สวัสดีค่ะ เราเป็นคนที่ชอบดูละครทุกประเทศ ทุกประเภท ทุกแบบ แต่ช่วงนี้ติดพ่อหนุ่มต่างดาวไปหน่อย
พอได้ยินว่าเค้าจะมา ก็รีบปรี่ไปซื้อตั๋ว จนได้มาครอบครอง แต่ในขณะที่เริ่มซื้อตั๋วนั้น ปัญหาก็เกิดขึ้นมากมาย
จนเราอยากจะฝากถึงผู้จัด ถึงงานจะจบไปแล้วก็ตาม
1.ตอนซื้อตั๋วแบบพรีเซล
ผู้จัดได้สร้างความอเมซซิ่งไทยแลนด์มาก โดยการจองด้วยระบบ "อัตโนมือ"
โอ้ว พระสงฆ์ แล้วถ้าเกิดบัตรของฉันมันไปซ้ำกับชาวบ้านล่ะ? แต่ทางทีมงานผู้รับจองบอกไม่มีปัญหาแน่
หลังจากจองไปแล้วประมาณ2ชม. ทีมงานโทรมาค่ะ "ตั๋วคุณต้องโดนร่นไปหนึ่งที่นั่งนะคะ เพราะว่ามันไปซ้ำกับที่คนอื่น"
อืม...ไหนบอกว่าไม่มีปัญหาไง...
2.ที่นั่ง
เพื่อนๆเราได้ตั๋วมาหลากหลายมากแล้วแต่เวรแต่กรรม แต่คนที่ได้สี่พัน แอบคิดว่าเออสี่พันถูกกว่าห้าพันนิดหน่อย
ที่นั่งอาจจะดี เมื่อมางานจริง โอ้ว พระสงฆ์! นี่มันราคาสองพันชัดๆ เห็นน้องซูแบบว่าเป็นรูปเป็นร่างแต่มิอาจเห็นจมูก ปาก
ตา โธ่ผู้จัด...ถ้างั้นก็ให้ที่ตรงนั้นเป็นราคาสองพันไปเลยดีมั้ยคะ?
3.เรื่องคนตรวจตั๋ว
มีคนรู้จัก(ซึ่งอายุอานามเธอก็ไม่ใช่เด็กมัธยม เป็นวัยทำงานแล้ว พูดจาไม่ติ่งแน่นอนค่ะ) มีของบางสิ่งบางอย่าง
ที่ดันพกมา แต่ทางผู้ตรวจตั๋วบอกว่าให้เอาไปฝากที่ฝากกล้อง เธอก็เอาไปฝากที่ฝากกล้อง ทางที่ฝากกล้องบอกว่าไม่รับฝาก
เธอจึงเดินกลับมาใหม่ คุยกับคนตรวจตั๋ว แต่คนตรวจตั๋วก็พูดกลับมาแบบเหมือนกับเธอไม่ใช่มนุษย์ เป็นตัวอะไรก็ไม่รู้
โอ้ว พระสงฆ์ คนตรวจตั๋วในงานหมอลำตามวัด ยังพูดจาดีกว่าสิบล้านเท่า เราเข้าใจว่า ทุกคนเหนื่อยค่ะ แต่ว่าถ้าคนรู้จักของเรา
เค้าก็ไม่ได้ไปติ่งใส่ ออกจะต้องพูดเอาใจด้วยซ้ำ เพราะอยากเข้างานแล้ว งานเริ่มแล้ว ขอร้องเถอะค่ะ ทำงานบริการถึงจะรำคาญ
ติ่งแค่ไหน เกลียดติ่งแค่ไหน อดทนไว้บ้างก็ได้ค่ะ หรือถ้าคนที่เรื่องมากพูดมาก คุณก็ไม่ต้องอดทนกับเค้าก็ได้ แต่นี่เธอพูดจาดีๆ
เพราะเห็นงานเริ่มแล้ว คุณกลับทำเหมือนเธอเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ เพลียค่ะ
4.โปรเจค
เราแอบเห็นเค้าเปิดคลิปตอนต้นงานก็แปลกใจ เพราะตัวเองไปดูงานมีทมาเยอะเหมือนกัน งงว่าคลิปโปรเจคต้องเปิดให้ตัวศิลปิน
ดูมิใช่หรือ? ทำไมมาเปิดต้นงาน สงสารแฟนคลับมาก อุตส่าห์อยากจะเซอร์ไพรส์หลังจากศิลปินดูคลิปนั้นเสร็จ งงกับตรรกะผู้จัดค่ะ
