เราชาวพุทธโดยเฉพาะนกแก้วนกขุนทอง ย่อมรู้กันทุกคนและทุกตัวว่า.........อริยสัจสี่มีอะไรบ้าง
นั้นคือ.....ทุกข์...สมุทัย...นิโรธ...มรรค
วันนี้พี่ตองเก้าจะมาคุยเรื่องทุกข์ให้ฟัง ทุกข์ที่ว่า เอาเฉพาะทุกขสัจจะและทุกขสมุทัย
เริ่มเลยล่ะกัน ทุกข์มันมาเกี่ยวข้องกันบุคคลได้อย่างไร เอากันแบบภาษาบ้านๆกันเลยว่า
ทุกข์มันเกี่ยวข้องกับบุคคลด้วยสองลักษณะ นั้นคือ........
เป็นทุกข์กับรู้ทุกข์
เป็นทุกข์มันเป็นอย่างไรแล้วมันเกิดกับใคร เป็นทุกข์นั้นเกิดจากความไม่รู้ทุกข์นั้นเอง
แล้วใครที่ยังไม่รู้ทุกข์ ก็ปุถุชนนั้นไง และอย่าหลงเข้าใจผิดว่า คนที่สามารถท่องพระไตรปิฎกเสมือนเด็กท่องอาขยาน
นั้นไม่ใช่การรู้ทุกข์ นั้นเขาเรียกว่า นกแก้วเลี่ยนเสียงคน คนเลียนเสียงธรรม
พวกเราต้องพยายามเอาสติแยกแยะให้ได้ อย่าให้หลงเอาให้ขึ้นใจเลยว่า........................
รู้ทุกข์ ทุกข์ตัวนี้คือ ทุกขอริยสัจ
เป็นทุกข์ ทุกข์ตัวนี้คือ.....ทุกขสมุทัย นั้นคือ รู้ว่าเหตุแห่งทุกข์ก็คือสังขาร(จิตไปปรุงแต่งสังขตธรรม)นั้นเอง
โดยรวมก็คือ....รู้อริยสัจสี่
โดยความเป็นจริงแล้ว เหตุย่อมเกิดก่อนผล นั้นหมายความว่า สมุทัยย่อมมาก่อนทุกข์
ทุกข์ก็คือ การ เกิด แก่ เจ็บ ตาย โดยรวมก็คือ สังขารอันเป็นทุกขสมุทัย ในชาติก่อนมันส่งผลให้เกิดทุกข์ในภพชาติปัจจุบัน
บุคคลก่อนที่จะเป็นพระอรหันต์ ท่านย่อมมีสังขารหรือทุกขสมุทัยมาก่อน ท่านจึงมาเกิดเป็นบุคคล
และในความเป็นบุคคลนั้น ย่อมต้องมีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย
ต่อให้เป็นพระอรหันต์แล้วก็ตาม(พระอรหันยังต้องเจ็บและตาย) แต่ไม่เกิดใหม่
นี้เป็นเพียงการเกริ่นนำ ให้รู้ว่า ทุกข์เป็นอย่างไร ทุกขสมุทัยเป็นอย่างไร
เหตุใดทุกขอริยสัจจึงเป็น.......อสังขตธรรม และเหตุใดทุกขอริยสัจจึงเป็น.......สังขตธรรม
ปล. ผู้ใดอ่านแล้วไม่เข้าใจต้องถาม นี้เป็นเพราะธรรมของพระพุทธองค์ เป็นไตรสิกขา
ความหมายของไตรสิกขา คือ มีเหตุที่มามากมาย (อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา)
การศึกษาหลักแห่งไตรสิกขา จะยึดเอาบัญญัติพยัญชนะที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ อาศัยด้วยการแปลคำศัพท์ก็ไม่ได้
กรุณาอ่านกลับไปอ่านกระทู้ของพี่ตองเก้า ก่อนหน้าด้วย
http://pantip.com/topic/31844617
ทุกข์..............จากปากของพี่ตองเก้า
นั้นคือ.....ทุกข์...สมุทัย...นิโรธ...มรรค
วันนี้พี่ตองเก้าจะมาคุยเรื่องทุกข์ให้ฟัง ทุกข์ที่ว่า เอาเฉพาะทุกขสัจจะและทุกขสมุทัย
เริ่มเลยล่ะกัน ทุกข์มันมาเกี่ยวข้องกันบุคคลได้อย่างไร เอากันแบบภาษาบ้านๆกันเลยว่า
ทุกข์มันเกี่ยวข้องกับบุคคลด้วยสองลักษณะ นั้นคือ........เป็นทุกข์กับรู้ทุกข์
เป็นทุกข์มันเป็นอย่างไรแล้วมันเกิดกับใคร เป็นทุกข์นั้นเกิดจากความไม่รู้ทุกข์นั้นเอง
แล้วใครที่ยังไม่รู้ทุกข์ ก็ปุถุชนนั้นไง และอย่าหลงเข้าใจผิดว่า คนที่สามารถท่องพระไตรปิฎกเสมือนเด็กท่องอาขยาน
นั้นไม่ใช่การรู้ทุกข์ นั้นเขาเรียกว่า นกแก้วเลี่ยนเสียงคน คนเลียนเสียงธรรม
พวกเราต้องพยายามเอาสติแยกแยะให้ได้ อย่าให้หลงเอาให้ขึ้นใจเลยว่า........................
รู้ทุกข์ ทุกข์ตัวนี้คือ ทุกขอริยสัจ
เป็นทุกข์ ทุกข์ตัวนี้คือ.....ทุกขสมุทัย นั้นคือ รู้ว่าเหตุแห่งทุกข์ก็คือสังขาร(จิตไปปรุงแต่งสังขตธรรม)นั้นเอง
โดยรวมก็คือ....รู้อริยสัจสี่
โดยความเป็นจริงแล้ว เหตุย่อมเกิดก่อนผล นั้นหมายความว่า สมุทัยย่อมมาก่อนทุกข์
ทุกข์ก็คือ การ เกิด แก่ เจ็บ ตาย โดยรวมก็คือ สังขารอันเป็นทุกขสมุทัย ในชาติก่อนมันส่งผลให้เกิดทุกข์ในภพชาติปัจจุบัน
บุคคลก่อนที่จะเป็นพระอรหันต์ ท่านย่อมมีสังขารหรือทุกขสมุทัยมาก่อน ท่านจึงมาเกิดเป็นบุคคล
และในความเป็นบุคคลนั้น ย่อมต้องมีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย
ต่อให้เป็นพระอรหันต์แล้วก็ตาม(พระอรหันยังต้องเจ็บและตาย) แต่ไม่เกิดใหม่
นี้เป็นเพียงการเกริ่นนำ ให้รู้ว่า ทุกข์เป็นอย่างไร ทุกขสมุทัยเป็นอย่างไร
เหตุใดทุกขอริยสัจจึงเป็น.......อสังขตธรรม และเหตุใดทุกขอริยสัจจึงเป็น.......สังขตธรรม
ปล. ผู้ใดอ่านแล้วไม่เข้าใจต้องถาม นี้เป็นเพราะธรรมของพระพุทธองค์ เป็นไตรสิกขา
ความหมายของไตรสิกขา คือ มีเหตุที่มามากมาย (อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา)
การศึกษาหลักแห่งไตรสิกขา จะยึดเอาบัญญัติพยัญชนะที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ อาศัยด้วยการแปลคำศัพท์ก็ไม่ได้
กรุณาอ่านกลับไปอ่านกระทู้ของพี่ตองเก้า ก่อนหน้าด้วย
http://pantip.com/topic/31844617