1.โพสท่าถ่ายรูปบ่อน้ำผุดสีมรกต หากแวะไปเล่นน้ำที่สระมรกตอย่าลืมเดินเลยขึ้นไปแวะชมบ่อน้ำผุด แม้ทางจะไกลสักนิด ร้อนจนผิวแทบไหม้ แถมก่อนถึงยังแอบมีกลิ่นเหม็นเหมือนปัสสาวะก็ตาม แต่เมื่อเห็นสระสีเขียวสด เขียวอมฟ้าสดจนต้องตกใจ ขอบอกว่าเป็นวิวที่คุ้มค่ากับความเหนื่อยมากๆ ถ้าไปไม่ถึงพลาดมากๆ เพราะตัวเราเองตอนแรกก็เกือบยอมแพ้กับแสงแดดเหมือนกัน แดดใต้แรงจนสู้ไม่ไหว โชคดีที่กลั้นใจเดินต่อ ไม่อย่างนั้นถ้าเห็นรูปในกล้องเพื่อนคงต้องร้องกรี๊ดเพราะความเสียดาย
2.ชมพระอาทิตย์ตกทะเลอ่าวพระนาง อ่าวพระนางเป็นหาดทรายยาวเหมาะแก่การเดินเล่น บรรยากาศยามเย็นไม่ร้อน มีลมโชยเบาๆ ถือเป็นสถานที่เหมาะเจาะสำหรับชมพระอาทิตย์ตกมากๆ อาจปูผ้านั่งบนหาด หรือนั่งบนเก้าอี้ที่จัดไว้ รอเวลาอาทิตย์ดวงกลมค่อยๆลดระดับความสูงจนหายลับไปในทะเล สีของท้องฟ้าค่อยไล่เปลี่ยนสี เป็นภาพที่สวยงาม และเป็นเวลาที่โรแมนติกมากๆ วันที่ไปแอบเห็นสามีภรรยาชาวญี่ปุ่นกอดกันดูพระอาทิตย์ ทะเลเปลี่ยนเป็นรสหวานกันทีเดียว
3.พายเรือคยัคท่าเลน พายจนกล้ามขึ้น แม้อากาศจะร้อนสักนิด แต่วิวสวยช่วยให้ระยะทาง10กิโลเมตรที่ต้องช่วยกันพายเรือคยัคลำเล็กสั้นลงทันตา จริงๆจะพูดว่าช่วยกันพายก็ไม่กล้าพูดเต็มปากเพราะเรือเรานั่งกันสามคน เราเป็นคนกลางก็เลยได้สิทธิพิเศษนั่งเฉยคอยถ่ายรูป แต่เพราะเรือนั่งสามคนทำให้พายยากกว่าปกติ นอกจากจะได้ชมวิวข้างทางแล้วยังได้ของแถมสัมผัสต้นโกงกางแทบทุกต้น ชนทุกอย่างที่ขวางหน้าชนหิน ชนโกงกาง ชนตอ ชนจนชิน ขึ้นฝั่งเลือดซิบ แต่เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ เหนื่อยแต่มัน
4.ดูปลาปักเป้าพองลม นั่งเรือเที่ยวเกาะกลางแวะชมเขาขนาบน้ำแล้ว อย่าลืมแวะกระชังปลาที่ร้านอาหารเกาะกลางด้วยน๊า ตอนแรกวางแผนกันจะกินข้าวมือกลางวันที่เกาะกลางแต่ซัดติ่มซำกันจนจุกก็เลยต้องขอโบกมือบ๊ายบายอาหารมือกลางวันอย่างน่าเสียดาย แต่พี่ที่ร้านอาหารใจดีมาก แม้พวกเราไม่ได้กินอาหารที่ร้าน แต่พี่ก็โชว์ปลาแต่ละชนิดพร้อมคำอธิบายละเอียดยิบให้พวกเราดูอย่างเต็มใจ รู้สึกซึ้งใจจริงๆ เราดูปลาช่อนทะเลที่มีฟันเหมือนปิรันซ่า ดูปลากระพงงับอาหารด้วยความแม่นยำและรวดเร็ว พี่แกเคาะกระชังอยู่หลายนาทีเรียกปลาหมอตัวหนัก 40 กิโลมาให้พวกเราดู น้ำหนักเท่าเราเลย ช๊อคแป๊บการโชว์ปลายังไม่หมด ยังมีปลาแรดสีสวย และปิดท้ายด้วยปลาปักเป้าพองลม ตากลม แอ๊บแบ้ว
