ก่อนจะพัฒนาประเทศไทย ปฏิรูปสำนักงานห่วยแตกอย่าง สพฐ. แล้วตั้งใหม่ง่ายกว่ามั้ย

*ปฏิรูปในที่นี้ไม่ได้อ้างอิงถึงเรื่องพรรคใดๆ*

ทุกวันนี้หลักการศึกษาในประเทศไทยกำลังส่งเสริมไปในด้านที่ผิดอย่างไม่น่าจะรับได้
อย่างเรื่องข้อสอบPAT ซึ่งเป็นข้อสอบที่จัดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับเด็กม.ปลาย ซึ่งเด็กพวกนี้แหละจะมาเป็นอนาคตของชาติบ้านเมืองเรา บางปีออกข้อสอบผิด5-6ข้อ คำตอบซ้ำกันบ้าง ไม่มีคำตอบบ้าง(โจทย์ที่ไม่มีคำตอบจะได้คะแนนฟรีทุกคนซึ่งมันไม่ยุติธรรมกับเด็กที่ทำข้อสอบได้เลย บางปีผิดมากกว่า10ข้อด้วยซ้ำไป) หรือไม่ก็ข้อสอบออกเกินหลักสูตร
อย่างใน10ปีที่ผ่านมามีไม่ต่ำกว่า30ข้อแน่นอน เท่าที่รู้ ที่ข้อสอบมีข้อผิดพลาด ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่น่าใจหาย
คนออกข้อสอบแต่ละรายวิชา บางการสอบใช้คนสอบอยู่ไม่กี่คน(ไม่ถึง10คน) เข้าใจนะคะแต่ละคนก็มาจากจุฬาและมข.
แต่ควรจะออกข้อสอบให้มีความหลากหลายหน่อยนะคะ บางข้อที่ออกติดๆกันรู้เลยว่าคนเดียวกันออกข้อสอบ มันแนวๆเดียวกันไม่มีความหลากหลายเลย

ตัวอย่างข้อสอบที่กล่าวถึง อาจจะวิชาการไปนะคะจึงขอแนบในสปอย ยกมาข้อเดียวนะคะ ขี้เกียจพิมพ์ มันยาวไป บางข้อมันต้องแนบรูปด้วย แอคนี้แนบรูปไม่ได้
V
V
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


นอกจากเรื่องข้อสอบแล้ว การศึกษาไทยยังมุ่งเน้นไปพัฒนาการที่เรียกว่าผิดจุดแบบสุดๆ
อย่างการที่จะมีการถ่ายทำวีดิทัศน์การเรียนการสอน เรียกได้ว่า "ผักชีโรยหน้า" อย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลยล่ะค่ะ
ตอนเรียนวันปกติก็สอนแบบเอื่อยๆ ไร้ชีวิตชีวา ครูสอนนักเรียนไม่ฟัง ครูบางคนเล่นมือถือในห้องเองก็ยังมีให้เห็น
แต่พอมีคนเข้ามาตรวจปุ๊บ ทั้งจัดห้องเรียน จัดบอร์ดใหม่(จัดปีละครั้งก็ตอนที่เค้ามาตรวขนี่แหละ) เพิ่มต้นไม้ ตกแต่งห้องด้วยผลงานนร.
นร.ทุกคนตั้งใจเรียนทันที มีการเตี๊ยมกันให้ยกมือตอบคำถามก็ยังมีเกลื่อนกลาด

หรือกิจกรรมเผาผลาญงบประมาณอย่างสพฐ.ตรวจเยี่ยมสนามสอบนักเรียน สพฐ.ตรวจเยี่ยมโรงเรียน พูดเลยนะคะว่ามันก็ดีแค่ตอนที่ตรวจนี่แหละ ตรวจเสร็จปุ๊บก็เละต่อ อยากถามว่าตรวจทำไม...

