สงครามชนชั้นคงวัดกันที่กำลังพลของทั้งสองฝ่าย ฝ่ายประชาชนมากขึ้นทุกวัน
ฝ่าย"คนดี"ที่ปล้นอำนาจอธิปไตยของ"ประชาชน"ไปเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ.2549
ไม่ว่าฝ่ายเสื้อเหลืองจะมีมากในช่วงปี 2549 แต่หลังจากนั้นก็ลดจำนวนลงอย่างน่าใจหายเลยต้องเปลี่ยนโลโก้เป็น"สลิ่ม"
หลังรัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ.2549 ฝ่ายประชาชนมีมากขึ้นอย่างน่าใจหาย
หลังปีพ.ศ.2552 - 2553 ที่ประชาชนถูกฆ่าตายและบาดเจ็บมากมาย
ฝ่ายประชาชนยิ่งมีมากขึ้นเป็นหลายเท่า
ฝ่าย"คนดี"พยายามตั้งกองกำลังเข้าทำลาย"ฝ่ายประชาชน"ครั้งแล้วครั้งเล่า
ก็ต้องถอยทัพกลับไปหลายครั้ง
สามสี่เดือนที่ผ่านมา ฝ่าย"คนดี"ที่คอยทำลายฝ่ายประชาชนก็ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว
ฝ่าย"คนดี"ได้ใช้อาวุธทุกชนิดทุกหน่วยรุมตี"ประชาชน"อย่างไม่ย่อท้อ
ปรากฏว่ายิ่งรุมตีประชาชนมากเท่าใด ฝ่ายประชาชนก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้นไม่ว่าปริมาณหรือคุณภาพ
แพ้ชนะวัดกันที่กำลังพลของทั้งสองฝ่าย
ใช่ไหมครับ ?
สงครามชนชั้นคงวัดกันที่กำลังพลของทั้งสองฝ่าย ฝ่ายประชาชนมากขึ้นทุกวัน
ฝ่าย"คนดี"ที่ปล้นอำนาจอธิปไตยของ"ประชาชน"ไปเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ.2549
ไม่ว่าฝ่ายเสื้อเหลืองจะมีมากในช่วงปี 2549 แต่หลังจากนั้นก็ลดจำนวนลงอย่างน่าใจหายเลยต้องเปลี่ยนโลโก้เป็น"สลิ่ม"
หลังรัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ.2549 ฝ่ายประชาชนมีมากขึ้นอย่างน่าใจหาย
หลังปีพ.ศ.2552 - 2553 ที่ประชาชนถูกฆ่าตายและบาดเจ็บมากมาย
ฝ่ายประชาชนยิ่งมีมากขึ้นเป็นหลายเท่า
ฝ่าย"คนดี"พยายามตั้งกองกำลังเข้าทำลาย"ฝ่ายประชาชน"ครั้งแล้วครั้งเล่า
ก็ต้องถอยทัพกลับไปหลายครั้ง
สามสี่เดือนที่ผ่านมา ฝ่าย"คนดี"ที่คอยทำลายฝ่ายประชาชนก็ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว
ฝ่าย"คนดี"ได้ใช้อาวุธทุกชนิดทุกหน่วยรุมตี"ประชาชน"อย่างไม่ย่อท้อ
ปรากฏว่ายิ่งรุมตีประชาชนมากเท่าใด ฝ่ายประชาชนก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้นไม่ว่าปริมาณหรือคุณภาพ
แพ้ชนะวัดกันที่กำลังพลของทั้งสองฝ่าย
ใช่ไหมครับ ?