ไตรภาค.........
http://pantip.com/topic/31852911
พระอรหันต์ท่านมีมหากิริยาจิตอยู่ดีๆ นั้นมีคนทะลึ่งเอาวิบากจิตมาให้ท่าน ด้วยการใส่ตุ้งติ่งแต่งหน้าทาปาก
จนออกมาเป็น...โลกุตตระวิบากจิต
ที่บอกว่าใส่ตุ้งติ่ง ก็เพราะไอ้คนพูดว่าพระอรหันต์ยังมีวิบากจิต มันพูดทั้งๆที่มันก็ไม่รู้ความหมายที่มันพูด
มันรู้แต่เพียงว่า พระอรหันต์เป็นของสูง ส่วนวิบากเป็นคำที่ไม่ค่อยดี.....อย่ากระไรเลยเอาโลกุตตระมาใส่นำหน้าเสียหน่อย
ก็เท่ากับแต่งองค์ทรงเครื่องให้พระอรหันต์ จนมิกซ์แอนด์แมทช์ แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปเปาะหนึ่ง(ก็แถนั้นแหล่ะ)
จากที่บอกว่า พระอรหันต์ยังมีวิบากจิต จึงโดนตบปากโทษฐานที่พูดมั่วซั่ว
แต่ด้วยนิสสัยเดิมเป็นพวกผู้ร้ายปากแข็ง.....จึงแก้ตัว(ก็แถนั้นแหล่ะ)ว่า พระอรหันต์ก็มีโลกุตตระวิบากจิต
เห็นมั้ยจากวิบากจิต กลายเป็นโลกุตตระวิบากจิต เรียกว่าเป่ะเว่อเลยที่เดียว ฝีมือดีไซด์เนอร์ มาดามคันโทน่าล้วนๆ
อย่าหาว่าพี่ตองเก้าชอบเซ้าซี่ พูดจาไม่ยอมจบ แต่การได้สนทนากับคันโทน่าหรือแป๊ะเหลิม
มันทำให้คลายเครียด เหมือนได้คุยกับอ่างเถิดเทิงและสายัญ ดอกสะเดา คิดเสียว่า เป็นแฟนขับ แฟนถีบก็แล้วกัน
จะพูดจะจาด้วยการอ้างอิงอะไร มันต้องรู้ที่ไปที่มา ไม่ใช่นึกอ้าง คิดจะแปะอะไร ก็มั่วแปะ
เหมือนเด็กรับจ้างแปะโฆษณา มันแปะหมดไม่ว่าจะเป็น ตู้โทรศัพท์ ประตูบ้าน ฝาชักโครกส้วมสาธารณะมันยังแปะ
พูดถึงพระอรหันต์ ดันเอาโลกุตตระวิบากจิตมาแปะ แถมเอามหากิริยาจิตมาแปะ
ดูแล้วเหมือนคาบาเร่โชว์ ที่ข้างหนึ่งเป็นผู้หญิง ข้างหนึ่งเป็นผู้ชาย
โลกุตตระวิบากจิต พี่ตองเก้าขอบ่น!
พระอรหันต์ท่านมีมหากิริยาจิตอยู่ดีๆ นั้นมีคนทะลึ่งเอาวิบากจิตมาให้ท่าน ด้วยการใส่ตุ้งติ่งแต่งหน้าทาปาก
จนออกมาเป็น...โลกุตตระวิบากจิต
ที่บอกว่าใส่ตุ้งติ่ง ก็เพราะไอ้คนพูดว่าพระอรหันต์ยังมีวิบากจิต มันพูดทั้งๆที่มันก็ไม่รู้ความหมายที่มันพูด
มันรู้แต่เพียงว่า พระอรหันต์เป็นของสูง ส่วนวิบากเป็นคำที่ไม่ค่อยดี.....อย่ากระไรเลยเอาโลกุตตระมาใส่นำหน้าเสียหน่อย
ก็เท่ากับแต่งองค์ทรงเครื่องให้พระอรหันต์ จนมิกซ์แอนด์แมทช์ แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปเปาะหนึ่ง(ก็แถนั้นแหล่ะ)
จากที่บอกว่า พระอรหันต์ยังมีวิบากจิต จึงโดนตบปากโทษฐานที่พูดมั่วซั่ว
แต่ด้วยนิสสัยเดิมเป็นพวกผู้ร้ายปากแข็ง.....จึงแก้ตัว(ก็แถนั้นแหล่ะ)ว่า พระอรหันต์ก็มีโลกุตตระวิบากจิต
เห็นมั้ยจากวิบากจิต กลายเป็นโลกุตตระวิบากจิต เรียกว่าเป่ะเว่อเลยที่เดียว ฝีมือดีไซด์เนอร์ มาดามคันโทน่าล้วนๆ
อย่าหาว่าพี่ตองเก้าชอบเซ้าซี่ พูดจาไม่ยอมจบ แต่การได้สนทนากับคันโทน่าหรือแป๊ะเหลิม
มันทำให้คลายเครียด เหมือนได้คุยกับอ่างเถิดเทิงและสายัญ ดอกสะเดา คิดเสียว่า เป็นแฟนขับ แฟนถีบก็แล้วกัน
จะพูดจะจาด้วยการอ้างอิงอะไร มันต้องรู้ที่ไปที่มา ไม่ใช่นึกอ้าง คิดจะแปะอะไร ก็มั่วแปะ
เหมือนเด็กรับจ้างแปะโฆษณา มันแปะหมดไม่ว่าจะเป็น ตู้โทรศัพท์ ประตูบ้าน ฝาชักโครกส้วมสาธารณะมันยังแปะ
พูดถึงพระอรหันต์ ดันเอาโลกุตตระวิบากจิตมาแปะ แถมเอามหากิริยาจิตมาแปะ
ดูแล้วเหมือนคาบาเร่โชว์ ที่ข้างหนึ่งเป็นผู้หญิง ข้างหนึ่งเป็นผู้ชาย