ผมอยู่ปีสองซึ่งปิดเทอมนี้คือขึ้นปีสาม มหาวิทยาลัย.....บางเขน อยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์
ก่อนหน้าผมก็ทราบชะตากรรมตัวเองแล้วหาข้อมูลเกี่ยวกับคนที่กำลังโดนรีไทร์เพราะคิดจะเตรียมพร้อมกับแผนใหม่ในอนาคต
แต่ไม่สามารถช่วยอะไรผมได้เลย เนื่องจากนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผมทำให้พ่อแม่ผิดหวัง
[ย้อนอดีต]
ก่อนหน้าผมเคย"ลาออก"จากโรงเรียนเตรียมทหารมาแล้ว เนื่องจากตอนนั้นผมแค่ไปสอบตามที่พ่อแม่,ครอบครัว(ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆว่าโตมาจะเป็นนายร้อย) ซึ่งตอนนั้นที่ลาออกทำให้พ่อผมผิดหวังในตัวผมมาก ผมค่อนข้างจิตตกพอสมควร บวกกับก่อนหน้าเจอเหตุการณ์บั่นทอนสุขภาพจิต ขณะ เป็นนักเรียนใหม่อยู่ที่ รร เตรียมทหาร
ระยะเวลาผ่านไปจนผมสอบตรงติด แต่ติดที่เลือกไว้อันดับสาม(พ่อเลือกอันดับสามให้) ซึ่งตั้งใจอยากได้อันดับหนึ่ง วิศวคอม แต่ไม่ได้เพราะคะแนนไม่ถึง
เพราะตอนนั้นค่อนข้างเตรียมตัวมาแบบเหมือนไปตายเอาดาบหน้า ผมอ่านและทำเฉพาะแนวข้อสอบเดิมๆ แต่ข้อสอบในปีนั้น (จาก 4-5 ปีที่ผ่านมาไม่เคยออกแนวนี้) สำหรับคนที่สอบ PAT3 ที่จะเข้ารหัสนิสิต ปี 55 สอบตรงปีนั้นจะรู้ดี
และสุดท้ายผมก็เข้ามาเรียน พ่อก็ภูมิใจมาก พ่อบอกว่าภูมิใจมากกว่าที่ได้เข้าเตรียมทหารอีก
[ปัจจุบัน]
ผมทำเกรดต่ำ มาตั้งแต่ ปี 1 แล้ว ซึ่งไม่คิดจะลงวิชาบูร มาช่วยให้เกรดขึ้นเลย เรียนแบบฝืนๆไป คิดว่าตัวเองไหวเพราะไม่อยากเปอร์ เลยลงเรียนตามหลักสูตรมา และได้เกรดต่ำ
ในระหว่างเรียนผมค่อนข้างชอบหาอะไรทำ มาตลอดเวลา เช่น เรียนร้องเพลง(เทอมนึง) , แข่งเกม(จนถึงปัจจุบัน) , ขายของออนไลน์(สติกเกอร์ไลน์,ของที่สีดำ ค่อนข้างได้เงินเยอะ แต่ทำได้แค่บางช่วง ไม่ใช่ ยาเสพติดหรืออะไรที่ร้ายแรงนะครับ ยกตัวอย่างเช่น ซิมเถื่อนใช้เนตฟรี , โปรแกรมโกงเกม ฯลฯ )
จนได้เงินเยอะพอสมควรแต่ก็ใช้จ่ายจนหมด (มีเดือนนึงช่วยที่บ้านออกค่าหอ ค่าขนม ให้ตัวเองไปหมื่นกว่าๆ)
จนตอนนี้เกรดรวมของปีสองเทอมสอง เป็นโปรต่ำ รอบที่สองซึ่งโดนรีไทร์แน่นอน
ตอนเกรดออกค่อนข้างช็อค กับวิชาที่ตัวเองได้ และติวเพื่อน ดันได้เกรดน้อยมาก จนไม่สามารถช่วยดึงวิชาที่ตัวเองทำไม่ได้ ขึ้นมาได้
