40 'New Wave Directors' of 2010s
เกณฑ์การจัดลิสของผม
• เริ่มกำกับหนังเรื่องแรกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (อนุโลมบางคนอาจจะเกินไป 1-2 ปี)
• มีผลงานแจ้งเกิดที่น่าสนใจ
• มีผลงานพีคสุดจนต้องจับตามอง
• ผมดูโหวงเฮ้งแล้วน่าจะมีอนาคต
• ทั้งหมดคือความเห็นส่วนตัว
เริ่มต้นกันเลยครับ
1.
Ben Affleck
กำกับหนังเรื่องแรก: Gone Baby Gone (2007)
ผลงานที่ทำให้ต้องจับตามอง: Gone Baby Gone, The Town, Argo
ผลงานในอนาคต: ยังไม่มี
ปัจจุบัน: ★★★★★
อนาคต: ★★★★★
• ผมชอบผู้กำกับที่ร่วมเขียนบทด้วยตัวเอง
• เขาคือหนึ่งในผู้กำกับคนโปรดของผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเริ่มต้นด้วยการกำกับหนังฟิล์มนัวร์สืบสวนสุดเข้มข้นต้นเรื่อง Gone Baby Gone เขาก็เลือกที่จะกำกับหนังอาชญากรรมดราม่าแนวแอ็คชั่นเรื่อง The Town และใครจะคิดว่าสองปีต่อมาเขาจะพาหนังทริลเลอร์คว้าออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
• จากนักแสดงที่ถูกล้อเลียนมากที่สุดคนหนึ่งเมื่อผันตัวมาทำงานเบื้องหลังก็พิสูจน์ตัวเองด้วยงานที่ยอดเยี่ยมถึงสามเรื่อง ฝีมือการกำกับของเขาก็ประจักษ์ให้เห็นในหนังทั้งสามเรื่อง การสร้างประเด็นปิดหนังที่ยอดเยี่ยมใน Gone Baby Gone, การคุมสเกลงานหนังแอ็คชั่นดราม่าแบบ The Town ที่กลายเป็นหนึ่งในหนังปล้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของยุค 2000s และทำหนังพล็อตธรรมดาแบบ Argo ให้เต็มไปด้วยลูกเล่นในการนำเสนอ
• ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลงานต่อไปของเขาย่อมมาพร้อมความคาดหวังจากแฟน ๆ ซึ่งผมเชื่อว่าเฮียเบนไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
• ป.ล. เลิกเล่นหนังของคนอื่นได้แล้วว้อยยยยยยยยยย
2.
Duncan Jones

กำกับหนังเรื่องแรก: Moon (2009)
ผลงานที่ทำให้ต้องจับตามอง: Moon, Source Code
ผลงานในอนาคต: Warcraft (2014)
ปัจจุบัน: ★★★☆☆
อนาคต: ★★★★☆
• ผมเชื่อมั่นในศักยภาพการเขียนบทและกำกับหนังของ 'ดันแคน โจนส์'
• เขาเป็นหนึ่งในผู้กำกับหนัง hard sci-fi ยุคใหม่ที่ผมชื่นชมมาก ผมชอบหนังแนว hard-scifi อยู่แล้ว ซึ่งยุคนี้มันก็หาดูได้ยากเหลือเกิน
• ฝีมือการกำกับ Moon ของเขาคือการแจ้งเกิดที่สามารถทำให้คอหนัง sci-fi ต้องโฟกัสมาที่เขา
• Source Code เป็นงานที่เล่นเรื่อง timeline ได้เยี่ยมมาก
• การกำกับหนังที่มีเรื่องราวจากเกมเป็นเรื่องยาก ถ้าหาก Warcraft แป้ก ผมก็ยังเชื่อมั่นในฝีมือเขาต่อไป
3.
