ตามหัวเรื่องเลยค่ะ คือ เราเคยได้ยินประโยคที่ว่า ถ้าไม่ฆ่าคู่แข่ง คู่แข่งก็ต้องฆ่าเรา จึงต้องพยายามกำจัดคู่แข่งสินค้าประเภทเดียวกันให้ตายไป
มันจริงหรือไม่คะ ที่ต้องยึดแนวคิดแบบนี้ หรือมีท่านใดมีประสบการณ์ฆ่าคู่แข่ง หรือ การเป็นพันธมิตรที่ดีกับคู่แข่ง แล้วก็ไปได้ดีด้วยกันบ้างมั้ยคะ
เราขอแชร์เรื่องราวของเราคร่าวๆนะคะ แรกเริ่มเราก็เริ่มธุรกิจมา ก็เจอเพื่อนที่ค้าขายสินค้าหมวดเดียวกัน เราได้เข้าไปทำความรู้จักค่ะ จนคิดว่าสนิทสนมระดับหนึ่ง คุยเล่นกันได้ ทักทายกันได้ จนเรื่อยมา เค้าก็เริ่มไม่ทักทายเราค่ะ เงียบหายไป จนเราเห็นว่าเค้าเริ่มลอกเลียน identity ของเราในบางส่วนค่ะ ซึ่งเราก็ตะหงิดๆใจค่ะ ไม่ชอบเท่าไหร่ ประกอบกับเค้าหายไปไม่ทักทายมาเหมือนเคย เลยลองทักไป ชวนคุยแบบปกติ ก็ยังคุยกลับมาดีค่ะ แต่พอเรื่อยๆมามันก็เหมือนกลายเป็นสงครามเล่นแง่กันต่อไปเรื่อยๆ เราคิดว่าเราไม่ได้เริ่มก่อนนะคะ มันเหมือนกลายเป็น เรามีอะไรเค้าก็ต้องมีตามเราขนาดสิ่งเล็กๆน้อยๆ ไปๆมาๆเราก็เลยอยู่ในวังวนนั้นด้วย สรุปลงท้ายคือก็แตกคอกันค่ะ เรารู้สึกเครียดนะคะ รู้สึกแย่เลย เพราะในความรู้สึกเรามันยังมีความเคยเป็นเพื่อนกันหลงเหลืออยู่ แต่ยิ่งนานวันค่ะ สังเกตุเค้าก็ยิ่งล้ำเส้นเราเข้ามาเรื่อยๆๆ จากที่ตอนมีปัญหากัน เราก็ถอยและเปลี่ยนแปลงพยายามไม่ให้มีอะไรเหมือนกัน (ทั้งที่หลายอย่างมากๆค่ะเราเป็นคนคิดริเริ่มทำ) แต่จนตอนนี้เค้าทำทุกอย่างแบบเรา มาใช้วัสดุแบบเราใช้ คือกะว่าจะตีเรา เหมือนเธอมีอะไร ชั้นก็จะมี...ถึงจุดนี้เราเครียดมากค่ะ เลยมานั่งคิดทบทวนถึงประโยคที่ได้ตั้งกระทู้ไป
เราคงใจอ่อนไป...สมัยนี้มันจะยังมีอยู่จริงหรอคะ แนวคิดที่ว่าถ้อยทีถ้อยอาศัย หลบหลีกกัน พึ่งพากันและกันได้
หรือเพื่อนๆ ท่านผู้อ่านคนไหนมีประสบการณ์ในการฟาดฟัน หรือสร้างพันธมิตรทางธุรกิจอย่างได้ผลแล้ว รบกวนมาแชร์ประสบการณ์กันหน่อยนะคะ อยากได้แนวคิดที่ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างสบายใจค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ว่าด้วยเรื่องค้าขายและธุรกิจ แนวคิดที่ว่าถ้าเราไม่ฆ่าเค้า เค้าก็ต้องฆ่าเราอยู่ดีนี้มันเป็นจริงแค่ไหนคะ
มันจริงหรือไม่คะ ที่ต้องยึดแนวคิดแบบนี้ หรือมีท่านใดมีประสบการณ์ฆ่าคู่แข่ง หรือ การเป็นพันธมิตรที่ดีกับคู่แข่ง แล้วก็ไปได้ดีด้วยกันบ้างมั้ยคะ
เราขอแชร์เรื่องราวของเราคร่าวๆนะคะ แรกเริ่มเราก็เริ่มธุรกิจมา ก็เจอเพื่อนที่ค้าขายสินค้าหมวดเดียวกัน เราได้เข้าไปทำความรู้จักค่ะ จนคิดว่าสนิทสนมระดับหนึ่ง คุยเล่นกันได้ ทักทายกันได้ จนเรื่อยมา เค้าก็เริ่มไม่ทักทายเราค่ะ เงียบหายไป จนเราเห็นว่าเค้าเริ่มลอกเลียน identity ของเราในบางส่วนค่ะ ซึ่งเราก็ตะหงิดๆใจค่ะ ไม่ชอบเท่าไหร่ ประกอบกับเค้าหายไปไม่ทักทายมาเหมือนเคย เลยลองทักไป ชวนคุยแบบปกติ ก็ยังคุยกลับมาดีค่ะ แต่พอเรื่อยๆมามันก็เหมือนกลายเป็นสงครามเล่นแง่กันต่อไปเรื่อยๆ เราคิดว่าเราไม่ได้เริ่มก่อนนะคะ มันเหมือนกลายเป็น เรามีอะไรเค้าก็ต้องมีตามเราขนาดสิ่งเล็กๆน้อยๆ ไปๆมาๆเราก็เลยอยู่ในวังวนนั้นด้วย สรุปลงท้ายคือก็แตกคอกันค่ะ เรารู้สึกเครียดนะคะ รู้สึกแย่เลย เพราะในความรู้สึกเรามันยังมีความเคยเป็นเพื่อนกันหลงเหลืออยู่ แต่ยิ่งนานวันค่ะ สังเกตุเค้าก็ยิ่งล้ำเส้นเราเข้ามาเรื่อยๆๆ จากที่ตอนมีปัญหากัน เราก็ถอยและเปลี่ยนแปลงพยายามไม่ให้มีอะไรเหมือนกัน (ทั้งที่หลายอย่างมากๆค่ะเราเป็นคนคิดริเริ่มทำ) แต่จนตอนนี้เค้าทำทุกอย่างแบบเรา มาใช้วัสดุแบบเราใช้ คือกะว่าจะตีเรา เหมือนเธอมีอะไร ชั้นก็จะมี...ถึงจุดนี้เราเครียดมากค่ะ เลยมานั่งคิดทบทวนถึงประโยคที่ได้ตั้งกระทู้ไป
เราคงใจอ่อนไป...สมัยนี้มันจะยังมีอยู่จริงหรอคะ แนวคิดที่ว่าถ้อยทีถ้อยอาศัย หลบหลีกกัน พึ่งพากันและกันได้
หรือเพื่อนๆ ท่านผู้อ่านคนไหนมีประสบการณ์ในการฟาดฟัน หรือสร้างพันธมิตรทางธุรกิจอย่างได้ผลแล้ว รบกวนมาแชร์ประสบการณ์กันหน่อยนะคะ อยากได้แนวคิดที่ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างสบายใจค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