5.ระหว่างการแสดง
สคริปงานระหว่างสัมภาษณ์ เรางงมากจะสัมภาษณ์เรื่องอดีตชาติทำไมคะ??? ทำไมไม่เอาเรื่องปัจจุบัน เอาเรื่องเบื้องหลังการถ่ายทำ
มันทำให้ช่วงนั้นแอบกร่อย (แต่เพราะศิลปินน่ารัก เราเลยทนดู ดูแต่หน้าศิลปิน ไม่ฟังมันแล้วคำถาม) เราเข้าใจว่ากลัวพิธีกรนอกบทแต่
เนื้อหาบทสนทนา ...ไม่เข้าใจว่าจะเก่าแก่ไปไหน
ตอนสุดท้ายที่ศิลปินจะร้องไห้ เพลงก็ไม่หยุด ล่ามก็หายไป (อาจจะเป็นเพราะเธอไม่ได้ยินศิลปินพูด)
ผู้จัดค่ะ ...จัดงานมาบ่อยขนาดนี้(แต่ผลลัพธ์ไม่ขอพูดถึง) เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะพลาดได้นะคะ เซ็งสุดๆค่ะ คนจะซึ้งก็ไม่ได้ซึ้งกัน
งานนี้เราไม่ได้ว่าตัวศิลปินนะคะ เขาทำหน้าที่ของเค้าดีที่สุดแล้วค่ะ แต่องค์ประกอบที่อยู่รอบตัวเค้า อาจจะทำให้ผู้ชมฟินไม่สุด
(หรือบางท่านอาจจะสุด ก็แล้วแต่ทัศนคติของแต่ละท่าน)
หากผู้จัดได้ผ่านมาเห็นข้อความนี้ก็ลองเก็บไปพิจารณาดูบ้างนะคะ ที่เราไม่โพสตั้งแต่ตอนเริ่มซื้อตั๋ว
เพราะเราก็ยังเห็นใจความลำบากของผู้จัด สุดท้ายนี้ขอขอบคุณผู้จัดที่พยายามจะจัดงานมีทคิมซูฮยอนให้คนไทย
ได้ชมกันนะคะ
ปล. เราได้ยินเรื่องงานแถลงข่าว กับการให้เร่งถ่ายรูปภายในไม่กี่นาที ตรงนี้เราไม่ทราบรายละเอียดจึงไม่ขอตินะคะ
ขอบคุณมากค่ะ


ถึงผู้จัดงานแฟนมีทคิมซูฮยอน
พอได้ยินว่าเค้าจะมา ก็รีบปรี่ไปซื้อตั๋ว จนได้มาครอบครอง แต่ในขณะที่เริ่มซื้อตั๋วนั้น ปัญหาก็เกิดขึ้นมากมาย
จนเราอยากจะฝากถึงผู้จัด ถึงงานจะจบไปแล้วก็ตาม
1.ตอนซื้อตั๋วแบบพรีเซล
ผู้จัดได้สร้างความอเมซซิ่งไทยแลนด์มาก โดยการจองด้วยระบบ "อัตโนมือ"
โอ้ว พระสงฆ์ แล้วถ้าเกิดบัตรของฉันมันไปซ้ำกับชาวบ้านล่ะ? แต่ทางทีมงานผู้รับจองบอกไม่มีปัญหาแน่
หลังจากจองไปแล้วประมาณ2ชม. ทีมงานโทรมาค่ะ "ตั๋วคุณต้องโดนร่นไปหนึ่งที่นั่งนะคะ เพราะว่ามันไปซ้ำกับที่คนอื่น"
อืม...ไหนบอกว่าไม่มีปัญหาไง...
2.ที่นั่ง
เพื่อนๆเราได้ตั๋วมาหลากหลายมากแล้วแต่เวรแต่กรรม แต่คนที่ได้สี่พัน แอบคิดว่าเออสี่พันถูกกว่าห้าพันนิดหน่อย
ที่นั่งอาจจะดี เมื่อมางานจริง โอ้ว พระสงฆ์! นี่มันราคาสองพันชัดๆ เห็นน้องซูแบบว่าเป็นรูปเป็นร่างแต่มิอาจเห็นจมูก ปาก
ตา โธ่ผู้จัด...ถ้างั้นก็ให้ที่ตรงนั้นเป็นราคาสองพันไปเลยดีมั้ยคะ?
