันยังไม่ฉลาดพอ ที่จะเลือกระดับแสงในตอนถ่าย ภาพที่ได้จึงออกมาขาวเวอร์
9.ฟังวิทยุได้โดยไม่ต้องใส่หูฟัง แต่มันก็จับสัญญาณได้ไม่ดีน่ะ ยังไงก็ต้องใช้หูฟังช่วยอยู่ดี
10.กล้องหน้าสู้ Iphone5s ไม่ได้ คือยังไงดีอะ ประมาณว่าภาพมันแปลกๆ มันไม่เนียนเหมือนถ่ายไม่ชัดน่ะครับทั้งๆที่มือนิ่ง
เท่าที่ผมคิดออกก็มีประมาณนี้แหละครับ สรุปแล้วโดยรวมยังไงผมก็จะใช้ไปจนกว่าระบบปฏิบัติการของ nokia จะหลากหลายยังไง
ผมก็ยังชอบ nokia อยู่ดี เรื่องกล้องน่ะครับ แต่ในการซื้อของพวกนี้เราต้องแยกแยะว่าอันไหนที่เหมาะสมกับเราจริงๆ คุ้มค่าจริงๆ
มันสร้างประโยชน์ให้เราได้จริงๆ แล้วก็เลือกตัวนั้นครับ เมื่อมันทำเงินให้เราได้ เราก็ค่อยไปซื้อเครื่องที่เราชอบอีกที ไม่เสียหาย
มีเรื่องเล่าน่ะครับ หลังจากที่ใช้ Xiaomi MI3 มาได้หนึ่งอาทิตย์
หลายคนเข้ามาถามว่า รุ่นอะไรเหรอ จอใหญ่ดีจัง ทำไมถ่ายรูปเร็วจัง เล่นเกมส์ไม่สะดุดเลยภาพสวยมากๆ วัสดุแลจะทนทานมากเลยน้อ
ราคาเท่าไหร่เนี่ย อยากได้บ้างจัง พอบอกไปว่ายี่ห้อ Xiaomi MI3 ซื้อมาจากจีน สั่งผ่านร้านในไทยเนี่ยแหละ 13000 ไม่มีประกันน่ะ
หลายคนก็พากันยี้ เครื่องจีนเหรอ ทำไมของจีนแพงจัง ไม่มีประกันด้วย ไม่เห็นจะดีเลย ไม่เอาหรอกของจีน ประมาณนี้ ^^
[CR] บอกเล่า ซื้อจริง ใช้เอง Xiaomi MI3
ก็เกิดจุดหันเห เอาไปฟังเพลงในห้องน้ำแล้วมันก็หล่นจากรูตะกร้าลงมาจอแตก เอาล่ะสิ !! ได้เวลาหาเครื่องใหม่
ไอ้ใจเราก็หลงรัก nokia แบบสุด ๆ ใช้แต่รุ่นนี้อะน้อ ก็หาข้อมูล จะเอา 1020 หรือ 1520 ดีน่ะ แบบว่าชอบถ่ายรูป
ก็ดูไปเรื่อยๆ เป็นเดือนแต่ตัดสินใจซื้อ Xiaomi MI3 ภายในเวลา 1 วัน เพราะว่ามันเหมาะกับธุรกิจมากกว่า (ตรงที่อัดเสียงได้เวลาคุย)
และอีกหลายๆอย่างเดี๋ยวจะเล่าไปเรื่อยๆน่ะครับ
จิตใจลังเล เครื่องจีน รีวิวน้อย ไม่มีประกัน ไม่มีอุปกรณ์เสริมขายทั่วไป ไม่มีอีกหลายๆอย่าง คนทั่วไปไม่รู้จัก ทำไงดีน้อ
เลยตัดสินใจลองดู สั่งร้านๆนึงที่ MBK ราคา 13200 (น้อยใจใช้ไม่ถึงอาทิตย์เหลือ 12500 เฉพาะเครื่องน่ะ)
