Numerous Nepal : Vol. 6.5 เตรียมตัวอย่างไรก่อนไปเนปาล

กระทู้นี้ต่อเนื่องมาจากกระทู้ที่จบไปแล้วทั้ง 6 ตอนนะครับ ถือเป็นของแถมเล็ก ๆ สำหรับผู้ที่ประสงค์จะไปเที่ยวแบบชิล ๆ ด้วยตัวเอง ...

เนปาล ..สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งแบบทัวร์ไม่ว่าจะจากไทยหรือทัวร์ท้องถิ่น หรือด้วยตนเอง ซึ่งจะมีอยู่ 2-3 ประเภท ที่ถือเป็นไฮไลต์ของการท่องเที่ยว ผมแยกให้เห็นได้ง่าย ๆ ดังนี้คือ

1. การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ..เช่น ชมวิถีชีวิตผู้คน เยือนลุมพินีวัน กลุ่มโบราณสถานในหุบเขากาฐมาณฑุ เช่น ภักตะปูร์ ดูร์บาร์สแควร์ ปาทัน ปศุปฏินาธ พุทธนาธ กีรติปูร์และสวยมภูนาธ
2. การท่องเที่ยวแบบเทรคกิ้ง ...แนะนำว่าต้องทัวร์อย่างเดียว โรงแรมในย่านธาเมลช่วยท่านได้ทุกประการ เพราะการเทรคกิ้งต้องขอใบอนุญาต จองตั๋วเครื่องบิน ลูกหาบสารพัด ให้คนที่นั่นเขาจัดการให้สบายใจกว่า
3. แบบซาฟารี ...นั่งช้างดูแรดที่จิตวัน ชมสัตว์ป่าที่บาร์เดีย

แล้วถ้าอยากจะไปแล้วต้องทำไงบ้าง ....

การจองตั๋วเครื่องบิน

อันนี้ไปหาสืบค้นเองได้ครับ มีสายการบินให้เลือกหลายสาย เช่น เนปาลแอร์ไลน์ การบินไทย เจ็ทแอร์เวย์ และทางเลือกในการจองตั๋วก็หลายทาง ราคาก็หลากหลายแล้วแต่โชคชะตา ...ส่วนของผมผมใช้บริเวณเจ็ทแอร์เวย์ (Jet Airways) สัญชาติอินเดียครับ โดยจองผ่านเว็บ EDC Travel ได้ที่ราคา 10,800 บาท ไปและกลับ เป็นการบิน 4 flight ขาไป ..เมื่อเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ จะได้รับ Bording Pass มาคนละ 2 ใบ เช่นเดียวกับตอนขากลับจากสนามบินนานาชาติตรีภูวัน ดังนี้

วันเดินทาง (เช็คอินที่เคาท์เตอร์ P และขึ้นเครื่องที่ Gate F2)

- ขาแรก - Boarding Pass (Suvarnabhumi-Delhi) flight 9W0063 จากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 09.00 น. เดินทางมุ่งหน้าสู่ สนามบินนานาชาติอินทิราคานธี ประเทศอินเดีย ใช้เวลา 4 ชั่วโมง  ถึงอินเดีย 11.55 น. (*เวลาที่อินเดียช้ากว่าไทย 1.30 น.) ผ่านช่อง Transfer ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองอีกครั้ง ตรวจกระเป๋า แล้วติดแท็กกระเป๋าที่สะพาย (ทุกใบ ขอย้ำ) เพื่อไม่ให้มีปัญหาก่อนขึ้นเครื่องหลังตรวจ Boarding Pass (Gate 9)  
- ขาสอง - Boarding Pass (Delhi-Kathmandu) flight 9W0262 จากสนามบินนานาชาติอินทิราคานธี เวลา 13.40 น. เดินทางมุ่งหน้าสู่ สนามบินนานาชาติตรีภูวัน ใช้เวลา 2 ชม. ถึงเนปาล 15.30 น. (*เวลาที่เนปาลไวกว่าที่อินเดีย 15 นาที หมายความว่าเวลาที่เนปาลช้ากว่าไทย 1.15 ชม.)