อีกประเด็นหนึ่ง อาจจะไม่เกี่ยวกับสพฐ.คือการเรียนรด.
เรียนไปทำไมคะ? เข้าใจนะคะว่าได้ประสบการณ์ ได้มิตรภาพ ได้ความเป็นระบบระเบียบ ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องที่ดี
แต่ไม่ยุติธรรมเลยกับเด็กที่ยากจน(อีกแล้ว) ทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆไม่ว่าจะค่าเดินทางไปยังที่ฝึก ค่าตัดผม ค่าซื้ออุปกรณ์เวลาที่นศท.ลืมของ(นศท.บางคนมีหมวกที่บ้านเป็นสิบใบเพราะไปสายบ่อย ไม่ชอบเห็นภาพอย่างนี้เลย จะลงโทษก็ลงโทษสิคะไม่ใช่ให้ซื้อของแล้วผ่าน มันเหมือนกับการสอนให้คิดว่าการติดสินบนเป็นสิ่งที่ถูกต้องชัดๆ)
ปีๆนึงหมดไปเป็นพันๆหมื่นๆต่อนักเรียนหนึ่งคนก็มี บางสถาบันเรียนรด.เสร็จก็มาเรียนในห้องเรียนต่อ ก็ทนเหม็นเหงื่อ ร้อนแดดเข้าห้องแอร์เยอะๆดมกลิ่นเต่ากันไปเนอะ
คนจนต้องเป็นคนที่เสียเปรียบตลอด เค้าไม่มีหรอกค่ะเงินค่าชุดค่าบำรุงค่าต่างๆนานา จริงๆถ้าอยากให้ได้มิตรภาพอะไรแบบนั้นบังคับเกณฑ์ทหารชายไทยทุกคนง่ายกว่า อาจจะเปลี่ยนจาก2ปีเป็น6เดือนก็ยังได้ อีกอย่างใช้เส้นสายเลี่ยงเกณฑ์ทหารก็ยังมีอยู่
ทุกสังคมเลยนะคะ คนจนคนไร้เส้นสายเสียเปรียบ คนรวยคนมีเงินได้เปรียบ เข้าใจนะคะว่าเป็นสัจธรรมโลก แต่บางอย่างมันผิดกฎนะคะอย่างยัดเงินไม่ต้องเกณฑ์ทหาร เป็นต้น
เออ อีกอย่าง ได้ยินมาว่าโรงเรียนเอกชนรวยๆเวลาไปเข้าค่ายเขาชนไก่ให้รวมตังกันซื้อเหมาของแม่ค้าให้หมด ฝึกจะสบาย อาบน้ำได้เป็นชั่วโมง
ต่างกับโรงเรียนธรรมดาๆที่จะต้องฝึกหนักทรหดอดทน(ถ้ามองโลกในแง่ดีก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ดีๆนะคะ ดิฉันไม่ได้เรียนก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรแต่มันดูเหมือนกับ2มาตรฐานอย่างไรอย่างนั้น แม้แต่น้องชายที่จบมานานแล้ว โดนฝึกโหดเหมือนกันแต่เค้าก็ดูมีความสุขเวลาพูดถึงนะคะ แม้ว่าตอนนั้นอยากจะชกหน้าผู้คุมมาก ฮ่าๆ)