เอาล่ะเข้าเรื่องแล้วน่ะครับจะบอกถึงข้อดีของเจ้า Xiaomi MI3 ข้อดีจากตัวผมเองน่ะ
1.หลังจากจับเครื่องครั้งแรก มันเบามาก วัสดุด้านหลังจับแล้วเหมือน ipad ผมใช้สี ขาวดำ ประกอบวัสดุได้เนียนมาก
2.การใช้งานพวกทัช เข้าๆ ออกๆ โปรแกรมทำได้ไวมาก ส่วนเกมส์เนี่ยเล่นได้ทุกเกมส์ไม่มีกระตุกเลย
3.มีเมนูให้ปรับแต่งหลายอย่าง เอาง่ายๆ เหมือนคอมพิวเตอร์มีเร่งการประมวลผล มีประหยัดพลังงาน
4.ใช้งานทั้งวันได้สบายๆเพราะแบต 3000 นิด ๆ ไอ้ผมใช้แค่ถ่ายรูป โทรเข้าโทรออก อยู่ได้เป็นสองวัน
5.แอนดรอยด์แจ้งเตือนไวมากพวกอัพเดทโปรแกรม แล้วก็พวก Line Facebook อันนี้ขอบอก nokia ยังห่างชั้นมาก
6.ระหว่างคุยโทรศัพท์สามารถบันทึกเสียงได้ ติดมากับโปรแกรมเครื่องเลย อันนี้จำเป็นสำหรับธุรกิจมากครับ
7.Wifi จับสัญญาณ ได้ดีเทียบเท่า Notebook ทดลองโดยเอาวางไว้ใกล้ๆกับ Xiaomi MI3 (เปรียบเทียบกับ notebook asus k46cm)
8.ลำโพงเสียงดังดี เสียงคุยโทรศัพท์ฟังชัดเจน อีกฝังก็ชัดเจนมีระบบตัดเสียงรบกวน
9.กล้องโฟกัสได้ช้ากว่า Iphone5s นิดนึง แต่ความเร็วในการถ่ายภาพเท่ากันเลยครับ
10.มีแฟลชสองตัวสว่างดีครับ ถ่ายตอนมืด ๆ เนี่ยจะเห็นภาพได้ชัดเจนเลย
11.GPS จับสัญญาณได้เร็วมาก เปิดปุ๊บ จับตำแหน่งปั๊บ
12.การถ่ายโอนข้อมูลเข้าออก คอมพิวเตอร์ทำใด้เร็วมากครับ แล้วก็ง่ายด้วยไม่ต้องใช้โปรแกรมช่วย
13.มีอัพเดททุกอาทิตย์เลย เค้าทำกันดีน่ะเรื่องนี้
14.มี สกิน ธีม รูปภาพ แล้วก็ไอ้พวกแต่งไอคอน หรือพวกยูไอ สวยๆเยอะครับ แบบฟรีก็มีเยอะ
15.มีระบบป้องกันไวรัส แล้วก็ลบไฟล์ขยะภายในเครื่อง แล้วก็โปรแกรมจัดเรียงข้อมูลมาในตัวเลย
16.ฟังวิทยุได้โดยที่ไม่ต้องใส่หูฟัง
17.โหมดประหยัดพลังงาน ปิดการสั่น รับเบอร์เฉพาะที่ตั้งค่า ปิดตัวที่ไม่จำเป็น ที่สำคัญตั้งเวลาได้ด้วยว่าจะ sleep mode ตอนไหน
18.กล้องถ่ายภาพกลางวันสวยดีครับ ในกรณีที่นำไปใช้เลย ไม่ได้ซูมภาพมาก
ข้อเสียของเจ้า Xiaomi MI3 แบบจัดเต็มเลยน่ะ
1.ไม่มีประกันศูนย์ในไทย (แต่ผมว่าราคานี้ 12000-13000 สเป็คนี้ ยังไงก็คุ้มแค่เช็คเครื่องก่อนจ่ายเงินดี ๆ)
