หุ้น IEC ฟื้นตัวเต็มที่ปี'58 ล้างขาดทุนสะสม-ขายพีพีราคาสูงกว่าพาร์ พุ่งเป้าพลังงานทดแทนโกยเงิน 4 โรง
IEC วาดหวังปี 2558 ฟื้นตัวเต็ม รับรู้รายได้ขายไฟเต็ม 4 โรง จ่ายเงินปันผลได้
นายอรรถวุฒิ เลาหภักดี รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริ่ง (IEC) เปิดเผยว่า ธุรกิจ
พลังงานทดแทนของ IEC เริ่มมีรายได้เชิงพาณิชย์จากการขายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จากโครง
การโซลาร์ฟาร์มที่ อ.แม่ทา จ.ลำพูน ขนาด 2 เมกะวัตต์ และโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ขนาด 6 เมกะวัตต์ ส่วนอีก
2 โครงการคาดว่าจะมีรายได้เชิงพาณิชย์ภายในไตรมาส 2 ปีนี้
********
อะไรคือข้อเท็จจริง
(๑) ณ 31 มีนาคม 2557 ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 120,311,970,000 หน่วยๆละ (พาร์) 0.10 = 12,031.20 ล้านบาท
(๒) สิ้นสุด 31/12/2556 ทุนที่ออกและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 12,002.01 ที่ราคาพาร์ 0.10 บาท (ส่วนต่างจากข้อ (๑) คงเกิดจากการหลัง
31/12/2556)
(๓) สิ้นสุด 31/12/2556 ส่วนต่ำมูลค่าหุ้น -7,587.69 ล้านบาท
เกิดขึ้นจากส่วนต่างที่ขายหุ้นต่ำกว่าราคาพาร์ 0.10 บาท มีส่วนต่ำ - 7,587.69 ล้านบาท
สามารถลดล้างได้ ดังนี้
(i) ลดทุนจดทะเบียนลดราคา พาร์ หรือ ลดจำนวนหุ้น หรือ ทั้งสองอย่างพร้อมๆกัน; หรือ/และ
(ii) ขายหุ้นใหม่เพิ่มทุนได้สูงกว่าราคาพาร์
(iii) วิธีอื่นๆไม่ว่ากู้เงิน หรือ จะมีกำไรสะสมเท่าไรก็ตาม ไม่สามารถนำมาลดล้างส่วนต่ำได้
(๔) ผบห มองว่าวิธี "ลดทุนจดทะเบียนโดยลดจำนวนหุน ไม่ลดราคาพาร์" เป็นวิธีดีที่สุด เพราะ
(i) ณ ราคาพาร์ปัจจุบัน 0.10 บาท คงไม่ยากลดต่ำกว่านี้
(ii) ลดจำนวนหุ้น นอกจากได้ส่วนเกินมาลดล้างส่วนต่ำแล้ว ยังเป็นการลดจำนวนหุ้นทุนจดทะเบียน 120,020.10 ล้านหุ้น เหลือน้อยลง =
120,020.10/8.1 = 14,817.30 ล้านหน่วย
(๕) ลดล้างส่วนต่ำ -7,587.69 ล่านบาท
(i) สามารถลดจำนวนหุ้นได้ 120,020.10 - 14,817.30 = 105,301.8 ล้านน่วย
(ii) ได้เงินหน่วยละ 0.10 = 105,301.8*0.10 = 10,530.18 ล้านบาท ส่วนเกินมูลค่าหุ้น
(iii) หลังบันทึกลงบัญชี จะพลิกกลับมามีส่วนเกิน 2,942.49 ล้านบาท (10,530.18 - 7,587.69) ซึ่งสามารถนำไปลดขาดทุนสะสมได้
(๖) ตามข่าวข้างบน "ล้างขาดทุนสะสม-ขายพีพีราคาสูงกว่าพาร์"
(i) สมมติว่าก่อนลดทุนลดจำนวนหุ้น 8.1 เหลือ 1 หน่วย ณ ราคาปิด 0.03 บาท ในวันแรกราคาเปิดประมาณ 0.243 บาท