ตอนนี้บอกทางบ้านเรียบร้อยยกเว้น พ่อของผม ส่วนคุณแม่ ปู่ ย่า ท่านทราบแล้วให้กำลังใจและถามว่าผมจะทำอย่างไงต่อซึ่งตอนนี้ผมตัดสินใจจะสอบตรง อีกรอบแล้ว เข้าวิศวคอมให้ได้ แต่ปีที่ผมจะเข้าศึกษาผมต้องเข้าปี 58 เพราะ ปี 57 ผมไม่สามารถยื่นคะแนนหรือสอบได้ทันแล้ว เพราะคะแนนก็หมดอายุแล้วการสอบก็หมดเขตไปหมดแล้ว ซึ่งเท่ากับว่าผม ต้องเข้าเรียนมหาลัย ปี 1 พร้อมน้องสาวผม ซึ่งห่างกัน 4 ปี ( ผมเกิดปี 36 น้องเกิด 40 )
แต่ตอนนี้พ่อผมยังไม่ทราบเลย ผมกลัวมาก เพราะพ่อผมค่อนข้างเป็นคนอารมณ์ร้อน และทุกครั้งที่พ่อตำหนิ คำพูดของท่านมันทำให้ผมอยากตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ผมไม่รู้ว่าท่านรักผมจริงหรือเปล่าเพราะทุกครั้งที่ท่านตำหนิผมเรื่องการเรียนที่แย่มาโดยตลอด ( การเรียนที่มหาลัย ) และก็ตอนที่ลาออกจากเตรียมทหาร ผมจำได้ทุกครั้ง เหมือนท่านจะบอกว่าท่านเหนื่อย มากและทำไมผมยังทำตัวแบบนี้ ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นตัวถ่วงของครอบครัว สู้ให้ผมตายไปแล้ว ให้เหลือแค่น้องสาวผมคนเดียวที่พ่อแม่จะได้ไม่เหนื่อยส่งเสียค่าเรียน เท่ากับตอนที่มีผม ณ ตอนนี้
ผมขออธิบายเพิ่มเติม เรื่องที่ทำให้ผม รู้สึกหดหู่ และท้อมากๆตอนนี้ เพิ่มอีกหน่อยนะครับ
ผมรู้สึกเหมือนเวลาสองปีที่ผ่านมา ความทรงจำมันเยอะมากๆ ทั้งเพื่อน ทั้งแฟน และครอบครัว
- ผมค่อนข้างเป็นส่วนกลางของเพื่อนๆ สร้างความเฮฮา ชอบโดนแกล้ง บ่อยมากๆๆ (ที่สุดในเกมเลย)
- แล้วเรื่องครอบครัว ทุกวันหยุดแม่กับพ่อจะมา (บ้านอยู่ต่างจังหวะ แต่พ่อทำงานอยู่ กทม) มากินข้าวด้วย สั่งอาหารอร่อยๆมานั่งกินกันที่หอ บางช่วงน้องมาเรียนพิเศษ ต้องมาเจอภาพที่ผมไปเรียนที่มหาวิทยาลัย แล้วกลับมาตอนเย็นเล่นคอม แล้วพ่อก็ซื้อข้าวมานั่งกินกันพร้อมหน้าพร้อมตา โดยไม่มีเรื่องให่เครียด หรือกังวลแต่อย่างใด
- ส่วนเรื่องแฟน ผมค่อนข้างอยู่กับแฟนตลอดเวลา เรียนภาควิชาเดียวกับแฟน แฟนผมค่อนข้างขยันมากๆ เทอมล่าสุดเกรดอยุ่ที่ 3.8 ซึ่งตอนอ่านหนังสือก็อ่านด้วยกันมาโดยตลอด ผมก็อ่านเทอก็อ่าน แต่ผลที่ออกมาค่อนข้างต่างกันคนละขั้ว แล้วแฟนค่อนข้างบังคับให้ผมเรียน ผมอ่าน ผมก็ตอบแต่ว่ารู้แล้วๆ เด่วทำน่า จนสุดท้าย ผมต้องทำให่ตัวเองออกห่างจากเธอ (ผมจีบเทอ 1 ปี แล้วหลังจากนั้นเป็นแฟนกันแล้งคบกันถึงปัจจุบัน )
