ความรักและการอกหักครั้งแรกของผม พร้อมคำถามที่ยังวนเวียนอยู่ในหัว รบกวนเพื่อนๆช่วยหาคำตอบครับ

สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆน้อง ชาวพันทิพย์ทุกท่าน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกตั้งแต่ผมสมัครเป็นสมาชิกที่เวปไซต์แห่งนี้ กระทู้นี้ผมตั้งใจจะให้เป็นกระทู้คำถาม ซึ่งอยากจะขอคำตอบ และความคิดเห็นในกรณีปัญหาเกี่ยวกับการคบกันระหว่างหญิงและชายในรูปแบบที่ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองมโนไปเองไหมว่ามันเป็นความรัก ความอยากสร้างสัมพันธ์ฉันท์คนรัก ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตของผมที่อยากทุ่มเทให้กับความรักกับผู้หญิงคนหนึ่ง....

     คำถามของผมสั้นๆครับ แต่จะขอเกริ่นเนื้อเรื่องความเป็นมาโดยประมาณ อาจจะลงรายละเอียดลึกไป ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ เพราะต้องการรบกวนให้ทุกท่านสามารถวิเคราะห์ผลได้

     ขอเกริ่นเรื่องของตัวผมเองก่อนครับ ตัวผมนั้นเป็นพนักงานกินเงินเดือนสายอาชีพออกแบบ พ่อแม่เปิดกิจการค้าขายอยู่ ตัวผมจะมาช่วยงานช่วงเช้าในทุกวันทำงานเพราะเข้าสายได้ เสาร์-อาทิตย์ก็มาช่วยทำงานเต็มวัน เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้หยุดพักผ่อนและมีเวลาส่วนตัวเหมือนท่านอื่นสักเท่าไหร่ จึงทำให้แทบจะไม่มีเวลาที่จะคบหาดูใจใคร

      เพื่อนรักผมคนหนึ่งได้เข้าใจวิถีชีวิตหน้าที่ ที่ผมต้องรับผิดชอบในการงานและครอบครัว จึงได้ชกชวนผมให้รู้จักผู้หญิงคนนึงเข้ามาในชีวิตผม เพราะเธอก็ยังโสด

     เธอคนนี้ เริ่มแรกที่คบกัน เธอไม่ได้ทำงานอะไร ก่อนหน้านี้ก็เอาของสดไปขายตามตลาดแถวบ้านโดยรับกับเพื่อนแต่ทะเลาะกับเพื่อนเลยไม่มีของขาย บ้านเธออยู่ไกลกับผมมาก การเดินทางไปมาหากันก็คงลำบากคงได้แต่ไลน์หากัน และเจอกันในวันที่ไปเที่ยว ไปธุระกับเธอ

     จากการแนะนำของเพื่อนรักผม ผมก็ได้สนทนากับเธอทางไลน์(line) คุยกันไปผมก็เริ่มที่จะอยากรู้จักกับเธอมากขึ้น ก็เริ่มที่จะคุยสนิทขึ้นจากเริ่มแรกที่ผมดูประหม่าเพราะไม่ได้มีประสบการณ์คุยกับผู้หญิงในเชิงคุยเล่นมากนัก ทุกครั้งที่คุยจะลงท้ายด้วยครับตลอด พอเริ่มที่จะคุย(ทางline)ได้แบบสนิทแล้วระดับหนึ่ง ผมก็เริ่มชอบผู้หญิงคนนี้ขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเธอเป็นคนตรงๆ ห้าวหน่อยๆ ตรงข้ามกับนิสัยผม อย่างที่เพื่อนผมคิดแต่แรก ว่าน่าจะไปด้วยกันได้
     
     ผมได้ไปเที่ยวกับเธอครั้งแรกคือ ถนนข้าวสาร เรานัดเจอกันและหาที่นั่งดื่มกัน สถานการณ์ตอนนั้นเรียกได้มาเจอกันครั้งแรก ผมก็เกร็งๆนะ พยายามชวนคุยกับเธอสุดๆ ตอนนี้ผมเริ่มสังเกตได้แล้วว่า เธอมีนิสัยติดโลกโซเชี่ยวเนตเวิคมาก ทั้งไลน์และFacebook ต้องupdates บ่อย ผมก็ยังโอเค เพราะคิดว่าผมยังไม่สนิทกับเธอเท่าไหร่ คงต้องสานสัมพันธ์เรื่อยๆต่อไป

     วันหนึ่ง เธอได้ไลน์มาหาผม ว่าเธออยากจะขอยืมเงินจำนวน 2500 บาท เพราะเธอต้องส่งค่ารถ แต่ตอนนั้นเธอว่างงาน และไม่อยากเดือนร้อนพ่อแม่ เนื่องด้วยผมมีใจให้เธอแล้ว และคุยสนทนากับเพื่อนว่าเธอก็มีใจให้ผมบ้างแล้ว ผมจึงคิดจริงใจกับเธอและแสดงให้เห็นถึงความจริงใจระดับหนึ่ง โดยโอนเงินให้เธอตามคำขอ แม้ว่าจะได้แค่คำ ขอบใจ กลับมา ....

