คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
Annimal Farm ครับ เรื่องราวของแกนนำหมูนำฝูงสัตว์ก่อปฎิวัติมนุษย์จนสำเร็จ แต่สุดท้าย เมื่อตัวเองมีอำนาจก็ทำตัวไม่ต่างจากมนุษย์เลย

George Orwell นักเขียนชาวอังกฤษ เขียนเรื่อง Animal Farm ตั้งแต่ปี ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) เพื่อเสียดสีสังคมนิคมโซเวียตตั้งแต่ล้มล้างการปกครองจนถึงยุคของโจเซฟ สตาลิน แม้หนังสือเล่มนี้จะมีอายุ 65 ปีและกลายเป็นวรรณกรรมอมตะของโลกไปแล้ว แต่เนื้อหายังเป็นปัจจุบันทันสมัย และคงจะทันสมัยไปตลอดกาล เนื่องจากสาระสำคัญของหนังสือสองประการเป็นเรื่องที่มิอาจโต้แย้ง คือ
1. ความเท่าเทียมกันเป็นเรื่องในอุดมคติเท่านั้น ไม่ว่าการปกครองในระบบสังคมนิยม ระบบทุนนิยม ระบบศักดินา ก็ไม่มีความเท่าเทียมกัน
2. กฎย่อมถูกกำหนดเพื่อประโยชน์ของผู้ออกกฎเสมอ และผู้ลบล้าง-ละเมิดกฎมากที่สุดก็มักจะเป็นผู้มีอำนาจที่ออกกฎนั้นเอง
Animal Farm จำลองภาพของคนในสังคมและความเท่าเทียมจากไร่แมเนอร์ของมิสเตอร์โจนส์ ที่มีหมู หมา แกะ ไก่ หมา ลา
หมูเฒ่าเมเจอร์ที่ได้รับการยอมรับจากสัตว์ในฟาร์ม ได้จุดประกายความคิด "ลัทธิสัตว์นิยม" ขึ้นมาว่ามนุษย์เอาเปรียบสัตว์ จำต้องล้มล้าง ขับไล่มนุษย์ไปจากฟาร์ม
ภายหลังหมูสามตัวอันมีเจ้านโปเลียน เจ้าสโนว์บอล เจ้าสเควเลอร์ ได้ปฏิวัติขับไล่มิสเตอร์โจนส์พ้นไปจากฟาร์มได้สำเร็จ และออกบัญญัติเจ็ดประการออกมา...
1. อะไรก็ตามที่เดินด้วยสองขาคือศัตรู
2. อะไรก็ตามที่เดินด้วยสี่ขาหรือมีปีกคือมิตร
3. สัตว์จะต้องไม่สวมเสื้อผ้า
........สามข้อแรกภายหลังก็เพี้ยนเป็น "สี่ขาดี แต่สองขาดีกว่า" เพราะผู้มีอำนาจที่มีสี่ขา เปลี่ยนมาเดินสองขาและใส่เสื้อผ้า
4. สัตว์จะต้องไม่นอนบนเตียง
....นอนบนเตียงมันสบาย ก็เลยเพิ่ม "พร้อมสิ่งปกคลุม" เพื่อให้การนอนเตียงเปล่าๆ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
5. สัตว์จะต้องไม่ดื่มเหล้า
....ภายหลังก็เพิ่มข้อความ "มากเกินไป" ต่อท้าย
6. สัตว์จะต้องไม่ฆ่าสัตว์ด้วยกันเอง
....ภายหลังก็กลายเป็น "สัตว์จะต้องไม่ฆ่ากันเองโดยไร้เหตุผล(ของใคร)"
7. สัตว์ทุกตัวมีความเท่าเทียมกัน
....ภายหลังก็เพี้ยนเป็น "สัตว์ทุกตัวมีความเท่าเทียมกัน แต่สัตว์บางตัวมีความเท่าเทียมมากกว่าสัตว์อื่นๆ"
และเป็นไปตาม "ความจริงที่มิอาจโต้แย้ง" ที่เหล่าหมูผู้นำแหกกฎเสียเอง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้กระทั่งวางแผนกำจัดกันเอง

