วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ..จดหมายเปิดผนึก ถึง "ไทยพีบีเอส" กรณีพฤติกรรมของ “เสริมสุข กษิติประดิษฐ์”

กระทู้สนทนา
วีรพัฒน์ ปริยวงศ์
จดหมายเปิดผนึก ถึง "ไทยพีบีเอส" กรณีพฤติกรรมของ “เสริมสุข กษิติประดิษฐ์” Sermsuk Kasitipradit

เมื่อวานผมได้ให้สัมภาษณ์สถานีข่าว BBC World News เกี่ยวกับการเมืองไทย สั้นๆ ประมาณ 2-3 นาที

ปรากฏว่า คุณเสริมสุข (พี่เป็ปซี่) นักข่าวอาวุโสของไทยพีบีเอส ได้วิจารณ์การให้สัมภาษณ์ของผมในลักษณะบิดเบือน และเนื่องจากคุณเสริมสุข เป็นสื่อมวลชนอาวุโส เป็นที่รู้จักดี และมีผู้คนในสังคมคล้อยตามจำนวนมาก ผมจึงขอให้ทางไทยพีบีเอส และตัวคุณเสริมสุขเอง ได้โปรดพิจารณาทบทวนการแสดงออกของคุณเสริมสุข ดังนี้

1. คุณเสริมสุข กล่าวปูพื้นถึงการให้สัมภาษณ์ของผมว่า

"[วีรพัฒน์] วิเคราะห์ให้ BBC ช่วงค่ำที่ผ่านมาฟังเป็นตุเป็นตะ บอกมีความเป็นไปได้ในสถานการณ์ทางการเมืองที่เป็นอยู่ทหารอาจล้มกระดานรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลระมัดระวังไม่สร้างเงื่อนไขให้ทหารอ้างเป็นเงื่อนไขล้มกระดานด้วยการใช้ความรุนแรงกับผชน. ทำให้รัฐบาลต้องผ่อนปรนต่อผู้ชุมนุม..."

> ผมขอตอบคุณเสริมสุขว่า ความเห็นดังกล่าวเป็นการพูดถึง “ความเป็นไปได้” ถ้าคุณเสริมสุขจะกล่าวหาผมว่าพูด “เป็นตุเป็นตะ” ผมเกรงว่าคุณเสริมสุขก็กำลังกล่าวหา "องค์กรไทยพีบีเอส" ของคุณเสริมสุขเองด้วย เพราะที่ผ่านมา ไทยพีบีเอส ก็เคยรายงานข่าวหรือความเห็นในเชิงการวิเคราะห์การเมืองไทยถึง “ความเป็นไปได้” ในการเกิดการปะทะกัน ที่อาจนำไปสู่การรัฐประหาร และไม่ใช่เฉพาะ ไทยพีบีเอส เท่านั้น แต่สื่อทั่วไปทั้งไทยและเทศ นักวิชาการ นักวิเคราะห์ ต่างก็มองตรงกัน ว่าความรุนแรงอาจเป็นปัจจัยนำไปสู่การรัฐประหาร คุณเสริมสุขลองกลับไปอ่านรายงานของไทยพีบีเอสใหม่นะครับ ว่าใครกันแน่ที่มากล่าวหาคนอื่น “เป็นตุเป็นตะ”

>> ที่สำคัญ แม้แต่ตัวคุณเสริมสุขเอง ก็ยังเคยแสดงความเห็นทำนองดังกล่าว คุณเสริมสุขลองไปย้อนดูหน้า timeline ของตัวเองนะครับ มีหลายครั้งที่คุณเสริมสุขใช้วิธี "เล่าข่าวลือ" ที่ไปไกลกว่าที่ผมวิเคราะห์มากนัก เช่น คุณเสริมสุขเคยนำ “ข่าวปล่อย” มาเล่าต่อว่า