ลามไปจนถึงมหาลัย (จบประเด็น สพฐ ไปแล้วนะคะ)
ทุกวันนี้การรับน้องก็ยังคงเป็นสิ่งที่แพร่หลายในเด็กมหาลัย การรับน้องทุกครั้งควรอยู่ในการดูแลของมหาลัยด้วยนะคะ ไม่ใช่ให้เด็กไปทำๆกันเอง
ที่แอบนัดกลุ่มกันไปแอบรับน้องแผลงๆกันเองคงโทษมหาลัยไม่ได้ ต้องโทษเด็กนี่แหละ ยิ่งคณะเถื่อนๆอย่างวิศวะที่ให้กินเหล้ากินไข่สุกกัน บางที่ที่เอาของซอร์ฟมาจำลองก็ดีไป แต่บางที่ที่ให้ซดเหล้าเป็นขวดๆ กรณีแบบนี้ตายได้นะคะ แต่ดิฉันจะไม่พูดถึงละกันเพราะมหาลัยไม่ได้เกี่ยว...
ที่มหาลัยเกี่ยวตรงๆและรับรู้อย่างชัดเจนคือวัฒนธรรมการว้ากค่ะ
แต่ละคนดูภูมิใจมากด้วยนะคะ ถึงกับขนาดโพสลงในเพจอาเซียนด้วย โดนต่างประเทศด่าไปก็ยังคงไม่จบ
เข้าใจนะ เป็นเด็กกิจกรรมมาก่อน ก่อนจะเข้าร่วมกิจกรรมมันจะมีการละลายพฤติกรรมโดยการเล่นแผลงๆหรืออาจจะใช้คำหยาบคายซึ่งให้เด็กๆปรับตัว
แต่อย่างการว้ากนี่ถือว่าเป็นการกระทำที่ส่วนตัวคิดว่ามันรุนแรงไปหน่อยนะคะ มันไม่ใช้วัฒนธรรมเลย มันคือความป่าเถื่อน
แม้ว่าจะผ่านมาหลายปี มันก็ไม่ใช่วัฒนธรรมอยู่ดี วัฒธรรมคือสิ่งที่นำพาไปซึ่งความเจริญ แต่วัฒนธรรมที่หลายๆคนอ้างนี่มันความป่าเถื่อนในสังคมผู้มีความรู้ชัดๆ...

มาที่เรื่องสุดท้าย อาจจะเป็นเรื่องขำๆไปซะแล้ว ในวันรับปริญญา จะมีมนุษย์ป้ามากหน้าหลายตามาแสดงความยินดี
พร้อมกับแปะเข็มกลัดให้ด้วยความโอบอ้อมอารีย์ พร้อมแบมือ...
อยากจะต่อว่านะคะ แต่เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ บางคนก็เสียไป30-40บาท บาทคนใจดีหน่อยก็ให้เป็น100 บางคนลูกคนรวยตังเหลือก็ให้ไปเป็นพัน มนุษย์ป้าพวกนั้นก็ถือว่าลาภลอยไป
อาจจะดูเล็กๆน้อยๆแต่ทางที่ดีก็ไม่ควรมีนะคะ วันสำคัญขนาดนั้น มีตัวทำลายบรรยากาศมาดูดตังเฉย
คนที่จะเข้ามหาลัยมีการคัดกรองหน่อยก็ดีค่ะ

ก็ฝากไว้เท่านี้ล่ะค่ะ สรุปเป็นข้อๆได้หลังจากร่ายยาวมาได้ดังนี้ค่ะ
1. สพฐ.ควรปรับปรุงวัฒนธรรมเดิมๆได้แล้ว ได้แก่
- การตรวจเช็คการเรียนการสอนแบบขอไปที ผักชีโรยหน้า
- การออกข้อสอบอย่าง o-net GAT PAT ควรได้มาตรฐาน ไม่ยากเกินไป ไม่ออกข้อสอบผิด
- ปรับปรุงหนังสือเรียนของสพฐ.ที่มีแต่น้ำท่วมทุ่ง เนื้อหาประเด็นจับใจความไม่ได้
- ใช้การสอบสัมภาษณ์คนที่เข้ามาในสพฐ.ควรจะคัดเลือกดีๆหน่อย อย่างพวกมีปมในใจที่บอกไปนี่ไม่เอา
2. เรื่องการเรียนรด.
- เด็กรวยสบายเด็กจนต้องทน ไม่ควรนะคะ ขอความยุติธรรมให้พวกเขาบ้าง
- การติดสินบนที่รด.ปลูกฝังกัน ควรยกเลิกประเพณีนี้ได้แล้ว
- ยัดเงินเรื่องเกณฑ์ทหารหรือกรณีใดๆก็แล้วแต่ไม่ควรจะเกิดขึ้นมาเลย
3. การรับน้อง
- วัฒนธรรมป่าเถื่อนอย่างการว้ากน่ะควรยกเลิกซะเถอะ กิจกรรมดีๆมีให้ทำเยอะแยะกลับเลือกใช้ของแปลกๆซะได้
4. การรับปริญญา
- พวกป้าๆที่มีขายเข็มกลัดวันรับปริญญาที่มาแปะโดยไม่บอกไม่กล่าว ตรวจคนเข้างานนิดนึงก็ได้นะคะ