George Orwell นักเขียนชาวอังกฤษ เขียนเรื่อง Animal Farm ตั้งแต่ปี ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) เพื่อเสียดสีสังคมนิคมโซเวียตตั้งแต่ล้มล้างการปกครองจนถึงยุคของโจเซฟ สตาลิน แม้หนังสือเล่มนี้จะมีอายุ 65 ปีและกลายเป็นวรรณกรรมอมตะของโลกไปแล้ว แต่เนื้อหายังเป็นปัจจุบันทันสมัย และคงจะทันสมัยไปตลอดกาล เนื่องจากสาระสำคัญของหนังสือสองประการเป็นเรื่องที่มิอาจโต้แย้ง คือ
1. ความเท่าเทียมกันเป็นเรื่องในอุดมคติเท่านั้น ไม่ว่าการปกครองในระบบสังคมนิยม ระบบทุนนิยม ระบบศักดินา ก็ไม่มีความเท่าเทียมกัน
2. กฎย่อมถูกกำหนดเพื่อประโยชน์ของผู้ออกกฎเสมอ และผู้ลบล้าง-ละเมิดกฎมากที่สุดก็มักจะเป็นผู้มีอำนาจที่ออกกฎนั้นเอง
Animal Farm จำลองภาพของคนในสังคมและความเท่าเทียมจากไร่แมเนอร์ของมิสเตอร์โจนส์ ที่มีหมู หมา แกะ ไก่ หมา ลา
หมูเฒ่าเมเจอร์ที่ได้รับการยอมรับจากสัตว์ในฟาร์ม ได้จุดประกายความคิด "ลัทธิสัตว์นิยม" ขึ้นมาว่ามนุษย์เอาเปรียบสัตว์ จำต้องล้มล้าง ขับไล่มนุษย์ไปจากฟาร์ม
ภายหลังหมูสามตัวอันมีเจ้านโปเลียน เจ้าสโนว์บอล เจ้าสเควเลอร์ ได้ปฏิวัติขับไล่มิสเตอร์โจนส์พ้นไปจากฟาร์มได้สำเร็จ และออกบัญญัติเจ็ดประการออกมา...
1. อะไรก็ตามที่เดินด้วยสองขาคือศัตรู
2. อะไรก็ตามที่เดินด้วยสี่ขาหรือมีปีกคือมิตร
3. สัตว์จะต้องไม่สวมเสื้อผ้า
........สามข้อแรกภายหลังก็เพี้ยนเป็น "สี่ขาดี แต่สองขาดีกว่า" เพราะผู้มีอำนาจที่มีสี่ขา เปลี่ยนมาเดินสองขาและใส่เสื้อผ้า
4. สัตว์จะต้องไม่นอนบนเตียง
....นอนบนเตียงมันสบาย ก็เลยเพิ่ม "พร้อมสิ่งปกคลุม" เพื่อให้การนอนเตียงเปล่าๆ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
5. สัตว์จะต้องไม่ดื่มเหล้า
....ภายหลังก็เพิ่มข้อความ "มากเกินไป" ต่อท้าย
6. สัตว์จะต้องไม่ฆ่าสัตว์ด้วยกันเอง
....ภายหลังก็กลายเป็น "สัตว์จะต้องไม่ฆ่ากันเองโดยไร้เหตุผล(ของใคร)"
7. สัตว์ทุกตัวมีความเท่าเทียมกัน
....ภายหลังก็เพี้ยนเป็น "สัตว์ทุกตัวมีความเท่าเทียมกัน แต่สัตว์บางตัวมีความเท่าเทียมมากกว่าสัตว์อื่นๆ"
และเป็นไปตาม "ความจริงที่มิอาจโต้แย้ง" ที่เหล่าหมูผู้นำแหกกฎเสียเอง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้กระทั่งวางแผนกำจัดกันเอง
แสดงความคิดเห็น
ภาพยนตร์หรือการ์ตูนเรื่องใดที่มีการเปรียบเทียบเชิงสัญลักษณ์และตีความซับซ้อนที่สุดครับ