- “จะมีการจับตัวนายกยิ่งลักษณ์ โดยคนที่จะเป็นนายกแทนคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และสิ่งที่จะทำให้ทหารออกมาปฏิวัติได้ก็คือ มีการเตรียมให้กลุ่ม กปปส เข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่สถานการตอนนี้ก็ต้องเช็คกันวันต่อวันครับ”

หรือ ปลายปีที่แล้ว คุณเสริมสุขก็เคยนำข่าวรัฐประหารมาเล่าต่อ จนตำรวจออกมาเตือนว่าใช้คำพูดไม่เหมาะสมทำให้คนแตกตื่น สุดท้าย คุณเสริมสุขก็แก้ตัวว่า ที่คุณเสริมสุขโพสต์เฟซบุ๊กเรื่องปฏิวัติเป็นการวิเคราะห์ความเห็น คุณเสริมสุขลองกลับไปอ่านสิ่งที่ตัวเองเคยเขียนใหม่นะครับ

>> เมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ ก็คงมีแต่คุณเสริมสุขเอง ที่กล่าวหาผมลอยๆอย่าง “เป็นตุเป็นตะ”

2. พอปูพื้นเสร็จ คุณเสริมสุข ก็วิจารณ์การให้สัมภาษณ์ผมในลักษณะบิดเบือนต่อว่า

“ไอ้ที่ออกมาไล่กระทืบผู้ชุมนุมที่ผ่านฟ้าฝีมือใครหรือ... การชุมนุมของกปปส.ได้รับการคุ้มครองจากศาลเพราะเห็นว่าเป็นการชุมนุมโดยสันติ ทำให้การใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมจากรัฐทำไม่ได้ ไม่พูดถึงสักแอะ เฉไฉไปเรื่อยเปื่อยตามสไตล์ ไม่พูดถึงไอ้ที่ทำอยู่พยามสร้างความรุนแรงของนปช.มีเจตนาอะไร..ใครใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม”

>> จุดนี้คุณเสริมสุขกำลัง "บิดเบือน" เป็นตุเป็นตะเอง เพื่อให้คนอ่านเข้าใจผมผิดว่า ผมไปเอนเอียงเข้าข้างใคร หากลองกลับไปฟังใหม่อีกรอบ จะเห็นว่า BBC เขาเน้นถามผมถึงการออกมาประท้วงของฝ่าย กปปส. แต่ผมกลับตอบแถมไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล เสื้อแดง (Red Shirts) และวิเคราะห์ว้า ต่างก็อาจมีการปะทะกันและนำไปสู่การใช้ความรุนแรงทั้งคู่

>> เห็นได้ชัดเจนว่า ผมวิจารณ์ทุกฝ่ายในภาพรวมและไม่ได้ลงรายละเอียดเพ่งเล็งฝ่ายใด เพราะ BBC บอกผมว่า มีเวลาแค่ 2 นาที แต่ผมก็ยังอุตส่าห์วิจารณ์ฝ่ายเสื้อแดง ทั้งๆ ที่ BBC เขาไม่ได้ถามผม

>> และแม้เขาถามผมถึง กปปส. แต่ผมก็ไม่ได้พูดถึง มือปืนป็อปคอร์น หรือคนที่ไปบีบคอทำร้ายคนจะไปเลือกตั้งด้วย แต่แล้วทำไม่คุณเสริมสุขไม่ถามถึงกรณีเหล่านี้บ้างละครับ หรือเป็นเพราะว่า คุณเสริมสุขอยากได้ยินเฉพาะสิ่งที่ตัวเองอย่างได้ยิน ?