5.ปลาหมึกผัดไข่เค็มครัวธารา ปลาหมึกผัดไข่เค็มในตำนาน หลังจากสั่งปลาหมึกผัดไข่เค็มสามร้านติดก็ยังไม่เจอปลาหมึกผัดไข่เค็มร้านไหนโดนใจสักที จนเจอปลาหมึกผัดไข่เค็มครัวธาราที่หาดนพรัตน์ธาราหรือคลองแห้ง ขอบอกว่าพลาดไม่ได้จริงๆ ปลาหมึกผัดไข่เค็มของที่นี่จะทอดปลาหมึกให้กรอบนิดๆและผัดกับไข่แดง ขอเน้นว่าไม่มีไข่ขาวซึ่งถูกใจเรามากๆ เจอร้านก่อนๆไข่ขาวมาเต็ม เมื่อกินจะได้สัมผัสแบบกรอบนอกนุ่มในผสมรสมันเค็มของไข่แดง
6.ราชรถติ่มซำ อลังการงานติ่มซำ มาใต้ทั้งทีจะพลาดติ่มซำได้ไง หากยังนึกไม่ออกว่าจะแวะกินติ่มซำร้านไหนดี พุ่งตรงไปที่ร้านราชรถติ่มซำกันเลย ร้านนี้เลือกติ่มซำเองตามใจที่หน้าร้าน เมนูมีให้เลือกเยอะมากจนลายตา และอร่อยทุกอย่างจริงๆ นอกจากติ่มซำหลากหลาย ยังมีปลาหมึกทอดกรุบกรอบจิ้มบ๊วย และหอยจ้อยักษ์ เป็นหอยจ้อที่ใหญ่ขนาดเท่าหอยจ้อสองลูกของกรุงเทพ ด้วยความโลภเราสั่งไป20ลูก จุกถึงลิ้นปี่ หอยจ้อของร้านนี้อัดเนื้อปูแน่นอร่อยเต็มคำ นอกจากนั้นยังมีขนมจีนใต้สองน้ำยาที่อร่อยไม่แพ้กัน เป็นร้านที่แซ่บทั้งอาหารและแม่ค้า
7.โรตีหน้าโว๊ก อร่อยลืม โรตีหน้าโว๊กมีให้เลือกห้าหน้า คือ ธรรดากรอบ ธรรมดานุ่ม โรตีกล้วย โรตีไข่ และโรตีไข่กล้วย ถ้าไปหลายคนจัดโรตีชุดรวมเลย ได้กินทุกอย่างทุกรส และสั่งเกินๆเข้าไว้เพราะถ้าอยากสั่งเพิ่มรอคิวนานมากกกกกกกก เรากับเพื่อนไปกิน โรตีวางบนโต๊ะ แร้งลงเลยจร้า แป๊บเดียวหมดแล้วห้าอย่าง จะสั่งเพิ่มต้องรออีกครึ่งชม เสียดาย!! อยากกินอีก
7 lists Don't miss @krabi (พลาดได้ไง พลาดแล้วจะเสียดาย พลาดแล้วเหมือนไปไม่ถึง)
2.ชมพระอาทิตย์ตกทะเลอ่าวพระนาง อ่าวพระนางเป็นหาดทรายยาวเหมาะแก่การเดินเล่น บรรยากาศยามเย็นไม่ร้อน มีลมโชยเบาๆ ถือเป็นสถานที่เหมาะเจาะสำหรับชมพระอาทิตย์ตกมากๆ อาจปูผ้านั่งบนหาด หรือนั่งบนเก้าอี้ที่จัดไว้ รอเวลาอาทิตย์ดวงกลมค่อยๆลดระดับความสูงจนหายลับไปในทะเล สีของท้องฟ้าค่อยไล่เปลี่ยนสี เป็นภาพที่สวยงาม และเป็นเวลาที่โรแมนติกมากๆ วันที่ไปแอบเห็นสามีภรรยาชาวญี่ปุ่นกอดกันดูพระอาทิตย์ ทะเลเปลี่ยนเป็นรสหวานกันทีเดียว
3.พายเรือคยัคท่าเลน พายจนกล้ามขึ้น แม้อากาศจะร้อนสักนิด แต่วิวสวยช่วยให้ระยะทาง10กิโลเมตรที่ต้องช่วยกันพายเรือคยัคลำเล็กสั้นลงทันตา จริงๆจะพูดว่าช่วยกันพายก็ไม่กล้าพูดเต็มปากเพราะเรือเรานั่งกันสามคน เราเป็นคนกลางก็เลยได้สิทธิพิเศษนั่งเฉยคอยถ่ายรูป แต่เพราะเรือนั่งสามคนทำให้พายยากกว่าปกติ นอกจากจะได้ชมวิวข้างทางแล้วยังได้ของแถมสัมผัสต้นโกงกางแทบทุกต้น ชนทุกอย่างที่ขวางหน้าชนหิน ชนโกงกาง ชนตอ ชนจนชิน ขึ้นฝั่งเลือดซิบ แต่เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ เหนื่อยแต่มัน