     เธอได้ไปสมัครงานหลายที่ อยากทำตำแหน่งที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิต เพราะไม่ชอบอยู่ในกรอบใคร ปัญหาของเธอคือบ้านอยู่ไกลแทบชานเมือง แล้วแต่ละที่ที่ไปสมัครก็อยู่ในตัวเมืองทั้งนั้น ประกอบกับลักษณะงานที่เธอต้องการหายากมากอยู่แล้ว จนเธอได้งานแถวสีลมไม่ใช่ที่เธอต้องการแต่ต้องทำไปก่อน การเดินทางก็ไกล ค่าเดินทางสูง ค่าอาหารก็แพง รูปแบบงานก็ไม่ได้ดั่งใจเธอ กดดัน เครียด ผมก็คอยเป็นกำลังใจให้ตลอด ทั้งที่การงานผมก็เครียดเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ระบายส่วนของผมให้กับเธอ...

     จนในที่สุดเธอลาออกในวันเงินเดือนออก เพราะองค์ประกอบหลายอย่างทั้งตัวเธอและออฟฟิตนั้น แน่นอนว่าเธอคงจะเซ็งมากๆ ผมก็ปลอบเเธอเหมือนเดิม และให้เธอยืมอีก 5000 บาท และได้คำว่า ขอบใจ กลับมา เธอชวนผมไปสังเกตการณ์ที่ตลาดขายส่งของสด เพราะเธออยากจะค้าขายมากกว่าการเป็นลูกน้องคนอื่น ผมก็เห็นว่าเธอมีใจกระตือรือร้น ก็สนับสนุนที่จะทำและรับคำชวน ถึงขั้นหนีงานที่บ้าน ปล่อยพ่อแม่ทำงานกันสองคน....

     เริ่มแรกเราไปตลาดส่งแบบไม่เคยไปกัน อาศัยGPS ใน Nokia lumia นำทางไป เมื่อไปถึงลงไปเดิน สิ่งที่เธอทำคือ เดินไปเล่นไลน์ไป เราสองคนแทบไม่ค่อยมีบทสนทนากัน เพราะสายตาเธอจับจ้องที่หน้าจอแทบตลอด ชวนคุยก็เงียบ จริงจังกับการหาของบ้าง จนได้คุยกับแม่ค้าว่าของส่งมาประมาณเวลา3ทุ่ม (เราไปกันตอนบ่าย) เธอเลยชวนไปอัมพวาต่อซึ่งไปเธอกับลูกพี่ลูกน้องเธอ เธอก็ขับรถไป เราก็สนทนากันบ้างเล็กน้อย เพราะเธอขับรถคงเล่นไลน์ไม่ได้ แต่เสียงข้อความก็เข้าตลอด ไปถึงอัมพวาและเจอลูกพี่ลูกน้องเธอ ก็ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นอะไรกัน ไม่แนะนำให้รู้จักจนผมต้องแนะนำตัวเองแทน... ตามแบบเดิม คือเธอก็ยังเดินไปเล่นไลน์ facebook ของเธอไป ผมก็เดินตามเธอไป พร้อมกับมองคู่ของลูกพี่ลูกน้องกระหนุงกระหนิงกันไป ดูแล้วช่างมีความสุข เหมือนเธอมาบ่อยเดินสักพักก็หาทำเลนั่งชิลๆกัน4คน ระหว่างนั้นผมก็ถ่ายรูป แสดงโลเกชั่นว่าผมมาที่อัมพวา ระหว่างนั้นเธอเห็นและเหมือนไม่ิยากให้ผมโพสในFacebook เหมือนกลัวเพื่อนรักผมเห็น... คุยกันไปมาจนเริ่มมืด ก็ชวนกันไปดูหิงห้อย ระหว่างที่นั่งเรือดู คุณเธอก็ยังคงอยู่ในโลกโซเชี่ยลของเธอ โดยไม่สนใจการดูหิงห้อย.... พอกลับมาผมให้เธอมาส่งจุดที่ผมต่อรถเมล์กลับบ้านได้ เพราะเป็นห่วงเธอขับรถมาไกล อีกหนึ่งวันที่สิ้นสุดลงกับความสัมพันธ์ที่ไม่รู้ว่าคืบหน้าหรือไม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่