>> สิ่งที่ คุณเสริมสุขกำลังทำ คือการ "บิดเบือน" อย่างแนบเนียน ทำทีเอารูปที่ผมให้สัมภาษณ์มาตั้ง แล้วเขียนข้อความต่อเนื่องกันให้คนเข้าใจผิด และโกรธเกลียดชังกัน คุณเสริมสุขเป็นสื่อ ลองไปทบทวนตัวเองใหม่นะครับ

3. คุณเสริมสุข แสดงความเห็นเสริมมาว่า

“หากไม่ใช่สร้างเงื่อนไขเพื่อให้ทหารล้มกระดานจะได้เข้าทางที่คนแดนไกลต้องการ..ข้อมูลมาด้านเดียวอย่างนี้ไหวหรือ...มีเหตุผลใดที่ทหารต้องมาล้มกระดานในสถานการณ์ที่ปปช.ใก้ลชี้มูลความผิดนางยกกรณีจำนำข้าว จบข่าวเห็นๆอยู่แล้ว ทำให้ต้องมีการเคลื่อนไหวสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง”

>> พออ่านถึงตรงนี้ ผมเข้าใจเลยครับ สรุปที่คุณเสริมสุขหาว่าผมพูดเป็นเป็นตุเป็นตะ เข้าข้างใครนั้น ที่แท้เป็นเพราะคุณเสริมสุขเองก็อยากแสดง "ความเห็น" ของตนเอง ว่าอาจเป็นฝ่ายคุณทักษิณที่ต้องการทำรัฐประหาร เพื่อล้มกระดาน ปปช. แล้วแบบนี้ผมต้องกล่าวหาว่าคุณเสริมสุขเองก็ "เป็นตุเป็นตะ" เองหรือไม่ครับ ?

>> แต่ผมก็คงไม่กล่าวหาคุณเสริมสุขเช่นนั้น เพราะนั่นคือความเห็นของคุณเสริมสุขที่จะวิเคราะห์ แล้วถ้าคุณเสริมสุขจะวิเคราะห์แบบหนึ่งได้ แล้วเหตุใดผมจะวิเคราะห์อีกแบบไม่ได้ สรุปสุดท้าย คุณเสริมสุขเป็นเด็กเอาแต่ใจ ใครวิเคราะห์ไม่ตรงกับตัวเอง ก็จะต้องถือว่าเป็นตุเป็นตะ อย่างนั้นหรือครับ ?

4. คุณเสริมสุข กล่าวปิดท้ายว่า

“ดูบีบีซีอยู่พอดีเห็นมันทะยิ้มไปทางเดียว ONE WAY TICKET เลย มะไหว”

>> ผมขอย้อนถามว่า BBC เคยสัมภาษณ์เดี่ยวคุณยิ่งลักษณ์ และสัมภาษณ์เดี่ยวคุณอภิสิทธ์ ซึ่งแต่ละคนก็มีความเห็นไปในทางของตัวเอง แล้วเหตุไฉน คุณเสริมสุขถึงไม่เคยออกมาบ่น เวลา BBC เขาสัมภาษณ์คุณยิ่งลักษณ์ และสัมภาษณ์คุณอภิสิทธ์ คนเดียวบ้าง ?

>> หรือหากคุณเสริมสุขจะย้อนพิจารณาตัวเอง ยกตัวอย่างง่ายๆ เดือนที่ผ่านมา คุณเสริมสุข เขียนถึงกรณีการย้าย เลขา สมช. โดยคุณเสริมสุขอ้างถึง

- “แถลงการณ์ของคนทำงานในสภาความมั่นคงแห่งชาติ...สะท้อนความอึดอัดที่มีต่อการทำงานของเลขาสมช. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ...รับใช้การเมืองเต็มเหนี่ยว.....”

- วันต่อมาคุณเสริมสุขก็ลงคลิป “ถวิล เปลี่ยนศรี ขึ้นเวทีสวนลุม หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้รัฐบาลคืนตำแหน่งเลขาสมช.ภายใน45วัน”

- แต่ปรากฏว่า คุณเสริมสุขไม่เคยเขียนในที่และเวลาเดียวกันถึงความเห็น หรือบทสัมภาษณ์ของฝ่าย พล.ท.ภราดร เลย ทั้งๆ ที่คุณเสริมสุขเองก็เกาะติดฝ่ายความมั่นคง เคยไปทำข่าวตอน พล.ท.ภราดร ไปเจรจาภาคใต้

- แล้วแบบนี้ มันจะมีคนมองได้ไหมครับว่า “ดูเสริมสุขมันทะยิ้มไปทางเดียว ONE WAY TICKET เลย มะไหว” ?