Jeff Nichols

กำกับหนังเรื่องแรก: Shotgun Stories (2007)
ผลงานที่ทำให้ต้องจับตามอง: Take Shelter
ผลงานในอนาคต: Midnight Special (2014)
ปัจจุบัน: ★★★☆☆
อนาคต: ★★★★★
• ผมชอบผู้กำกับที่เขียนบทหนังด้วยตัวเอง
• ยังไม่เคยดู Shotgun Stories แต่เสียงวิจารณ์ดีอยู่ (76/100 Metacritic)
• เป็นผู้กำกับสาย Sundance ที่น่าจับตามองมาก ๆ
• Take Shelter เป็นงานที่ทำให้ผมอึ้งมาก บทหนังจิตวิทยาตัวละครหลอกล่อคนดูให้คาดเดาไม่ถูก แต่ยังรักษา point ของหนังที่เป็นเรื่องของวิกฤติครอบครัววัยกลางคนได้เสมอต้นเสมอปลาย
• และพี่เจฟฟ์ยังโชว์ของตอนจบ Take Shelter ด้วยตอนจบที่น่าจดจำ
• ไม่ค่อยปลื้ม Mud เท่าไร บทหนังมันขาดความเป็นธรรมชาติ มันดูจงใจประดิษฐ์มากเกินไป แต่อย่างไรก็ยังเห็นแววฝีมือการเขียนบทหนังและการกำกับ
• เชื่อมือเจฟฟ์ว่าจะพาหนังดราม่า sci-fi เรื่อง Midnight Special ไปได้สวยครับ
4.
Derek Cianfrance

กำกับหนังเรื่องแรก: Blue Valentine (2010) | มี Brother Tied ปี 1998 แต่เป็นหนังสมัครเล่น
ผลงานที่ทำให้ต้องจับตามอง: Blue Valentine, The Place Beyond the Pines
ผลงานในอนาคต: Metalhead
ปัจจุบัน: ★★★☆☆
อนาคต: ★★★★☆
• ผมชอบผู้กำกับที่เขียนบทด้วยตัวเอง
• เป็นผู้กำกับสาย Sundance ที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่ง
• Blue Valentine กลายเป็นหนังโรแมนติกที่ขึ้นแท่นหนังรักเรียล ๆ แบบผู้ใหญ่ในดวงใจใครหลาย ๆ คน (เบื่อมากหนังรัก feel-good เพ้อฝัน)
• The Place Beyond the Pines เป๋ ๆ ลงมานิดหน่อย รู้สึกว่าบทหนังมันจงใจประดิษฐ์ให้ตัวละครโยงหากันอยู่พอสมควร แต่ก็ยังเห็นแววคุณภาพตรงวิธีการเล่าเรื่องเชื่อมต่อได้เนียนกริบ
• หนังเรื่องต่อไปทำไมไม่ชวนไรอัน กอสลิ่งมาเล่นอีกฟะ!
• เชื่อมั่นว่าผู้กำกับที่เขียนบทและมีวิธีการเล่าเรื่องเจ๋ง ๆ แบบพี่ดิเรกจะมีอนาคตสดใสรออยู่แน่นอนครับ
5.
Matthew Vaughn

กำกับหนังเรื่องแรก: Layer Cake (2004)
ผลงานที่ทำให้ต้องจับตามอง: Layer Cake, Stardust, Kick-Ass, X-Men: First Class
ผลงานในอนาคต: The Secret Service (2015)
ปัจจุบัน: ★★★★☆
อนาคต: ★★★★★
• เช่นเคย ผมชอบผู้กำกับที่เขียนบทหนังด้วยตัวเอง และบทหนังของเขาทุกเรื่องแหล่มมากกกก
• เป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ผมดูหนังของเขาครบทุกเรื่องและยังไม่ผิดหวังสักเรื่อง!