อันนี้แถมค่ะ
"ที่ฝรั่งเศส นร.ทุกคนแต่งตัวสวยแต่งหน้า ทำผม ทาเล็บ ใส่ส้นสูง แต่งตัวตามใจไม่มีกฎข้อบังคับ นร.สูบบุหรี่แทบทุกคน แต่สูบนอกรร.เท่านั้น แต่ไม่มีใครหลับในคาบ ไม่มีใครเล่นโทรศัพท์ ไม่มีใครลอกการบ้าน ไม่มีใครจดโพยหรือลอกข้อสอบ ครูทุกคนปล่อยจามเวลา นร.เข้าตรงเวลา ครูฟังความคิดเห็นนร. ไม่เอาตัวเองเป็นใหญ่ ข้อสอบออกตามที่เรียน การบ้านให้ตามที่สอน ครูกันนัดให้การบ้านไม่เกินวันละสองวิชา นร.ทุกคนทำ.. รู้สึกว่าที่ไทยจะเคร่งกฎระเบียบผิดเรื่องมั้ง"

ไม่เห็นด้วยเรื่องสูบบุหรี่หรอกนะคะ บ้านเค้าเมืองหนาว มันมีเหตุผลในการสูบ บ้านเรามันเมืองร้อน สูบทำเท่ห์หรือสูบเพราะอยากสูบให้หายเครียดนี่มีเยอะแยะ เด็กประถมปลายสมัยนี้ยังมีเลย เป็นภาพที่น่าใจหายจริงๆ (แถวๆสยามกิตติ์ พาราก้อนหรือสถานศึกษาบางที่ก็จะมีเด็กนร.นั่งกันเป็นกลุ่มๆสูบบุหรี่พบเห็นได้เป็นเรื่องชินตาประหนึ่งแม่ค้าขายหาบเร่)

แต่งหน้าทำผมก็โอเคนะคะ เด็กมันรักสวยรักงาม ไม่ได้ขัดอะไร แต่ส่วนตัวชอบข้อบังคับที่ให้ใส่ยูนิฟอร์มนะคะ แม้ว่าจะมีคนออกมาพูดว่าเพื่อลดการแบ่งแยกชนชั้นของนร.จึงใช้ยูนิฟอร์มเดียวกัน แต่อันที่จริง กางเกงดำ กางเกงน้ำเงิน กางเกงน้ำตาลมันก็ข่มกันแล้ว หรือชุดนร.หญิงของเอกชนกับของรัฐบาล มันก็แบ่งแยกเหมือนกัน, แถมเด็กสมัยนี้ไม่ได้เกทับกันด้วยแค่ยูนิฟอร์มด้วยซ้ำ ทั้งไอโฟน ทั้งบีบี ทั้งกระเป๋าจาคอป สุดแล้วแต่จะสรรหา ก็ยังข่มกันได้ อย่าอ้างเลยว่ามียูนิฟอร์มเพื่อป้องกันการเหลื่อมล้ำทางสังคม แต่อย่างไรก็ดี ดิฉันชอบให้มียูนิฟอร์มแบบนี้แหละดีแล้วค่ะ..

และที่เห็นด้วยที่สุดคือครูสมัยนี้(บางคน แต่ก็ถือว่าหลายคน) ไม่ยอมรับผิดเวลาเด็กทักท้วง อย่างถ้าบอกเด็กว่าสงสัยอะไรถามได้นะคะ เด็กคนไหนยกมือถามก็จะโดนต่อว่าทันทีว่าไม่ตั้งใจเรียน แล้วก็สอนต่อ ไม่มีการอธิบายใดๆเลย การอธิบายให้คุณครูคือการเถียง อะไรทำนองนี้.. อยากจะบอกคุณครูเหล่านั้นว่า อีโก้กินไม่ได้นะคะคุณครู

จึงขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายค่ะ การศึกษาไทยจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่