>> ถ้าคุณเสริมสุขสำรวจตนเองแล้ว ยังเห็นว่า BBC รายงานข่าวทางเดียวในลักษณะไม่เป็นธรรม ผมเสนอให้คุณเสริมสุขลองเสนอตัวไปเป็นผู้วิเคราะห์ความเห็นให้ BBC ฟังบ้าง ในฐานะที่คุณเสริมสุขเองก็เป็นผู้สื่อข่าวอาวุโส มีผลงานรายงานข่าวในสายการเมือง ความมั่นคง และการต่างประเทศ หากคุณเสริมสุขมีความน่าเชื่อถือ และมีความคิดที่ควรค่าแก่การรับฟัง BBC ก็คงอยากสัมภาษณ์คุณเสริมสุขเป็นแน่ วันไหนที่มีคนเชิญคุณเสริมสุขให้แสดงความเห็น รบกวนบอกผมด้วย ผมจะรอฟังครับ แต่ถ้าสุดท้าย BBC เขายังเชิญผม โดยที่ไม่เชิญคุณเสริมสุข อันนั้นโทษผมไม่ได้นะครับ BBC เขาเป็นฝ่ายติดต่อผมมาเอง

ผมเสียดายฝีมือและความตั้งใจทุ่มเทของคุณเสริมสุข ที่ถูกอคติทางการเมืองเข้ามาครอบงำบดบัง แทนที่จะใช้ความสามารถมารายงานข่าวให้สังคมเกิดความเข้าใจกัน กลับนำความเป็นนักข่าวอาวุโสของไทยพีบีเอส มาเป็นเครื่องมือโจมตีให้ร้ายผู้อื่นที่เห็นต่างไปจากความเห็นกับตน ซึ่งพฤติกรรมของสื่อเช่นนี้ ก็คือสาเหตุสำคัญของความขัดแย้งในสังคมไทยทุกวันนี้

ผมขอย้ำให้เข้าใจว่า สิ่งที่คุณเสริมสุขกล่าวถึงผมครั้งนี้ อาจไม่รุนแรงเท่ากับครั้งก่อนๆ แต่พอคุณเสริมสุขทำต่อเนื่องกัน และไม่ได้ทต่อผมคนเดียว ผลที่ปฏิเสธไม่ได้ ก็คือ คุณเสริมสุขกำลังทำให้ "คนอ่าน" เอาสิ่งที่เขียนไปเชื่อมโยง "เป็นตุเป็นตะ" สะสมความโกรธเกลียดชังระหว่างคนไทยด้วยกัน ลองไปดู comment ต่อท้ายสิ่งที่คุณเสริมสุขเขียนสิครับ คนที่มากด like หรือ แสดงความโมโห โกรธ เกลียดต่อผมนั้น ก็เห็นกันอยู่ว่าเป็นพวกหมดหนทางไม่มีที่อื่นให้ไประบาย ก็เลยมามั่วสุมความโกรธเกลียดกันโดยมีคนแบบคุณเสริมสุขคอยจุดประเด็นนำให้ แล้วพอฟังคุณเสริมสุขจนเคลิ้ม เขาก็นึกว่าผมไปให้สัมภาษณ์ BBC ลักษณะเข้าข้างเสื้อแดง ให้ร้าย กปปส. จนมีคนมารุมด่าผมรุนแรง ถึงขั้นเชิงขุ่มขู่ทำร้ายผม ทั้งๆ ที่ความจริง BBC ถามผมเฉพาะ กปปส. แต่ผมวิจารณ์แถมไปถึงเสื้อแดง เพราะผมมุ่งวิจารณ์ทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม แม้จะมีเวลาสัมภาษณ์ 2-3 นาที ก็ตาม