• เป็นผู้กำกับที่ผลงานค่อนข้าง underrated พอสมควร
• Layer Cake หนังเปิดตัวของเขาควรจะดังกว่านี้นะ มันเป็นหนัง gangster พ่อค้ายาชิงไหวชิงพริบกันแบบ 'คนธรรมดา ๆ' ที่ไม่ได้เก่งหรือฉลาดเกินจริง
• Stardust นี่ก็ควรขึ้นทำเนียบหนังผจญภัยแฟนตาซียอดเยี่ยมตลอดกาล บทหนังผูกเรื่องดีแถมโคตรฮา!
• Kick-Ass นี่เห็นฝีมือการกำกับฉากแอ็คชั่นของเขาชัดเจนมาก ทั้งล้ำทั้งทันสมัย โดยเฉพาะฉากห้องมืดแล้วใช้ลูกเล่นไฟฉายโหมด Strobe สุดเท่!
• ไหนจะฉากพ่อใหญ่ลุยเดี่ยวอย่างกับแบทแมน และฉากฉายเดี่ยวใส ๆ ของ Hit-girl
• ยิ่ง X-Men: First Class นี่มันการฟื้นคืนชีพของแฟรนไชส์นี้เลย (เสียดายภาคต่อดูทรงละบทหนังเจ๊งบ๊ง 100%)
• เฮียวอห์นแกจะติส ๆ หน่อย สตูดิโอบีบอะไรนิดนึงแกถอนตัวจากโปรเจคเลย
• แต่ก็เข้าใจเฮียเรื่องโดนสตูดิโอบีบนะ อย่าง X-Men นี่อุตส่าห์ reboot สร้างโลกใหม่ทั้งทียังจะอุตส่าห์ไปเอานักแสดงเก่ามาอีก
• The Secret Service มาแนวแอ็คชั่นทริลเลอร์เต็มตัวน่าดูมาก!!
+++++++++++++
ถ้าหากชอบหัวข้อนี้ ฝากโหวตเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคร้าบ
ติดตามรีวิวหนังตั้ง 1920s ยัน 2010s และบทความภาพยนตร์อีกมากมายได้ที่
หนังโปรดของข้าพเจ้า:
https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms
40 ผู้กำกับสายเลือดใหม่ที่น่าจับตามองแห่งยุค 2010s ครับ
เกณฑ์การจัดลิสของผม
• เริ่มกำกับหนังเรื่องแรกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (อนุโลมบางคนอาจจะเกินไป 1-2 ปี)
• มีผลงานแจ้งเกิดที่น่าสนใจ
• มีผลงานพีคสุดจนต้องจับตามอง
• ผมดูโหวงเฮ้งแล้วน่าจะมีอนาคต
• ทั้งหมดคือความเห็นส่วนตัว
เริ่มต้นกันเลยครับ
1. Ben Affleck
กำกับหนังเรื่องแรก: Gone Baby Gone (2007)
ผลงานที่ทำให้ต้องจับตามอง: Gone Baby Gone, The Town, Argo
ผลงานในอนาคต: ยังไม่มี
ปัจจุบัน: ★★★★★
อนาคต: ★★★★★
• ผมชอบผู้กำกับที่ร่วมเขียนบทด้วยตัวเอง
• เขาคือหนึ่งในผู้กำกับคนโปรดของผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเริ่มต้นด้วยการกำกับหนังฟิล์มนัวร์สืบสวนสุดเข้มข้นต้นเรื่อง Gone Baby Gone เขาก็เลือกที่จะกำกับหนังอาชญากรรมดราม่าแนวแอ็คชั่นเรื่อง The Town และใครจะคิดว่าสองปีต่อมาเขาจะพาหนังทริลเลอร์คว้าออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
• จากนักแสดงที่ถูกล้อเลียนมากที่สุดคนหนึ่งเมื่อผันตัวมาทำงานเบื้องหลังก็พิสูจน์ตัวเองด้วยงานที่ยอดเยี่ยมถึงสามเรื่อง ฝีมือการกำกับของเขาก็ประจักษ์ให้เห็นในหนังทั้งสามเรื่อง การสร้างประเด็นปิดหนังที่ยอดเยี่ยมใน Gone Baby Gone, การคุมสเกลงานหนังแอ็คชั่นดราม่าแบบ The Town ที่กลายเป็นหนึ่งในหนังปล้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของยุค 2000s และทำหนังพล็อตธรรมดาแบบ Argo ให้เต็มไปด้วยลูกเล่นในการนำเสนอ
• ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลงานต่อไปของเขาย่อมมาพร้อมความคาดหวังจากแฟน ๆ ซึ่งผมเชื่อว่าเฮียเบนไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
• ป.ล. เลิกเล่นหนังของคนอื่นได้แล้วว้อยยยยยยยยยย
2. Duncan Jones
กำกับหนังเรื่องแรก: Moon (2009)
ผลงานที่ทำให้ต้องจับตามอง: Moon, Source Code
ผลงานในอนาคต: Warcraft (2014)
ปัจจุบัน: ★★★☆☆
อนาคต: ★★★★☆
• ผมเชื่อมั่นในศักยภาพการเขียนบทและกำกับหนังของ 'ดันแคน โจนส์'
• เขาเป็นหนึ่งในผู้กำกับหนัง hard sci-fi ยุคใหม่ที่ผมชื่นชมมาก ผมชอบหนังแนว hard-scifi อยู่แล้ว ซึ่งยุคนี้มันก็หาดูได้ยากเหลือเกิน
• ฝีมือการกำกับ Moon ของเขาคือการแจ้งเกิดที่สามารถทำให้คอหนัง sci-fi ต้องโฟกัสมาที่เขา
• Source Code เป็นงานที่เล่นเรื่อง timeline ได้เยี่ยมมาก
• การกำกับหนังที่มีเรื่องราวจากเกมเป็นเรื่องยาก ถ้าหาก Warcraft แป้ก ผมก็ยังเชื่อมั่นในฝีมือเขาต่อไป
3. Jeff Nichols
กำกับหนังเรื่องแรก: Shotgun Stories (2007)
ผลงานที่ทำให้ต้องจับตามอง: Take Shelter
ผลงานในอนาคต: Midnight Special (2014)
ปัจจุบัน: ★★★☆☆
อนาคต: ★★★★★
• ผมชอบผู้กำกับที่เขียนบทหนังด้วยตัวเอง
• ยังไม่เคยดู Shotgun Stories แต่เสียงวิจารณ์ดีอยู่ (76/100 Metacritic)
• เป็นผู้กำกับสาย Sundance ที่น่าจับตามองมาก ๆ
• Take Shelter เป็นงานที่ทำให้ผมอึ้งมาก บทหนังจิตวิทยาตัวละครหลอกล่อคนดูให้คาดเดาไม่ถูก แต่ยังรักษา point ของหนังที่เป็นเรื่องของวิกฤติครอบครัววัยกลางคนได้เสมอต้นเสมอปลาย
• และพี่เจฟฟ์ยังโชว์ของตอนจบ Take Shelter ด้วยตอนจบที่น่าจดจำ
• ไม่ค่อยปลื้ม Mud เท่าไร บทหนังมันขาดความเป็นธรรมชาติ มันดูจงใจประดิษฐ์มากเกินไป แต่อย่างไรก็ยังเห็นแววฝีมือการเขียนบทหนังและการกำกับ
• เชื่อมือเจฟฟ์ว่าจะพาหนังดราม่า sci-fi เรื่อง Midnight Special ไปได้สวยครับ
4. Derek Cianfrance
กำกับหนังเรื่องแรก: Blue Valentine (2010) | มี Brother Tied ปี 1998 แต่เป็นหนังสมัครเล่น
ผลงานที่ทำให้ต้องจับตามอง: Blue Valentine, The Place Beyond the Pines
ผลงานในอนาคต: Metalhead
ปัจจุบัน: ★★★☆☆
อนาคต: ★★★★☆
• ผมชอบผู้กำกับที่เขียนบทด้วยตัวเอง
• เป็นผู้กำกับสาย Sundance ที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่ง
• Blue Valentine กลายเป็นหนังโรแมนติกที่ขึ้นแท่นหนังรักเรียล ๆ แบบผู้ใหญ่ในดวงใจใครหลาย ๆ คน (เบื่อมากหนังรัก feel-good เพ้อฝัน)
• The Place Beyond the Pines เป๋ ๆ ลงมานิดหน่อย รู้สึกว่าบทหนังมันจงใจประดิษฐ์ให้ตัวละครโยงหากันอยู่พอสมควร แต่ก็ยังเห็นแววคุณภาพตรงวิธีการเล่าเรื่องเชื่อมต่อได้เนียนกริบ
• หนังเรื่องต่อไปทำไมไม่ชวนไรอัน กอสลิ่งมาเล่นอีกฟะ!