ขอบคุณทุกคนมากนะครับที่รับฟังและช่วยเหลือผม
ผมกำลังโดนรีไทร์ จิตตก เครียด หมดกำลังใจมากๆ ขอคำแนะนำทีครับ
ก่อนหน้าผมก็ทราบชะตากรรมตัวเองแล้วหาข้อมูลเกี่ยวกับคนที่กำลังโดนรีไทร์เพราะคิดจะเตรียมพร้อมกับแผนใหม่ในอนาคต
แต่ไม่สามารถช่วยอะไรผมได้เลย เนื่องจากนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผมทำให้พ่อแม่ผิดหวัง
[ย้อนอดีต]
ก่อนหน้าผมเคย"ลาออก"จากโรงเรียนเตรียมทหารมาแล้ว เนื่องจากตอนนั้นผมแค่ไปสอบตามที่พ่อแม่,ครอบครัว(ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆว่าโตมาจะเป็นนายร้อย) ซึ่งตอนนั้นที่ลาออกทำให้พ่อผมผิดหวังในตัวผมมาก ผมค่อนข้างจิตตกพอสมควร บวกกับก่อนหน้าเจอเหตุการณ์บั่นทอนสุขภาพจิต ขณะ เป็นนักเรียนใหม่อยู่ที่ รร เตรียมทหาร
ระยะเวลาผ่านไปจนผมสอบตรงติด แต่ติดที่เลือกไว้อันดับสาม(พ่อเลือกอันดับสามให้) ซึ่งตั้งใจอยากได้อันดับหนึ่ง วิศวคอม แต่ไม่ได้เพราะคะแนนไม่ถึง
เพราะตอนนั้นค่อนข้างเตรียมตัวมาแบบเหมือนไปตายเอาดาบหน้า ผมอ่านและทำเฉพาะแนวข้อสอบเดิมๆ แต่ข้อสอบในปีนั้น (จาก 4-5 ปีที่ผ่านมาไม่เคยออกแนวนี้) สำหรับคนที่สอบ PAT3 ที่จะเข้ารหัสนิสิต ปี 55 สอบตรงปีนั้นจะรู้ดี
และสุดท้ายผมก็เข้ามาเรียน พ่อก็ภูมิใจมาก พ่อบอกว่าภูมิใจมากกว่าที่ได้เข้าเตรียมทหารอีก
[ปัจจุบัน]
ผมทำเกรดต่ำ มาตั้งแต่ ปี 1 แล้ว ซึ่งไม่คิดจะลงวิชาบูร มาช่วยให้เกรดขึ้นเลย เรียนแบบฝืนๆไป คิดว่าตัวเองไหวเพราะไม่อยากเปอร์ เลยลงเรียนตามหลักสูตรมา และได้เกรดต่ำ
ในระหว่างเรียนผมค่อนข้างชอบหาอะไรทำ มาตลอดเวลา เช่น เรียนร้องเพลง(เทอมนึง) , แข่งเกม(จนถึงปัจจุบัน) , ขายของออนไลน์(สติกเกอร์ไลน์,ของที่สีดำ ค่อนข้างได้เงินเยอะ แต่ทำได้แค่บางช่วง ไม่ใช่ ยาเสพติดหรืออะไรที่ร้ายแรงนะครับ ยกตัวอย่างเช่น ซิมเถื่อนใช้เนตฟรี , โปรแกรมโกงเกม ฯลฯ )
จนได้เงินเยอะพอสมควรแต่ก็ใช้จ่ายจนหมด (มีเดือนนึงช่วยที่บ้านออกค่าหอ ค่าขนม ให้ตัวเองไปหมื่นกว่าๆ)
จนตอนนี้เกรดรวมของปีสองเทอมสอง เป็นโปรต่ำ รอบที่สองซึ่งโดนรีไทร์แน่นอน
ตอนเกรดออกค่อนข้างช็อค กับวิชาที่ตัวเองได้ และติวเพื่อน ดันได้เกรดน้อยมาก จนไม่สามารถช่วยดึงวิชาที่ตัวเองทำไม่ได้ ขึ้นมาได้