2.ไม่มีหูฟังแถมมากับตัวเครื่อง (ประเด็นคือผมจะไปหาอันที่ เข้ากับ Xiaomi MI3 ได้ที่ไหน T_T)
3.เคส ฟิมล์ แล้วก็อุปกรณ์เสริมอื่นๆ หายากมาก (แต่มีบางเจ้าเริ่มเอาเข้ามาขายกันแล้ว)
4.ใส่ฟิมล์กันลายยี่ห้อโฟกัส แบบตัดใช้ได้ 5 วัน เอาผ้าเช็ดหน้าจอฟิมล์หลุดเลย (ไม่ใช่ของมันเองเลยหลุดง่ายครับ)
5.หลังจากใช้ไปนานๆ เครื่องมันจะช้า ลองปิดโปรแกรมหมดแล้ว ต่างจาก lumia ที่เร็วตลอด คิดว่าเป็นเรื่องปกติของแอนดรอยด์
6.แบตอึดทนนานก็จริง แต่ตอนชาร์จก็นานตามไปด้วย T_T
7.กล้องถ่ายได้เร็วแต่ เหมือนไม่มีระบบกันสั่น ภาพที่ได้ออกมาสู้ตัวดังๆของ lumia ไม่ได้ 620 ผมยังได้รายละเอียดมากกว่าในการซูม
8.แฟลชสว่างก็จริงแต่ว่า เหมือนระบบมันยังไม่ฉลาดพอ ที่จะเลือกระดับแสงในตอนถ่าย ภาพที่ได้จึงออกมาขาวเวอร์
9.ฟังวิทยุได้โดยไม่ต้องใส่หูฟัง แต่มันก็จับสัญญาณได้ไม่ดีน่ะ ยังไงก็ต้องใช้หูฟังช่วยอยู่ดี
10.กล้องหน้าสู้ Iphone5s ไม่ได้ คือยังไงดีอะ ประมาณว่าภาพมันแปลกๆ มันไม่เนียนเหมือนถ่ายไม่ชัดน่ะครับทั้งๆที่มือนิ่ง
เท่าที่ผมคิดออกก็มีประมาณนี้แหละครับ สรุปแล้วโดยรวมยังไงผมก็จะใช้ไปจนกว่าระบบปฏิบัติการของ nokia จะหลากหลายยังไง
ผมก็ยังชอบ nokia อยู่ดี เรื่องกล้องน่ะครับ แต่ในการซื้อของพวกนี้เราต้องแยกแยะว่าอันไหนที่เหมาะสมกับเราจริงๆ คุ้มค่าจริงๆ
มันสร้างประโยชน์ให้เราได้จริงๆ แล้วก็เลือกตัวนั้นครับ เมื่อมันทำเงินให้เราได้ เราก็ค่อยไปซื้อเครื่องที่เราชอบอีกที ไม่เสียหาย
มีเรื่องเล่าน่ะครับ หลังจากที่ใช้ Xiaomi MI3 มาได้หนึ่งอาทิตย์
หลายคนเข้ามาถามว่า รุ่นอะไรเหรอ จอใหญ่ดีจัง ทำไมถ่ายรูปเร็วจัง เล่นเกมส์ไม่สะดุดเลยภาพสวยมากๆ วัสดุแลจะทนทานมากเลยน้อ
ราคาเท่าไหร่เนี่ย อยากได้บ้างจัง พอบอกไปว่ายี่ห้อ Xiaomi MI3 ซื้อมาจากจีน สั่งผ่านร้านในไทยเนี่ยแหละ 13000 ไม่มีประกันน่ะ
หลายคนก็พากันยี้ เครื่องจีนเหรอ ทำไมของจีนแพงจัง ไม่มีประกันด้วย ไม่เห็นจะดีเลย ไม่เอาหรอกของจีน ประมาณนี้ ^^