วันกลับ

- ขาแรก - Boarding Pass (Kathmandu-Delhi) flight 9W0263 จากสนามบินนานาชาติตรีภูวัน เวลา 08.45 น. เดินทางมุ่งหน้าสู่ สนามบินนานาชาติอินทิราคานธี ประเทศอินเดีย ใช้เวลา 2 ชั่วโมง  ถึงอินเดีย 10.25 น. ผ่านช่อง Transfer ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองอีกครั้ง ตรวจกระเป๋า แล้วติดแท็กกระเป๋าที่สะพาย (ทุกใบ ขอย้ำ) เพื่อไม่ให้มีปัญหาก่อนขึ้นเครื่องหลังตรวจ Boarding Pass (Gate 9)  
- ขาสอง - Boarding Pass (Delhi-Suvarnabhumi) flight 9W0064 จากสนามบินนานาชาติอินทิราคานธี เวลา 13.00 น. เดินทางมุ่งหน้าสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลา 4 ชม. ถึงประเทศไทย 18.35 น.

อาหาร

- เสิร์ฟทั้งขาไปและขากลับรวมทั้งหมด 4 ครั้ง ได้แก่ มื้อเช้า 1 (สุวรรณภูมิ) มื้อกลางวัน 1 (อินทิราคานธี) มื้อเช้า (ตรีภูวัน) มื้อกลางวัน (อินทิราคานธี)

การผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง

- ในระหว่างผ่านช่องทาง Transfer ที่สนามบินอินทิราคานธีในอินเดียไม่ว่าจะขาไปหรือขากลับ การเอ้อระเหยไม่ใช่เรื่องที่ดี ถึงแม้จะมีเวลากว่า 2 ชั่วโมง ในการช็อปปิ้ง จิบกาแฟ แต่คิวในการตรวจสัมภาระอีกครั้ง อาจยาวเป็นชั่วโมง ยิ่งพวกอุปกรณ์ถ่ายภาพเยอะ ๆ แล้ว ก็นานหน่อย เกทที่ไปขึ้นเครื่องก็ไกล เรียกขึ้นเครื่องไวมาก และที่สำคัญต้องติดแท็กตรวจกระเป๋าทุกใบที่สะพายขึ้นเครื่อง เดี๋ยวจะมีปัญหาตอนตรวจจาก Security ที่เกท
- การผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองในเนปาล ไม่ยาก ไม่ถามอะไรมาก แต่ใบ Immigration เข้าประเทศ หายาก ถ้าเป็นแบบภาษาเนปาลีนั่นก็เฉพาะคนเนปาล ส่วนของชาติอื่นก็ภาษาอังกฤษ (เขียนทั้งขาเข้าและขาออก)
- การขอวีซ่ามาจากประเทศไทย (สถานฑูตเนปาลในไทย) ไม่ว่าจะด้วยตนเองหรือผ่านเอเยนซี่ ถือว่าคิดถูกที่สุด ถึงแม้เราจะสามารถขอเป็นแบบ Visa On Arrival จากที่นี่ได้ก็ตาม แต่แถวนั้นยาวเหยียดมาก อาจกินเวลามากกว่า 2-3 ชั่วโมง โดยเราเดินเข้าในช่อง With Visa
- ขาออก ต้องเผื่อเวลาในการมาถึงสนามบินอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพราะแถวในการประทับลงตรา ยาวเหยียดมาก และใช้เวลานานทั้งการรอคิว และตรวจสัมภาระ ความปลอดภัย ประมาณ 5-6 ครั้ง
- บุคคลที่ไม่มีตั๋วเครื่องบินห้ามเข้ามาในเขตสนามบินโดยเด็ดขาด

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่