ตอนนี้บอกทางบ้านเรียบร้อยยกเว้น พ่อของผม ส่วนคุณแม่ ปู่ ย่า ท่านทราบแล้วให้กำลังใจและถามว่าผมจะทำอย่างไงต่อซึ่งตอนนี้ผมตัดสินใจจะสอบตรง อีกรอบแล้ว เข้าวิศวคอมให้ได้ แต่ปีที่ผมจะเข้าศึกษาผมต้องเข้าปี 58 เพราะ ปี 57 ผมไม่สามารถยื่นคะแนนหรือสอบได้ทันแล้ว เพราะคะแนนก็หมดอายุแล้วการสอบก็หมดเขตไปหมดแล้ว ซึ่งเท่ากับว่าผม ต้องเข้าเรียนมหาลัย ปี 1 พร้อมน้องสาวผม ซึ่งห่างกัน 4 ปี ( ผมเกิดปี 36 น้องเกิด 40 )
แต่ตอนนี้พ่อผมยังไม่ทราบเลย ผมกลัวมาก เพราะพ่อผมค่อนข้างเป็นคนอารมณ์ร้อน และทุกครั้งที่พ่อตำหนิ คำพูดของท่านมันทำให้ผมอยากตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ผมไม่รู้ว่าท่านรักผมจริงหรือเปล่าเพราะทุกครั้งที่ท่านตำหนิผมเรื่องการเรียนที่แย่มาโดยตลอด ( การเรียนที่มหาลัย ) และก็ตอนที่ลาออกจากเตรียมทหาร ผมจำได้ทุกครั้ง เหมือนท่านจะบอกว่าท่านเหนื่อย มากและทำไมผมยังทำตัวแบบนี้ ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นตัวถ่วงของครอบครัว สู้ให้ผมตายไปแล้ว ให้เหลือแค่น้องสาวผมคนเดียวที่พ่อแม่จะได้ไม่เหนื่อยส่งเสียค่าเรียน เท่ากับตอนที่มีผม ณ ตอนนี้
ผมขออธิบายเพิ่มเติม เรื่องที่ทำให้ผม รู้สึกหดหู่ และท้อมากๆตอนนี้ เพิ่มอีกหน่อยนะครับ
ผมรู้สึกเหมือนเวลาสองปีที่ผ่านมา ความทรงจำมันเยอะมากๆ ทั้งเพื่อน ทั้งแฟน และครอบครัว
- ผมค่อนข้างเป็นส่วนกลางของเพื่อนๆ สร้างความเฮฮา ชอบโดนแกล้ง บ่อยมากๆๆ (ที่สุดในเกมเลย)
- แล้วเรื่องครอบครัว ทุกวันหยุดแม่กับพ่อจะมา (บ้านอยู่ต่างจังหวะ แต่พ่อทำงานอยู่ กทม) มากินข้าวด้วย สั่งอาหารอร่อยๆมานั่งกินกันที่หอ บางช่วงน้องมาเรียนพิเศษ ต้องมาเจอภาพที่ผมไปเรียนที่มหาวิทยาลัย แล้วกลับมาตอนเย็นเล่นคอม แล้วพ่อก็ซื้อข้าวมานั่งกินกันพร้อมหน้าพร้อมตา โดยไม่มีเรื่องให่เครียด หรือกังวลแต่อย่างใด
- ส่วนเรื่องแฟน ผมค่อนข้างอยู่กับแฟนตลอดเวลา เรียนภาควิชาเดียวกับแฟน แฟนผมค่อนข้างขยันมากๆ เทอมล่าสุดเกรดอยุ่ที่ 3.8 ซึ่งตอนอ่านหนังสือก็อ่านด้วยกันมาโดยตลอด ผมก็อ่านเทอก็อ่าน แต่ผลที่ออกมาค่อนข้างต่างกันคนละขั้ว แล้วแฟนค่อนข้างบังคับให้ผมเรียน ผมอ่าน ผมก็ตอบแต่ว่ารู้แล้วๆ เด่วทำน่า จนสุดท้าย ผมต้องทำให่ตัวเองออกห่างจากเธอ (ผมจีบเทอ 1 ปี แล้วหลังจากนั้นเป็นแฟนกันแล้งคบกันถึงปัจจุบัน )
ขอบคุณทุกคนมากนะครับที่รับฟังและช่วยเหลือผม