3.เรื่องคนตรวจตั๋ว
มีคนรู้จัก(ซึ่งอายุอานามเธอก็ไม่ใช่เด็กมัธยม เป็นวัยทำงานแล้ว พูดจาไม่ติ่งแน่นอนค่ะ) มีของบางสิ่งบางอย่าง
ที่ดันพกมา แต่ทางผู้ตรวจตั๋วบอกว่าให้เอาไปฝากที่ฝากกล้อง เธอก็เอาไปฝากที่ฝากกล้อง ทางที่ฝากกล้องบอกว่าไม่รับฝาก
เธอจึงเดินกลับมาใหม่ คุยกับคนตรวจตั๋ว แต่คนตรวจตั๋วก็พูดกลับมาแบบเหมือนกับเธอไม่ใช่มนุษย์ เป็นตัวอะไรก็ไม่รู้
โอ้ว พระสงฆ์ คนตรวจตั๋วในงานหมอลำตามวัด ยังพูดจาดีกว่าสิบล้านเท่า เราเข้าใจว่า ทุกคนเหนื่อยค่ะ แต่ว่าถ้าคนรู้จักของเรา
เค้าก็ไม่ได้ไปติ่งใส่ ออกจะต้องพูดเอาใจด้วยซ้ำ เพราะอยากเข้างานแล้ว งานเริ่มแล้ว ขอร้องเถอะค่ะ ทำงานบริการถึงจะรำคาญ
ติ่งแค่ไหน เกลียดติ่งแค่ไหน อดทนไว้บ้างก็ได้ค่ะ หรือถ้าคนที่เรื่องมากพูดมาก คุณก็ไม่ต้องอดทนกับเค้าก็ได้ แต่นี่เธอพูดจาดีๆ
เพราะเห็นงานเริ่มแล้ว คุณกลับทำเหมือนเธอเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ เพลียค่ะ
4.โปรเจค
เราแอบเห็นเค้าเปิดคลิปตอนต้นงานก็แปลกใจ เพราะตัวเองไปดูงานมีทมาเยอะเหมือนกัน งงว่าคลิปโปรเจคต้องเปิดให้ตัวศิลปิน
ดูมิใช่หรือ? ทำไมมาเปิดต้นงาน สงสารแฟนคลับมาก อุตส่าห์อยากจะเซอร์ไพรส์หลังจากศิลปินดูคลิปนั้นเสร็จ งงกับตรรกะผู้จัดค่ะ
5.ระหว่างการแสดง
สคริปงานระหว่างสัมภาษณ์ เรางงมากจะสัมภาษณ์เรื่องอดีตชาติทำไมคะ??? ทำไมไม่เอาเรื่องปัจจุบัน เอาเรื่องเบื้องหลังการถ่ายทำ
มันทำให้ช่วงนั้นแอบกร่อย (แต่เพราะศิลปินน่ารัก เราเลยทนดู ดูแต่หน้าศิลปิน ไม่ฟังมันแล้วคำถาม) เราเข้าใจว่ากลัวพิธีกรนอกบทแต่
เนื้อหาบทสนทนา ...ไม่เข้าใจว่าจะเก่าแก่ไปไหน
ตอนสุดท้ายที่ศิลปินจะร้องไห้ เพลงก็ไม่หยุด ล่ามก็หายไป (อาจจะเป็นเพราะเธอไม่ได้ยินศิลปินพูด)
ผู้จัดค่ะ ...จัดงานมาบ่อยขนาดนี้(แต่ผลลัพธ์ไม่ขอพูดถึง) เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะพลาดได้นะคะ เซ็งสุดๆค่ะ คนจะซึ้งก็ไม่ได้ซึ้งกัน
งานนี้เราไม่ได้ว่าตัวศิลปินนะคะ เขาทำหน้าที่ของเค้าดีที่สุดแล้วค่ะ แต่องค์ประกอบที่อยู่รอบตัวเค้า อาจจะทำให้ผู้ชมฟินไม่สุด
(หรือบางท่านอาจจะสุด ก็แล้วแต่ทัศนคติของแต่ละท่าน)
หากผู้จัดได้ผ่านมาเห็นข้อความนี้ก็ลองเก็บไปพิจารณาดูบ้างนะคะ ที่เราไม่โพสตั้งแต่ตอนเริ่มซื้อตั๋ว
เพราะเราก็ยังเห็นใจความลำบากของผู้จัด สุดท้ายนี้ขอขอบคุณผู้จัดที่พยายามจะจัดงานมีทคิมซูฮยอนให้คนไทย
ได้ชมกันนะคะ
ปล. เราได้ยินเรื่องงานแถลงข่าว กับการให้เร่งถ่ายรูปภายในไม่กี่นาที ตรงนี้เราไม่ทราบรายละเอียดจึงไม่ขอตินะคะ
ขอบคุณมากค่ะ