• เชื่อมั่นว่าผู้กำกับที่เขียนบทและมีวิธีการเล่าเรื่องเจ๋ง ๆ แบบพี่ดิเรกจะมีอนาคตสดใสรออยู่แน่นอนครับ
5. Matthew Vaughn
กำกับหนังเรื่องแรก: Layer Cake (2004)
ผลงานที่ทำให้ต้องจับตามอง: Layer Cake, Stardust, Kick-Ass, X-Men: First Class
ผลงานในอนาคต: The Secret Service (2015)
ปัจจุบัน: ★★★★☆
อนาคต: ★★★★★
• เช่นเคย ผมชอบผู้กำกับที่เขียนบทหนังด้วยตัวเอง และบทหนังของเขาทุกเรื่องแหล่มมากกกก
• เป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ผมดูหนังของเขาครบทุกเรื่องและยังไม่ผิดหวังสักเรื่อง!
• เป็นผู้กำกับที่ผลงานค่อนข้าง underrated พอสมควร
• Layer Cake หนังเปิดตัวของเขาควรจะดังกว่านี้นะ มันเป็นหนัง gangster พ่อค้ายาชิงไหวชิงพริบกันแบบ 'คนธรรมดา ๆ' ที่ไม่ได้เก่งหรือฉลาดเกินจริง
• Stardust นี่ก็ควรขึ้นทำเนียบหนังผจญภัยแฟนตาซียอดเยี่ยมตลอดกาล บทหนังผูกเรื่องดีแถมโคตรฮา!
• Kick-Ass นี่เห็นฝีมือการกำกับฉากแอ็คชั่นของเขาชัดเจนมาก ทั้งล้ำทั้งทันสมัย โดยเฉพาะฉากห้องมืดแล้วใช้ลูกเล่นไฟฉายโหมด Strobe สุดเท่!
• ไหนจะฉากพ่อใหญ่ลุยเดี่ยวอย่างกับแบทแมน และฉากฉายเดี่ยวใส ๆ ของ Hit-girl
• ยิ่ง X-Men: First Class นี่มันการฟื้นคืนชีพของแฟรนไชส์นี้เลย (เสียดายภาคต่อดูทรงละบทหนังเจ๊งบ๊ง 100%)
• เฮียวอห์นแกจะติส ๆ หน่อย สตูดิโอบีบอะไรนิดนึงแกถอนตัวจากโปรเจคเลย
• แต่ก็เข้าใจเฮียเรื่องโดนสตูดิโอบีบนะ อย่าง X-Men นี่อุตส่าห์ reboot สร้างโลกใหม่ทั้งทียังจะอุตส่าห์ไปเอานักแสดงเก่ามาอีก
• The Secret Service มาแนวแอ็คชั่นทริลเลอร์เต็มตัวน่าดูมาก!!
+++++++++++++
ถ้าหากชอบหัวข้อนี้ ฝากโหวตเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคร้าบ
ติดตามรีวิวหนังตั้ง 1920s ยัน 2010s และบทความภาพยนตร์อีกมากมายได้ที่
หนังโปรดของข้าพเจ้า: https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms