บทวิเคราะห์ทางรัฐศาสตร์ กรณีคนกรุงเทพ 5.5แสนคนเลือกหญิงเป็ดเป็น ส.ว.

กระทู้สนทนา
อาจารย์ วิโรจน์ อาลี( คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์เหตุผลที่คนกรุงเทพ แห่เลือก คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เป็น ส.ว. ด้วยคะแนนกว่า 5.5 แสนเสียง   ในประเด็นสำคัญ ดังนี้
   

...สถานการณ์การเลือกตั้ง ส.ว. ถ้ามองง่ายๆ ข้อสังเกตแรกคือ ถ้าไม่มีการขัดขวางการเลือกตั้งก็เกิดขึ้นได้ ไม่มีปัญหา
   

ข้อสังเกตที่สอง ตัวเลขของคนที่ไปใช้สิทธิ์ และคนที่โหวตโน มีนัยยะสำคัญคือ คนไปใช้สิทธิ์แค่ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในกรุงเทพฯมีแค่ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น อาจสะท้อนนัยยะบางอย่าง เช่น ประชาชนอาจเบื่อหน่ายการเมือง หรือตัวเลือกผู้ลงสมัครไม่ชัดเจน เพราะไม่แน่ใจว่า ตัวผู้สมัครมีกรอบแนวคิด วิธีคิดอย่างไร ซึ่งจะนำมาสู่ข้อสังเกตที่สาม ที่บอกว่า ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งต้องปลอดจากการเมืองนี้ ใช้ได้จริงหรือเปล่า เป็นจริงหรือไม่ หรือว่าประชาชนเลือกตามที่รู้ว่าแต่ละคนมีแนวความคิดอย่างไร
   

ถามว่าคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกาได้รับเลือกเพราะอะไร อาจเป็นเรื่องการหาเสียงของ กปปส. ซึ่งมีนัยยะทางการเมืองอยู่แล้ว ฉะนั้นจะบอกว่าการเลือก ส.ว. เป็นการเลือกคนที่ปลอดการเมืองนั้นอาจเป็นเรื่องที่ไม่จริง ควรจะปรับ ทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าไปรู้เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ วิธีคิดทางการเมืองของผู้สมัครให้ดีกว่านี้ ไม่สังกัดพรรคการเมืองก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนรู้แนวคิด นี่เป็นเรื่องสำคัญ
   

นัยยะสำคัญอีกประการหนึ่ง คือคนที่ไปโหวตโนมีมากพอสมควร ประมาณ 2 ล้านกว่าเสียง ซึ่งถือว่าน่าสนใจ ต้องเข้าไปดูในรายละเอียดต่อไปว่า ทำไมกลุ่มประชากรกลุ่มนี้จึงไปลงคะแนนเสียงโดยไม่เลือกใคร เกิดจากเหตุปัจจัยอะไร ไม่รู้จักผู้สมัคร เบื่อการเมือง หรือคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไรเพราะมีความผันผวนด้านการเมืองซึ่งอาจนำไปสู่การล้มการเลือกตั้งได้อีกหรือเปล่า
   

นัยยะต่อมาคือเรื่องภาคการเมือง เมื่อก่อนมีการวิเคราะห์กันโดยเชื่อว่า ส.ว.ที่เหลืออยู่ในสภาตอนนี้ เป็น ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้ง น่าจะเป็นส่วนที่จะสามารถยื่น นายกฯมาตรา 7 ได้ แต่ ณ วันนี้ ถ้ามีการรับรองการเลือกตั้ง ให้มีสมาชิกวุฒิสภาครบ ประเด็นปัญหาเรื่องการถอดถอนต่างๆ ตามแนวคิดจะเป็นไปได้ยากขึ้น อาจทำให้การเมืองมีเสถียรภาพ เราจะเห็นรัฐบาลออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองมากขึ้นกว่าในอดีต
  

คุณหญิงจารุวรรณน่าจะกล้าพอที่จะยื่นนายกฯมาตรา 7 ก็เป็นไปได้ ซึ่งอยู่ที่ตัวบุคลิกภาพของตัวบุคคล มีการชูคุณหญิงจารุวรรณขึ้นมาแต่แรก แต่ในแง่การจัดการจริงๆ อาจมีคนอื่นที่จะมานั่งเป็นประธานวุฒิสภาเช่นเดียวกัน คงไม่ได้ง่ายแบบเชื่อขนมกิน แต่วุฒิสภาก็คงมีการต่อสู้กันพอสมควรในการที่จะหาประธานต่อไป
   

บุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภานั้นมองว่า 1.ต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ 2.คนที่มองข้ามความขัดแย้งทางการเมืองในระดับหนึ่ง ต้องรู้ว่ามีความขัดแย้ง มีจุดยืนก็ไม่เป็นไร แต่ว่าต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาให้ตรงตามกระบวนการเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะฉะนั้นสิ่งที่คาดหวังจากตัวประธานวุฒิฯในวันนี้ก็คือ การทำงานตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาตามเจตนารมย์ของระบอบประชาธิปไตย ที่นำประชาชนมาเป็นตัวกลาง คิดถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ


  ที่มามิติชนออนไลน์ ร่วมเป้นแฟนเพจมติชนใด้ที่ https://www.facebook.com/MatichonOnline
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่