พูดให้ถึงที่สุด ถ้าสุดท้ายคนไทยจะโกรธเกลียดันฆ่ากันตาย เลือดนั้นก็เปื้อนมือคนที่ชื่อ “เสริมสุข กษิติประดิษฐ์” รวมถึงคนใน ไทยพีบีเอส อื่นๆ ที่ยังปล่อยให้คุณเสริมสุขยังแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ต่อไป

ผมทราบมาว่า ที่ผ่านมามีหลายฝ่ายได้ร้องเรียนพฤติกรรมคุณเสริมสุขอย่างต่อเนื่องมาตลอด ผมคิดว่า “ไทยพีบีเอส” ควรดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของคุณเสริมสุข เพื่อไม่ให้องค์กรสาธารณะที่มีรายได้จากภาษีประชาชนต้องเสื่อมเสียไปมากกว่านี้ อย่างน้อยถ้าคุณเสริมสุขพร้อมจะสำนึก ขอโทษ และปรับปรุงตัวเอง ผมก็จะเป็นกำลังใจเพราะน่าจะยังทำประโยชน์ให้องค์กรต่อไปได้ไม่น้อย แต่ถ้าองค์กรไม่ช่วยคุณเสริมสุข ปล่อยให้คุณเสริมสุขทำตัวต่อไปแบบนี้ ก็อาจเป็นเพราะว่าองค์กรไทยพีบีเองมองว่าคุณเสริมสุขสายเกินช่วยได้ทันแล้ว

ผมจะรอฟังจากท่าน ผ.อ. สมชัย Somchai Suwanban แห่งไทยพีบีเอส (ซึ่งท่านเองก็เคยร่วมงานกับ BBC) ว่า ไทยพีบีเอส จะแสดงความเป็นมืออาชีพ โดยพิจารณาตักเตือน หรือตรวจสอบพฤติกรรมของคุณเสริมสุขอย่างไร และหากตักเตือนแล้ว คุณเสริมสุขยังไม่ปรับปรุงตนเอง ทางไทยพีบีเอสก็น่าจะชี้แจงต่อสังคมว่า ได้ตักเตือนแล้ว แต่ไม่เป็นผล และกำลังดำเนินการต่อไปอย่างไรต่อไปกับพนักงานองค์กรผู้รับเงินภาษีประชาชนที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ ?

ผมได้รับมิตรภาพและมีความรู้สึกดีต่อ "ไทยพีบีเอส" เสมอมา และเสียดายมิตรภาพที่ผมเคยมอบให้แก่ "พี่เป็ปซี่" แต่หาก "ไทยพีบีเอส" ต้องการมีบทบาทในการร่วมหาทางออกให้บ้านเมืองอย่างแท้จริง สิ่งแรกที่ทำได้ คือ การจัดการกับคนในองค์กรตัวเองที่ใช้อคติบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อสุมไฟให้คนไทยหันมาโกรธเกียดและขัดแย้งกันครับ

แต่ถ้า "ไทยพีบีเอส" ดูแลบ้านตัวเองไม่ได้ ก็ไม่รู้จะมีสื่อสาธารณะไหน ที่จะมาอาสาช่วยดูแลบ้านเมืองของเราได้

กรณีของ “เสริมสุข กษิติประดิษฐ์” หมักหมมเรื้อรังมานานแล้ว ถึงเวลาที่ "ไทยพีบีเอส" ต้องเริ่มชี้แจงความคืบหน้าแก่สังคมแล้วครับ.

วีรพัฒน์ ปริยวงศ์
30 มีนาคม 2557

---

กรณีผมให้สัมภาษณ์ BBC ชมคลิปย้อนหลังได้ที่ http://bit.ly/VP-BBC
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่