4.ดูปลาปักเป้าพองลม นั่งเรือเที่ยวเกาะกลางแวะชมเขาขนาบน้ำแล้ว อย่าลืมแวะกระชังปลาที่ร้านอาหารเกาะกลางด้วยน๊า ตอนแรกวางแผนกันจะกินข้าวมือกลางวันที่เกาะกลางแต่ซัดติ่มซำกันจนจุกก็เลยต้องขอโบกมือบ๊ายบายอาหารมือกลางวันอย่างน่าเสียดาย แต่พี่ที่ร้านอาหารใจดีมาก แม้พวกเราไม่ได้กินอาหารที่ร้าน แต่พี่ก็โชว์ปลาแต่ละชนิดพร้อมคำอธิบายละเอียดยิบให้พวกเราดูอย่างเต็มใจ รู้สึกซึ้งใจจริงๆ เราดูปลาช่อนทะเลที่มีฟันเหมือนปิรันซ่า ดูปลากระพงงับอาหารด้วยความแม่นยำและรวดเร็ว พี่แกเคาะกระชังอยู่หลายนาทีเรียกปลาหมอตัวหนัก 40 กิโลมาให้พวกเราดู น้ำหนักเท่าเราเลย ช๊อคแป๊บการโชว์ปลายังไม่หมด ยังมีปลาแรดสีสวย และปิดท้ายด้วยปลาปักเป้าพองลม ตากลม แอ๊บแบ้ว
5.ปลาหมึกผัดไข่เค็มครัวธารา ปลาหมึกผัดไข่เค็มในตำนาน หลังจากสั่งปลาหมึกผัดไข่เค็มสามร้านติดก็ยังไม่เจอปลาหมึกผัดไข่เค็มร้านไหนโดนใจสักที จนเจอปลาหมึกผัดไข่เค็มครัวธาราที่หาดนพรัตน์ธาราหรือคลองแห้ง ขอบอกว่าพลาดไม่ได้จริงๆ ปลาหมึกผัดไข่เค็มของที่นี่จะทอดปลาหมึกให้กรอบนิดๆและผัดกับไข่แดง ขอเน้นว่าไม่มีไข่ขาวซึ่งถูกใจเรามากๆ เจอร้านก่อนๆไข่ขาวมาเต็ม เมื่อกินจะได้สัมผัสแบบกรอบนอกนุ่มในผสมรสมันเค็มของไข่แดง
6.ราชรถติ่มซำ อลังการงานติ่มซำ มาใต้ทั้งทีจะพลาดติ่มซำได้ไง หากยังนึกไม่ออกว่าจะแวะกินติ่มซำร้านไหนดี พุ่งตรงไปที่ร้านราชรถติ่มซำกันเลย ร้านนี้เลือกติ่มซำเองตามใจที่หน้าร้าน เมนูมีให้เลือกเยอะมากจนลายตา และอร่อยทุกอย่างจริงๆ นอกจากติ่มซำหลากหลาย ยังมีปลาหมึกทอดกรุบกรอบจิ้มบ๊วย และหอยจ้อยักษ์ เป็นหอยจ้อที่ใหญ่ขนาดเท่าหอยจ้อสองลูกของกรุงเทพ ด้วยความโลภเราสั่งไป20ลูก จุกถึงลิ้นปี่ หอยจ้อของร้านนี้อัดเนื้อปูแน่นอร่อยเต็มคำ นอกจากนั้นยังมีขนมจีนใต้สองน้ำยาที่อร่อยไม่แพ้กัน เป็นร้านที่แซ่บทั้งอาหารและแม่ค้า
7.โรตีหน้าโว๊ก อร่อยลืม โรตีหน้าโว๊กมีให้เลือกห้าหน้า คือ ธรรดากรอบ ธรรมดานุ่ม โรตีกล้วย โรตีไข่ และโรตีไข่กล้วย ถ้าไปหลายคนจัดโรตีชุดรวมเลย ได้กินทุกอย่างทุกรส และสั่งเกินๆเข้าไว้เพราะถ้าอยากสั่งเพิ่มรอคิวนานมากกกกกกกก เรากับเพื่อนไปกิน โรตีวางบนโต๊ะ แร้งลงเลยจร้า แป๊บเดียวหมดแล้วห้าอย่าง จะสั่งเพิ่มต้องรออีกครึ่งชม เสียดาย!! อยากกินอีก