(ii) ขายให้ pp ปกติราคาคำนวน 90% ของราคาถ่วงน้ำหนัก 7-15 วันก่อนวันซื้อขาย สมมติว่าราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 0.22 บาท
= 0.22*.90 = 0.198 บาท สูงกว่าราคาพาร์ 0.10 บาท
(iii) สมมติว่าขายให้ pp ได้เต็มจำนวน 130,000.00 ล้านหน่วย จะได้ส่วนต่าง "เกินมูลค่าหุ้น" เพิ่มขึ้น = 130,000,000,000*0.098 =
12,740.00 ล้านบาท
(iv) หลังบันทึกเงินได้รับจากการขายให้ pp จะมี "ส่วนเกินมูลค่าหุ้น" = 10,530.18 + 12,740.00 = 23,270.18 ล้านบาท ซึ่งมากเกิน
ขาดทุนสะสม -2,915.76 ล้านบาท ก็ไม่สามารถล้างหมดต้องเหลือน้อยที่สุดตามกฏเกณฑ์กำหนด จะเป็นเท่าไรไม่รู้
(๗) หลังจากดำเนินเรื่องนำ "ส่วนเกิน" ลด "ขาดทุนสะสม" ผลประกอบการต้องออกมามีกำไรเพื่อล้างขาดทุนสะสมให้หมด
(๘) ความเป็นไปได้หรือไม่ขึ้นอยู่ดำเนินเรื่องได้เมื่อไร แต่ปันผลไม่น่าจะเกิดขึ้นในปีที่ดำเนินเรื่อง อย่างน้อยต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี
สะสมกำไรเพียงพอจ่ายปันผลหลังสำรองทางกฏหมาย
(๙) ทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นตามความฝันของ ผบห ใช่ว่าจะเกิดขึ้นโดยไม่สามารถทำให้ผลประกอบการออกมามีกำไรสมำเสมอ มิฉะนั้นแลั้ว
"ฝันสลายไม่เป็นจริง"
ขอให้โชคดี
ด้วยความปรารถนาดี
For Information : IEC ข่าวหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์เช้านี้
IEC วาดหวังปี 2558 ฟื้นตัวเต็ม รับรู้รายได้ขายไฟเต็ม 4 โรง จ่ายเงินปันผลได้
นายอรรถวุฒิ เลาหภักดี รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริ่ง (IEC) เปิดเผยว่า ธุรกิจ
พลังงานทดแทนของ IEC เริ่มมีรายได้เชิงพาณิชย์จากการขายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จากโครง
การโซลาร์ฟาร์มที่ อ.แม่ทา จ.ลำพูน ขนาด 2 เมกะวัตต์ และโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ขนาด 6 เมกะวัตต์ ส่วนอีก
2 โครงการคาดว่าจะมีรายได้เชิงพาณิชย์ภายในไตรมาส 2 ปีนี้
********
อะไรคือข้อเท็จจริง
(๑) ณ 31 มีนาคม 2557 ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 120,311,970,000 หน่วยๆละ (พาร์) 0.10 = 12,031.20 ล้านบาท
(๒) สิ้นสุด 31/12/2556 ทุนที่ออกและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 12,002.01 ที่ราคาพาร์ 0.10 บาท (ส่วนต่างจากข้อ (๑) คงเกิดจากการหลัง
31/12/2556)
(๓) สิ้นสุด 31/12/2556 ส่วนต่ำมูลค่าหุ้น -7,587.69 ล้านบาท
เกิดขึ้นจากส่วนต่างที่ขายหุ้นต่ำกว่าราคาพาร์ 0.10 บาท มีส่วนต่ำ - 7,587.69 ล้านบาท
