รายชื่อผู้ถือหุ้น ปี 2555 - 2556
ระหว่างปีโอนให้ลูกชาย 315,062,190 หุ้น
รายชื่อผู้ถือหุ้นปี 2557 ปรากฎว่าไม่มีชื่อลูกชายของคุณเศรษฐา ทวีสิน หมายความว่าขายเกลี้ยงแถว 3 บาท
และระหว่างปี 2556 มีการโอนออกไป (ขาย) เป็นระยะๆ จนถือเหลืออยู่แค่ 130 หุ้น จากเคยถือกว่า 1.2 พันล้านหุ้น
ซึ่งมันตรงกันข้ามกับที่คุณเศรษฐา เคยบอกไว้ว่ารัก SIRI อยากจะเก็บหุ้นไว้ให้มากที่สุดเท่าที่มีโอกาส
โครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุดปี 2557 ตอนนี้ไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดรายหนึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ระดับ 20-30%
การที่ไม่มีผู้บริหารของ SIRI เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มันก็มีทั้งข้อดี และข้อเสีย
ข้อเสีย
กรณีที่ผู้บริการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เขาก็จะบริการงานให้ดีที่สุด เพราะนั้นหมายถึงรายได้ กำไร และราคาหุ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับความมั่งคั่งของเขา ผิดกับผู้บริหารไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ การบริการงานความระมัดระวัง และความรอบคอบไม่เหมือนกับผู้บริหารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริหารให้มีกำไรก็เพียงพอต่อความมั่นคงในตำแหน่ง การบริหารให้บริษัทได้กำไรมากขึ้นเยอะๆ ก็ไม่มีผลต่อความมั่งคั่งของเขา
การจ่ายเงินปันผล กรณีที่ผู้บริการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ การปันผลมีผลต่อเงินที่เขาจะได้รับ ตรงกันข้าม ผู้บริการไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เขาก็จะมองที่สภาพคล่องของบริษัทที่เขาบริหาร หากสภาพคล่องสูง การบริหารก็ง่าย แต่การจ่ายปันผล ทำให้บริษัทต้องสูญเสียเงินสดออกไป ยิ่งปันผลมาก บริษัทก็ต้องสูญเสียเงินสดออกไปมาก ซึ่งกรณีนี้ผู้บริหารที่ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ต้องการที่จะจ่ายเงินปันผลน้อย เพื่อเก็บเงินสดไว้กับบริษัท
นี่เป็นสิ่งที่อาจจะเปลี่ยนไปในอนาคตครับ
SIRI - คุณเศรษฐา ทวีสิน ถือหุ้นเหลือ 130 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.36 % ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
ระหว่างปีโอนให้ลูกชาย 315,062,190 หุ้น
รายชื่อผู้ถือหุ้นปี 2557 ปรากฎว่าไม่มีชื่อลูกชายของคุณเศรษฐา ทวีสิน หมายความว่าขายเกลี้ยงแถว 3 บาท
และระหว่างปี 2556 มีการโอนออกไป (ขาย) เป็นระยะๆ จนถือเหลืออยู่แค่ 130 หุ้น จากเคยถือกว่า 1.2 พันล้านหุ้น
ซึ่งมันตรงกันข้ามกับที่คุณเศรษฐา เคยบอกไว้ว่ารัก SIRI อยากจะเก็บหุ้นไว้ให้มากที่สุดเท่าที่มีโอกาส
โครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุดปี 2557 ตอนนี้ไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดรายหนึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ระดับ 20-30%
การที่ไม่มีผู้บริหารของ SIRI เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มันก็มีทั้งข้อดี และข้อเสีย
ข้อเสีย
กรณีที่ผู้บริการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เขาก็จะบริการงานให้ดีที่สุด เพราะนั้นหมายถึงรายได้ กำไร และราคาหุ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับความมั่งคั่งของเขา ผิดกับผู้บริหารไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ การบริการงานความระมัดระวัง และความรอบคอบไม่เหมือนกับผู้บริหารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริหารให้มีกำไรก็เพียงพอต่อความมั่นคงในตำแหน่ง การบริหารให้บริษัทได้กำไรมากขึ้นเยอะๆ ก็ไม่มีผลต่อความมั่งคั่งของเขา
การจ่ายเงินปันผล กรณีที่ผู้บริการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ การปันผลมีผลต่อเงินที่เขาจะได้รับ ตรงกันข้าม ผู้บริการไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เขาก็จะมองที่สภาพคล่องของบริษัทที่เขาบริหาร หากสภาพคล่องสูง การบริหารก็ง่าย แต่การจ่ายปันผล ทำให้บริษัทต้องสูญเสียเงินสดออกไป ยิ่งปันผลมาก บริษัทก็ต้องสูญเสียเงินสดออกไปมาก ซึ่งกรณีนี้ผู้บริหารที่ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ต้องการที่จะจ่ายเงินปันผลน้อย เพื่อเก็บเงินสดไว้กับบริษัท
นี่เป็นสิ่งที่อาจจะเปลี่ยนไปในอนาคตครับ