สามารถลดล้างได้ ดังนี้
(i) ลดทุนจดทะเบียนลดราคา พาร์ หรือ ลดจำนวนหุ้น หรือ ทั้งสองอย่างพร้อมๆกัน; หรือ/และ
(ii) ขายหุ้นใหม่เพิ่มทุนได้สูงกว่าราคาพาร์
(iii) วิธีอื่นๆไม่ว่ากู้เงิน หรือ จะมีกำไรสะสมเท่าไรก็ตาม ไม่สามารถนำมาลดล้างส่วนต่ำได้
(๔) ผบห มองว่าวิธี "ลดทุนจดทะเบียนโดยลดจำนวนหุน ไม่ลดราคาพาร์" เป็นวิธีดีที่สุด เพราะ
(i) ณ ราคาพาร์ปัจจุบัน 0.10 บาท คงไม่ยากลดต่ำกว่านี้
(ii) ลดจำนวนหุ้น นอกจากได้ส่วนเกินมาลดล้างส่วนต่ำแล้ว ยังเป็นการลดจำนวนหุ้นทุนจดทะเบียน 120,020.10 ล้านหุ้น เหลือน้อยลง =
120,020.10/8.1 = 14,817.30 ล้านหน่วย
(๕) ลดล้างส่วนต่ำ -7,587.69 ล่านบาท
(i) สามารถลดจำนวนหุ้นได้ 120,020.10 - 14,817.30 = 105,301.8 ล้านน่วย
(ii) ได้เงินหน่วยละ 0.10 = 105,301.8*0.10 = 10,530.18 ล้านบาท ส่วนเกินมูลค่าหุ้น
(iii) หลังบันทึกลงบัญชี จะพลิกกลับมามีส่วนเกิน 2,942.49 ล้านบาท (10,530.18 - 7,587.69) ซึ่งสามารถนำไปลดขาดทุนสะสมได้
(๖) ตามข่าวข้างบน "ล้างขาดทุนสะสม-ขายพีพีราคาสูงกว่าพาร์"
(i) สมมติว่าก่อนลดทุนลดจำนวนหุ้น 8.1 เหลือ 1 หน่วย ณ ราคาปิด 0.03 บาท ในวันแรกราคาเปิดประมาณ 0.243 บาท
(ii) ขายให้ pp ปกติราคาคำนวน 90% ของราคาถ่วงน้ำหนัก 7-15 วันก่อนวันซื้อขาย สมมติว่าราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 0.22 บาท
= 0.22*.90 = 0.198 บาท สูงกว่าราคาพาร์ 0.10 บาท
(iii) สมมติว่าขายให้ pp ได้เต็มจำนวน 130,000.00 ล้านหน่วย จะได้ส่วนต่าง "เกินมูลค่าหุ้น" เพิ่มขึ้น = 130,000,000,000*0.098 =
12,740.00 ล้านบาท
(iv) หลังบันทึกเงินได้รับจากการขายให้ pp จะมี "ส่วนเกินมูลค่าหุ้น" = 10,530.18 + 12,740.00 = 23,270.18 ล้านบาท ซึ่งมากเกิน
ขาดทุนสะสม -2,915.76 ล้านบาท ก็ไม่สามารถล้างหมดต้องเหลือน้อยที่สุดตามกฏเกณฑ์กำหนด จะเป็นเท่าไรไม่รู้
(๗) หลังจากดำเนินเรื่องนำ "ส่วนเกิน" ลด "ขาดทุนสะสม" ผลประกอบการต้องออกมามีกำไรเพื่อล้างขาดทุนสะสมให้หมด
(๘) ความเป็นไปได้หรือไม่ขึ้นอยู่ดำเนินเรื่องได้เมื่อไร แต่ปันผลไม่น่าจะเกิดขึ้นในปีที่ดำเนินเรื่อง อย่างน้อยต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี
สะสมกำไรเพียงพอจ่ายปันผลหลังสำรองทางกฏหมาย
(๙) ทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นตามความฝันของ ผบห ใช่ว่าจะเกิดขึ้นโดยไม่สามารถทำให้ผลประกอบการออกมามีกำไรสมำเสมอ มิฉะนั้นแลั้ว
"ฝันสลายไม่เป็นจริง"
ขอให้โชคดี
ด้วยความปรารถนาดี